วันพุธ ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
การอภิปรายไม่ไว้วางใจในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา จัดว่าเป็นเรื่องสำคัญยิ่งเรื่องหนึ่ง เพราะเป็นโอกาสที่ทั้งฝ่ายรัฐบาล (ผู้ถูกกล่าวหา) และฝ่ายค้าน (ผู้กล่าวหา) จักพึงได้แสดงสติปัญญา ผ่านทางฝีปากในการอภิปรายต่อสาธารณชน ซึ่งอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ รวมถึงธรรมเนียมปฏิบัติ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกในการเสริมสร้างสังคมเสรีประชาธิปไตย แถมยังช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมให้กับบรรดาพลเมืองอีกด้วย
ฉะนั้น จึงกล่าวได้ว่า กระบวนการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้นถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับระบอบประชาธิปไตย เพราะทำให้ประชาชนพลเมืองได้ทั้งความรู้ และได้รู้จักบรรดาผู้แทนของตนมากขึ้นโดยเฉพาะเมื่อได้ฟังการอภิปรายแล้ว จะได้นำไปประเมินคุณค่า และคุณภาพของผู้แทนที่ตนเลือกมา
และเมื่อเป็นเรื่องที่ดีของระบอบสังคมเสรีประชาธิปไตย จึงมีภาระผูกพันตามมาสำหรับบรรดาผู้ที่จะทำการอภิปรายว่า คุณภาพของเนื้อหาในการอภิปรายนั้นจะต้องดี มีมาตรฐาน ถูกต้องตามหลักกฎหมาย และศีลธรรมจรรยา เพื่อที่ประชาชนพลเมืองจะได้ประโยชน์ในการรับฟังทั้งในด้านองค์ความรู้ และผลการอภิปราย ที่จะนำไปสู่การถอดถอนบุคคลในตำแหน่งรัฐมนตรีที่ด้อยคุณภาพออกจากการบริหารประเทศ จึงจะเป็นการแก้ไขปัญหา และปรับปรุงเรื่องส่วนรวมให้ดีขึ้นนอกจากนั้น เมื่อได้รัฐมนตรีใหม่มา ก็จะได้มีวิธีการใหม่ๆ ในการแก้ไขปัญหา และนำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น
ที่กล่าวมานั้นเป็นเรื่องทางทฤษฎีและหลักการทั่วไป เพราะในทางปฏิบัติแล้ว การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านๆ มาในรัฐสภาชุดต่างๆ มักจะออกมาในรูปของการ “ชกลม” “ปาหี่” “เอามัน” หรือ “เอาคืน” เสียมากกว่าที่จะมีสาระเนื้อหาที่จะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน หรือช่วยเสริมสร้างความศรัทธาในระบอบรัฐสภา
นั่นอาจจะเป็นเพราะ ไม่ว่าฝ่ายค้านจะเสนอเนื้อหาเข้มข้นเพียงใด อภิปรายถึงความผิดพลาด ข้อบกพร่อง ของรัฐมนตรีคนใดได้จะแจ้งเพียงใดก็ตาม ในที่สุด ฝ่ายรัฐบาลที่มีเสียงข้างมาก ก็มักจะเป็นฝ่ายชนะ (แบบพวกมากลากไป) นั่นคือไม่มีรัฐมนตรีคนใดจะถูกถอดถอนได้ผ่านกระบวนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งก็มาจากการที่สมาชิกรัฐสภาฝ่ายรัฐบาลไม่ได้มีจิตสำนึกส่วนตนเป็นที่ตั้ง และทำหน้าที่ตัดสินใจถูก-ผิดได้ด้วยตนเอง (ตามอภิสิทธิ์ส่วนตัวของสมาชิกสภาผู้แทนฯ ในการออกเสียงตามที่รัฐธรรมนูญให้ไว้) ทำได้เพียงการยกมือตามคำสั่งพรรค และวิปรัฐบาล โดยมักจะอ้างเรื่องธรรมเนียมปฏิบัติ มารยาททางการเมือง ขึ้นมาบังหน้า ทั้งๆ ที่มันขัดกับหลักการประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม ผู้อภิปรายฝ่ายค้านก็ท้อถอยไม่ได้ และไม่มีสิทธิ์ที่จะย่นย่อไม่เอาจริงเอาจังกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งจะต้องทำหน้าที่ค้นคว้าหาข้อมูล ที่เป็นข้อเท็จจริง และนำมาถ่ายทอดให้สาธารณชนฟังอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเพราะแม้ฝ่ายค้านจะพ่ายแพ้ (จากการเป็นเสียงข้างน้อย)แต่คุณค่าของการอภิปรายที่มีต่อสาธารณชน ก็อาจนำไปสู่การกดดันให้รัฐมนตรีที่ไร้ความสามารถนั้นๆ ลาออกได้ เพราะไม่สามารถทนทานกับข้อเท็จจริงที่เป็นที่ประจักษ์ หรือหากจะดึงดัน โดยไม่ลาออก ก็จะถูกสังคมตีทุกวี่ทุกวันไปเรื่อยๆ เพราะถูกตัดสินว่าผิดจากสังคมไปเสียแล้ว
ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่กำลังจะถึงนี้ ได้มีการกล่าวหารัฐมนตรีจำนวน 10 คน ซึ่งก็เป็นการกล่าวหาด้วยคำกว้างๆ ซ้ำๆ เช่น ผิดพลาด ไร้ความสามารถ ไม่โปร่งใส เป็นต้น ซึ่งไม่ได้มีรายละเอียด หรือไม่มีประเด็นชัดเจนลงไปว่า รัฐมนตรีแต่ละคนที่ฝ่ายค้านเลือกมาอภิปรายนั้น ได้ทำผิด บกพร่อง ไร้ฝีมือ ในเรื่องอะไรแน่
ยังมีเวลาหลายวันกว่าการอภิปรายจะมาถึง(19-21 กุมภาพันธ์ 2564) ก็น่าที่บรรดาฝ่ายค้านจะโหมโรงด้วยการแจงประเด็นต่างๆ ที่ชัดเจนออกมาเสียก่อน จะได้ช่วยเพิ่มองค์ความรู้ให้กับสาธารณชน ให้ได้ไปเตรียมตัวหาข้อมูลเบื้องต้นกันก่อนที่จะได้ฟังการอภิปราย
การแพ้คะแนนเนื่องจากเป็นเสียงข้างน้อยไม่สำคัญเท่ากับการทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างสมเกียรติ โดยอภิปรายอย่างเต็มความสามารถ และเต็มไปด้วยสาระ ซึ่งหากฝ่ายค้านทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ให้กับประชาชนไทยอย่างแท้จริงแล้ว แม้จะแพ้ในสภา แต่ชนะใจประชาชน ก็จะเป็นเรื่องที่แสนจะยิ่งใหญ่
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com

เปิดใจ! อาสากู้ภัยนำข้าวแจกชาวบ้าน ถูกน้ำพัดหาย ยันไม่ท้อ กลับมาช่วยต่อ ส่งข้าวกล่องใหม่ 200 ชุด
'HP'เตรียมปลดพนักงานครั้งใหญ่6,000ตำแหน่งทั่วโลก หวังลดค่าใช้จ่ายรับยุคของAI
โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ 'เขมวันต์ สงคราม' เป็นพลเรือเอก และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
หมอสมเกียรติ คลินิกดังกระบี่ เปิดคลินิกรักษาฟรี2วัน ส่งต่อทุกบาทช่วยน้ำท่วม
‘อนุทิน’เยี่ยมศูนย์ อพยพ ม.อ.หาดใหญ่ สั่งเร่งระดมช่วยคนติดค้าง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี