การปรากฏภาพความเคลื่อนไหวของ “นายทักษิณ ชินวัตร” ผู้ต้องหาหนีคำพิพากษาศาลคดีทุจริตประพฤติมิชอบมาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พุทธศักราช 2542 ผ่านทางทวิตเตอร์สนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มยุวชนและเยาวชนปลดแอก รวมถึงกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่กทม. ปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียงภายใต้ชื่อว่า “ประชาชนปลดแอก” เมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และทุ่งพระเมรุ ท้องสนามหลวง อ้างการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย แก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นประเด็นหลัก ทว่าสังคมไทยคงจำได้ ตระหนักได้ว่าการชุมนุมครั้งนั้นแกนนำพุ่งเป้าจาบจ้วงโจมตีด่าอาฆาตใส่ร้ายหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างหยาบคาย

แต่ดูเหมือนจะผิดหวังไปตามๆ กัน โดยเฉพาะกลุ่มสามตะกร้าอย่างนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, นายปิยบุตรแสงกนกกุล และพรรณิการ์ วานิช ที่สู้มาเดินตรวจตราสถานการณ์และตรวจสอบปริมาณเยาวชนมวลชนแบบเกาะติด อย่างที่บอกตอนต้นว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นความน่าผิดหวังชัดเจน ม็อบมวลชนคนรุ่นใหม่น้ำหมากย้อยที่กลุ่มสามตะกร้าและกลุ่มชังชาติ กระเหี้ยนกระหือรือให้เกิดขึ้นจุดไม่ติดใช้เวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ก็ประกาศสลายตัวนัดชุมนุมใหม่ให้ใหญ่กว่าเก่า 14 ตุลาคม 2563

ทว่า 1 เดือนหลังการชุมนุมที่น่าผิดหวังและอับอายพรรคเพื่อไทยที่แม้นจะขนคนเสื้อแดงมาเป็นกองหนุนร่วมการชุมนุมพร้อมสู้อุตส่าห์รับบทพระรองต่อจาก“กลุ่มสามตะกร้าและกลุ่มชังชาติ” คงได้ทบทวนสถานการณ์และบทเรียนที่ผ่านมา ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งที่โหมกระแสวาทกรรม “ต่อต้านการสืบทอดอำนาจ-ต่อยอดเผด็จการ คสช.” ส่องกระจกบวกลบคูณหารแล้ว ขาดทุนป่นปี้ ปล่อย “ทหารแก่และคณะ” แฮปปี้ถ้วนทั่วกินรวบทั้งต้นและดอก

ไม่นานเกินรอปรากฏภาพที่สองที่ “contrasts”ภาพแรกชัดเจน นายหญิงจันทร์ส่องหล้า “พจมานดามาพงศ์” หรือจะ “พจมาน ชินวัตร” ก็คือกันนายทุนใหญ่ตัวจริงเสียงจริง เปลี่ยนหน้าไพ่เล่นด้วยยุทธวิธีเดียวกับ “ทักษิณ” คนเคยเล่นบทนายใหญ่อยู่เหนือทุกอย่างในพรรคไทยรักไทย มาใส่เสื้อเหลืองแสดงความจงรักภักดีเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้เหนือเกล้าฯเข้าเฝ้าฯก้มกราบแทบฝ่าพระบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยุติข้อสงสัยและเสียงวิจารณ์ของสังคมไทยกับพรรคเพื่อไทยในเหตุการณ์การชุมนุม 19 กันยายนคนกันเอง พร้อมปรับโครงสร้างพรรคปั่นกระแส “รัฐบาลแห่งชาติ”ขึ้นมาถามทาง

“หญิงอ้อ”ส่องกระจกค้นพบตัวเอง จากบทเรียนซ้ำแล้วซ้ำเล่าทั้ง “แดงทั้งแผ่นดินขนาดนั้นยังทำอะไรไม่ได้”

จนคนในครอบครัวต้องเป็น “สัมภเวสี”พังพินาศเยี่ยงปัจจุบันนี้

เปลี่ยนเจ้าของฟาร์มใหม่ จูงเดรัจฉานการเมืองเดิมที่ย้ายคอกกลับคอกเดิม ถีบหัว “เด็กสร้างบ้าน หัวล้านสร้างวัด”ออกไป

เร่งขจัดพญาอินทรีรวมฝูงนกกระจอก เย็บพรรคที่แตกเรียกคืนคะแนนที่โดนเด็กสร้างบ้านขโมยไปคืนกลับมายิ่งใหญ่ในการเมืองไทยอีกครั้ง ก็ยังมีทาง