เรื่องที่อื้อฉาวมากเรื่องหนึ่งในขณะนี้ก็คือเรื่องยาเสพติด ที่มีการแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดเป็นครั้งเป็นคราวทั้งในกรุงเทพฯ และในต่างจังหวัด ซึ่งได้แถลงยอดการจับกุมแต่ละครั้งเป็นจำนวนมากมายชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ครั้งหลังสุดนี้ก็มีการแถลงผลการจับกุมอย่างเป็นทางการว่ามีการจับกุมยาเสพติดร้ายแรงเป็นมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ คือมีมูลค่าถึง 35,000 ล้านบาท แถลงแล้วก็เงียบหายไป จึงทำให้เกิดความสนใจติดตามข่าวคราวเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวาง
และล่าสุดผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องก็ต้องออกมาแถลงว่าผลการสุ่มตรวจยาเสพติดที่ว่าจับกุมได้นั้นปรากฏว่าไม่ใช่ยาเสพติดร้ายแรงเสียแล้ว แต่เป็นสารเคมีชนิดหนึ่งซึ่งราคาถูกมากและหาได้ทั่วไป เพราะไม่ใช่ของผิดกฎหมายอะไร ทำให้มูลค่าที่เคยแถลงเรื่องยาเสพติดที่มีมูลค่า 35,000 ล้านบาท กลายเป็นสารเคมีที่มีมูลค่าเพียงแสนกว่าบาทเท่านั้น
จึงกลายเป็นเรื่องฮือฮาและยิ่งเป็นที่จับตามองมากขึ้น ถึงขนาดที่มีกลุ่มนักกฎหมายคณะหนึ่งไปแจ้งความกล่าวหาว่ามีการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ โดยอ้างว่าที่เคยแถลงข่าวว่าได้จับกุมยาเสพติดจำนวนมากถึง 35,000 ล้านบาท นั้นเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยไม่ชอบ
ก็เป็นเรื่องแปลกในบ้านเมืองมากเรื่องหนึ่ง เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าในการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ๆนั้นจะต้องผ่านการพิสูจน์เบื้องต้นเสียก่อนว่าของกลางนั้นเป็นยาเสพติด ไม่ใช่ข้าวเปลือกข้าวสารหรือของอย่างอื่น เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็มีผู้เชี่ยวชาญอยู่จำนวนมาก และมีเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญถึงระดับแค่เดินผ่านก็รู้แล้วว่าเป็นยาเสพติดหรือไม่
ดังนั้น เมื่อมีการตั้งวงแถลงข่าวใหญ่โตไปทั่วโลกว่ามีการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ที่สุดของโลก มีมูลค่าสูงถึง 35,000 ล้านบาท คนทั้งหลายก็ต้องเชื่อถือว่าเป็นความจริง
เพราะคณะผู้แถลงข่าวก็มีเจ้าหน้าที่จำนวนมากที่มีความเกี่ยวข้องในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด มีความรู้ความชำนาญเป็นอย่างดี ไม่ใช่เอาพ่อครัวหัวป่าที่ไหนไปแถลงกัน
นอกจากนั้น ในการแถลงข่าวก็ยังระบุความเชื่อมโยงให้น่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก เพราะมีการแถลงข่าวว่าการจับกุมรายนี้เป็นผลจากการสืบทราบของหน่วยงานลับด้านยาเสพติดของไต้หวันและมีการจับกุมบางส่วนได้ที่ไต้หวัน จึงมีการประสานงานมาให้ฝ่ายไทยดำเนินการ
และในข่าวคราวนั้นก็ระบุด้วยว่ามีการซ่อนของกลางไว้ที่ไหน จึงทำให้สามารถตรวจค้นจับกุมได้ตรงตามที่มีการแจ้งมาจากไต้หวัน
นอกจากนั้น ก็ยังมีการแถลงถึงที่ไปที่มาอีกว่าผู้ที่นำของกลางมาไว้ที่นี่เป็นชนส่วนน้อยจากจังหวัดเชียงราย ซึ่งฟังก็พอเข้าใจได้ว่าของกลางรายนี้มาจากจังหวัดเชียงราย และมาเช่าโกดังเก็บซึ่งโกดังดังกล่าวนี้ก็ไม่ใช่โกดังเก็บของสำหรับเป็นสารเคมีอย่างอื่น แต่เป็นโกดังสำหรับเก็บของเฉพาะ ซึ่งถ้าหากไม่มีข่าวข้อมูลลับก็ไม่มีทางที่จะค้นพบจับกุมได้
ดังนั้นเมื่อมีการแถลงข่าวเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องโด่งดังไปทั่วทั้งโลก และใครๆ ก็เชื่อว่าประเทศไทยได้จับกุมยาเสพติดรายใหญ่ของโลกได้จริงๆ
สำหรับผู้คนในวงการก็สามารถคาดเดาได้ว่ายาเสพติดประเภทนี้และมีรายใหญ่ขนาดนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับต่างชาติโดยเฉพาะกับแหล่งผลิตไม่ว่าในอัฟกานิสถานหรือในตะวันออกกลางบางพื้นที่ซึ่งใครๆ ก็รู้ดีว่าถ้าเป็นยาเสพติดจากพื้นที่เหล่านี้แล้วมีต่างชาติใดบ้างที่อยู่ในข่ายเกี่ยวข้อง
แต่เป็นเรื่องที่แปลกก็คือหลังจากมีข่าวคราวการจับกุมครั้งเดียวแล้วเรื่องราวก็เงียบหายไป ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติวิสัยมาก จนมีการกล่าวขวัญกันในโซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวางว่ายาเสพติดที่ตรวจยึดได้หายไปไหน และทำไมจึงไม่จับกุมถึงต้นตอหรือผู้เกี่ยวข้อง ทำประหนึ่งเรื่องราวหายสาบสูญไร้ร่องรอย
จึงเป็นทางให้คนไม่ดีฉวยโอกาสใส่ร้ายเบื้องสูงว่ายาเสพติดรายนี้ไม่ใช่ของคนธรรมดา เกิดเป็นข่าวลือหนาหูขึ้นทั้งบ้านทั้งเมือง จนทำให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องที่ตกเป็นเป้าของข่าวลือต้องได้รับความเสียหายเป็นอันมาก
ในขณะที่ข่าวลือเรื่องนี้กระจายไปตามโซเชียลมีเดียมากเท่าใดก็กลายเป็นแรงกดดันผู้เกี่ยวข้องว่าจะเอาอย่างไรกันแน่ ในที่สุดก็มีการแถลงข่าวว่าของกลางนั้นไม่ใช่ยาเสพติด แต่เป็นสารเคมีชนิดหนึ่ง
ทำให้กลายเป็นเรื่องตลกโปกฮาเรื่องใหญ่ในบ้านเมืองของเรานี้ และทำให้มีการสืบความยาวสาวความยืดเกี่ยวกับการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่หลายครั้ง ซึ่งมีการแถลงข่าวกันเอิกเกริก แต่ในที่สุดทุกเรื่องก็เงียบหายไปหมด
จึงกลายเป็นข่าวอัปมงคลที่ก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะกลายเป็นเครื่องมือให้กับคนไม่ดีปล่อยข่าวลือใส่ร้ายเบื้องสูง ในขณะเดียวกันก็เกิดความไม่เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมว่าทำไมเรื่องใหญ่โตขนาดนี้หลายเรื่องที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันมาจึงกลายเป็นเรื่องหายสาบสูญไปกับสายลม
มันเป็นไปได้อย่างไร นี่ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่เป็นเงาทะมึนดำอยู่ในกระบวนการยุติธรรมชั้นต้น และทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นอย่างร้ายแรงต่อการบริหารราชการแผ่นดิน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี