วันพฤหัสบดี ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
หลังจากสหรัฐประกาศจะเข้าแทรกแซงการใช้แม่น้ำโขงก็ทำให้เกิดการจับตากันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะบรรดาประเทศที่เกี่ยวข้องกับแม่น้ำโขงว่าเห็นทีศึกใหญ่จะเข้ามาในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อประเทศที่เกี่ยวข้องและประชาชนของประเทศเหล่านั้นด้วย
ดังนั้นชาวไทยซึ่งเป็นประชากรของหนึ่งในประเทศลุ่มแม่น้ำโขงจึงต้องช่วยกันจับตาดูอย่าให้ใครชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าแม่น้ำโขง เพราะนั่นคือการก่อสถานะศึกสงครามขึ้นในพื้นที่แห่งนี้ และชาวไทยนั่นแหละจะได้รับผลกระทบเดือดร้อนแสนสาหัส ดีไม่ดีจะถูกยึดครองเอาดื้อๆ
ประเทศลุ่มแม่น้ำโขงมีทั้งสิ้น 6 ประเทศ คือ จีน เมียนมา ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม หรือที่เรียกกันว่ากลุ่ม CLMVT เพราะประเทศดังกล่าวได้ตกลงจัดตั้งเป็นกลุ่มประเทศเพื่อใช้ประโยชน์ในแม่น้ำโขงร่วมกัน ดังนั้นจึงถึงเวลาที่คนไทยทั้งประเทศจะได้ทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้ชัดเจน จะได้ไม่ถูกใครปั่นหัวให้กลายเป็นเครื่องมือ “ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าแม่น้ำโขง”
แม่น้ำโขงนั้นเริ่มต้นที่ชายแดนประเทศจีนตอนใต้ ตรงรอยต่อกับด้านซ้ายที่เป็นประเทศพม่าและด้านขวาที่เป็นประเทศลาว มีน้ำจากทั้งจีน เมียนมา และลาว ไหลมารวมกันเป็นต้นแม่น้ำโขง
จะต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่าในประเทศจีนนั้นไม่มีแม่น้ำโขง เพราะมีการปั่นหัวให้เข้าใจผิดว่าจีนทำเขื่อนกั้นแม่น้ำโขง แล้วปั่นหัวให้คนไทยทะเลาะกับจีนอย่างหนักหน่วงอยู่ในขณะนี้
อันแม่น้ำในประเทศจีนนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็นสองซีก คือจากด้านเหนือตอนกลางประเทศจีนไปทางตะวันออกมีแม่น้ำหลายสายและไหลลงรวมไปที่แม่น้ำใหญ่สองสาย ซึ่งคนไทยรู้จักกันดีคือ แม่น้ำฮวงโหและแม่น้ำแยงซีเกียง
จากด้านเหนือตอนกลางประเทศจีนไปทางตะวันตกมีแม่น้ำเล็กๆ หลายร้อยสาย ไหลไปรวมกันเป็นแม่น้ำ 27 สาย ในจำนวน 27 สายนี้ มีแม่น้ำสายหนึ่งเรียกว่าแม่น้ำล้านช้าง แม่น้ำล้านช้างในประเทศจีนไหลลงล่างมาออกที่แม่น้ำโขงตรงจุดที่บรรจบกับชายแดนเมียนมาและลาวดังกล่าวข้างต้น
ประเทศจีนได้ให้ความสำคัญแก่การทำชลประทาน ดังนั้นจึงมีการสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำและบริหารจัดการน้ำเกือบทั่วทั้งประเทศเช่น การทำเขื่อนสามผาแถบต้นน้ำแม่น้ำแยงซีเกียง เป็นต้น
สำหรับแม่น้ำล้านช้างก็มีการสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำหลายเขื่อนซึ่งเป็นปกติของบรรดาประเทศทั้งหลายที่มีแม่น้ำสายใหญ่อยู่ในประเทศ ที่มีสิทธิตามกฎหมายในการสร้างเขื่อนในการกักเก็บหรือในการบริหารจัดการน้ำในประเทศของตนได้
ที่สำคัญคือเมื่อแม่น้ำโขงไม่มีในประเทศจีน การกักเก็บน้ำที่แม่น้ำแยงซีเกียงก็ดี หรือแม่น้ำล้านช้างก็ดี หรือแม่น้ำอื่นใดในประเทศจีนก็ดีย่อมเป็นสิทธิของประเทศจีน เช่นเดียวกับประเทศทั้งหลายที่กระทำการอย่างเดียวกัน แม้ในประเทศไทยของเราด้วย ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าประเทศจีนไม่ได้สร้างเขื่อนกักเก็บน้ำในแม่น้ำโขงแต่ประการใด
แม่น้ำโขงนั้นไหลจากชายแดนจีน เมียนมา และลาว ลงใต้ผ่านเมียนมา ลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนามไปออกทะเล ซึ่งสามารถจำแนกแม่น้ำโขงตลอดสายดังกล่าวได้เป็นหกตอนคือ
ตอนที่หนึ่ง เป็นต้นแม่น้ำโขง จากชายแดนจีน เมียนมา และลาว มาถึงประเทศไทยที่พื้นที่จังหวัดเชียงรายที่อำเภอเชียงแสนและอำเภอเชียงของ เป็นระยะทางประมาณเกือบ 300 กิโลเมตร แม่น้ำโขงตอนนี้เป็นแม่น้ำกั้นเขตแดนระหว่างจีน เมียนมา ลาว และไทย ซึ่งตอนนี้ไม่มีประเทศใดทำเขื่อนกั้นแม่น้ำโขงเลย
ตอนที่สอง แม่น้ำโขงจากตอนที่หนึ่งบริเวณพื้นที่จังหวัดเชียงราย อำเภอเชียงของ จะวกไปทางตะวันออกเข้าไปในดินแดนประเทศลาวในพื้นที่แขวงหลวงพระบาง และวกลงใต้ผ่านแขวงนครเวียงจันทน์ มาออกที่จังหวัดหนองคายของประเทศไทย แม่น้ำโขงตอนนี้เป็นแม่น้ำในประเทศลาว ดังนั้นประเทศลาวจึงมีสิทธิ์ที่จะทำเขื่อนกักเก็บน้ำ ซึ่งรัฐบาลลาวได้ร่วมทุนกับประเทศไทยด้วย ทำเองด้วย และร่วมกับประเทศจีนเป็นบางเขื่อนด้วย
ตอนที่สาม แม่น้ำโขงจากพื้นที่จังหวัดหนองคาย เลียบชายแดนประเทศไทยไปถึงจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งตอนนี้แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำกั้นเขตแดนระหว่างไทยกับลาว และไม่มีประเทศใดทำเขื่อนกั้นแม่น้ำโขงในตอนนี้เลย
ตอนที่สี่ แม่น้ำโขงจากตอนที่สามจะไหลเข้าไปในดินแดนประเทศลาวอีกครั้งหนึ่งในพื้นที่แขวงสุวรรณเขต ลงไปทางใต้จนสุดชายแดนประเทศลาวที่ติดกับประเทศกัมพูชา ที่จังหวัดสตึงเตร็งแม่น้ำโขงตอนนี้เป็นแม่น้ำในดินแดนของประเทศลาว ซึ่งประเทศลาวก็มีสิทธิ์ที่จะทำเขื่อนหรือกักเก็บน้ำประการใดก็ได้
ตอนที่ห้า เมื่อแม่น้ำโขงเข้าสู่ดินแดนกัมพูชาที่จังหวัดสตึงเตร็งแล้วจะไปบรรจบกับกระแสน้ำจากทะเลสาบของกัมพูชาบรรจบกันผ่านพนมเปญไปถึงชายแดนกัมพูชาติดกับเวียดนามที่นครโฮจิมินห์ แม่น้ำโขงตอนนี้จึงเป็นแม่น้ำโขงในดินแดนของประเทศกัมพูชา ที่กัมพูชาสามารถกั้นเขื่อนหรือกักเก็บน้ำได้
ตอนที่หก เมื่อแม่น้ำโขงไหลเข้าดินแดนของเวียดนามแล้วก็จะไหลลงทางใต้แล้วแยกออกเป็นสี่สาย ในพื้นที่นครโฮจิมินห์ไปออกทะเล และตอนนี้ก็เป็นแม่น้ำในดินแดนของเวียดนามซึ่งเวียดนามมีสิทธิ์กั้นเขื่อนและกักเก็บน้ำได้เช่นเดียวกัน
ประเทศลุ่มแม่น้ำโขงหรือ CLMVT ได้ร่วมกันใช้ประโยชน์จากแม่น้ำโขงทั้งหกตอนดังกล่าวโดยปกติสุขตลอดมา ไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งระหว่างกัน มีข้อโต้แย้งกันบ้างก็สามารถเจรจาหารือกันและมีข้อยุติโดยสันติตลอดมา
แต่ทว่าแม่น้ำโขงอันยาวเหยียดนี้ยังขาดการพัฒนามาช้านาน ดังนั้นในอดีตจึงเป็นที่ซ่องสุมของอาชญากรรมและการค้ายาเสพติดในพื้นที่ 6 ประเทศ ดังนั้นทั้ง 6 ประเทศ จึงนอกจากต้องลาดตระเวนร่วมกันตลอดลำน้ำโขงแล้วก็ได้คิดอ่านพัฒนาแม่น้ำโขงเพื่อประโยชน์สุขของชาวลุ่มแม่น้ำโขง
ต่อมาด้วยความดำริริเริ่มของบุคคลสำคัญของประเทศไทยจึงได้มีการประชุมครั้งสำคัญขึ้นที่เมืองซันย่า ประเทศจีน และทำความตกลงในการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขงให้สอดคล้องกับยุคสมัย โดยทุกประเทศได้ลงนามเป็นภาคีของสนธิสัญญานี้ซึ่งเรียกว่าปฏิญญาซันย่า
หลักการของปฏิญญาซันย่าคือ ประเทศกลุ่ม CLMVTจะร่วมกันพัฒนาแม่น้ำโขงให้พ้นสภาพจากแม่น้ำแห่งอาชญากรรมและยาเสพติด ให้เป็นแม่น้ำแห่งสันติภาพและการพัฒนา เพื่อประโยชน์สุขของประชาชาติทั้ง 6 ประเทศ
ในการพัฒนานั้นกำหนดแนวการพัฒนาสามประการคือ
ประการแรก จะร่วมกันพัฒนาแม่น้ำโขงตลอดสาย ให้เป็นแม่น้ำแห่งการท่องเที่ยว 6 ประเทศ ที่สวยงามและมีความสำคัญระดับโลกเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามายัง 6 ประเทศ และสามารถใช้เรือท่องเที่ยวขนาดยักษ์ในการเดินทางท่องเที่ยว 6 ประเทศด้วย
ประการที่สอง จะร่วมกันพัฒนาแม่น้ำโขงตลอดสายให้เป็นแม่น้ำแห่งการค้าขาย โดยเฉพาะในการขนส่งสินค้าค้าขายกันระหว่าง 6 ประเทศ โดยจะพัฒนาแม่น้ำโขงให้มีความลึกที่สามารถรองรับเรือสินค้าขนาดระวาง 500 ตัน หรือขนาด 50 ตู้คอนเทนเนอร์ได้ ซึ่งจะทำให้การค้าขาย 6 ประเทศที่มีประชากรเกือบ 2,000 ล้านคน เป็นตลาดการค้าที่ยิ่งใหญ่ของโลกอีกแห่งหนึ่ง
ประการที่สาม จะร่วมกันบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขงให้มีน้ำไหลเวียนตลอดทั้งปี สามารถเดินเรือท่องเที่ยวและเรือขนส่งสินค้าได้ตลอดทั้งปี เพื่อการนี้จีนรับหน้าที่ในการขุดลอกแม่น้ำโขงให้เป็นไปตามปฏิญญาซันย่านี้
ตามปฏิญญาซันย่าดังกล่าวมีรายละเอียดในการทำแผนปฏิบัติ ดังนั้นจึงตกลงกันว่าจะมีการลงนามในแผนปฏิบัติการดังกล่าวที่ประเทศกัมพูชาเมื่อปีที่แล้ว
ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลาลงนามในสัญญาแผนปฏิบัติการนั้น ทั้ง 5 ประเทศยกเว้นประเทศไทยได้ลงนามในแผนปฏิบัติการ ดังนั้น ประเทศไทยซึ่งไม่ยอมลงนามเข้าร่วมแผนปฏิบัติการจึงถูกตั้งข้อสังเกตว่าเพราะมีแรงกดดันหรือบังคับจากชาติใดหรือไม่ ซึ่งทำลายผลประโยชน์แห่งชาติและประชาชนชาวไทยอย่างรุนแรงที่สุด
และที่สหรัฐจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับพื้นที่แม่น้ำโขงนั้น ประเทศใดเล่าที่เป็นผู้ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าแม่น้ำโขง จึงเป็นที่จับตากันทั่วโลก โดยเฉพาะจีน เมียนมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม

‘อดีตเสธ.ทหาร’เผยรู้แหล่งผลิต PMN-2 แต่ไปไม่ถึงหลักฐาน เชื่อลุยถึงคลังเก็บมัดเขมรได้แน่
สัมผัสหนาวแรก! 'ห้วยน้ำดัง'15องศา ทะเลหมอกขาวนวลตัดกับเทือกเขา'ดอยหลวงเชียงดาว'
ทองคำพุ่งแรง! ปรับเพิ่ม 900 บาท ราคาทองรูปพรรณ 65,100 บาท
'ชัชชาติ'เผย'ฝนถล่มกรุง'ทำท่วมขังหลายจุด ยันไม่เกี่ยวน้ำเจ้าพระยา เร่งระบายเช้านี้แห้งปกติแล้ว
‘จุดชมวิวดอยกิ่วลม ห้วยน้ำดัง’อากาศเย็นสบาย นักท่องเที่ยวแห่ชมทะเลหมอก

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี