โคขวิดเป็นไวรัสพันธุ์ใหม่แต่ไม่ใช่ไวรัสเถื่อนเพราะเป็นไวรัสที่มีเจ้าของ เนื่องจากมีการจดทะเบียนสิทธิบัตรไว้ตั้งแต่ปี 2562 รวมทั้งมีการจดทะเบียนสิทธิบัตรวัคซีนสำหรับใช้ป้องกันโคขวิดในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน
ดังนั้นการสร้างกระแสข่าวให้เกิดความสับสนว่าคนนั้นคนนี้ประเทศนั้นประเทศนี้เป็นต้นตอของการแพร่ระบาดโคขวิดจึงเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น แต่ความจริงก็คือมีการสร้างกระแสข่าวเพื่อให้คนทั้งโลกหวาดกลัวโคขวิดตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มจะระบาด และวางแผนจำหน่ายวัคซีนให้ประชากรโลก 7,000 ล้านคน มาตั้งแต่ปลายปี 2562 แล้ว
มีการจัดระบบการปั่นกระแสข่าวให้หวาดกลัวโคขวิดกันตั้งแต่ยังไม่ทันตั้งชื่อเป็นทางการ โดยตอนแรกเรียกว่าไวรัสจีน แล้วเปลี่ยนเป็นไวรัสอู่ฮั่น ต่อมาองค์การอนามัยโลกจึงกำหนดชื่อเป็นทางการว่าไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นไวรัสตัวเดียวกันนั่นเอง
ในการประชุมวางแผนจำหน่ายวัคซีนในปลายปี 2562มีการอธิบายว่าในช่วงตรุษจีนปี 2563 จะมีไวรัสร้ายแรงระบาดขึ้นในโลก จะมีผู้ติดเชื้อ 650 ล้านคน และจะมีผู้เสียชีวิต 250 ล้านคน ดังนั้นจึงต้องเตรียมการวางแผนการจำหน่ายวัคซีนป้องกันไวรัสดังกล่าวตามที่ได้จดทะเบียนสิทธิบัตรไว้
ปรากฏว่าเมื่อเริ่มปลุกกระแสข่าวการแพร่ระบาดของโคขวิดที่เมืองอู่ฮั่นก็มีการโหมกระแสกันอย่างบ้าคลั่ง มีการรายงานเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อรายวัน ผู้ติดเชื้อสะสม และผู้เสียชีวิตรายวัน รวมทั้งผู้เสียชีวิตสะสม ตลอดจนอาการทุกข์ทรมานและน่าสยดสยองเกี่ยวกับคนป่วยจนตื่นตระหนกตกใจกันทั้งโลก
รูปแบบการรายงานการแพร่ระบาด การป่วยสะสมและการเสียชีวิตสะสม ตลอดจนความน่าหวาดกลัวได้กระทำเป็นอย่างเดียวกันในทุกประเทศทั่วโลก ซึ่งในลักษณะนี้ก็เห็นได้ชัดว่าการสร้างโคขวิดและการเตรียมวัคซีนโคขวิดนั้นคงจะสำเร็จตามที่วางแผนไว้อย่างแน่นอน
แต่สวรรค์ไม่เข้าข้างนักวางแผนระดับโลกที่อำมหิตรายนี้ ปรากฏว่าในช่วงแรกของการแพร่ระบาด ประเทศจีนได้ค้นพบว่าโคขวิดนั้นเป็นไวรัสที่เกิดจากการตัดต่อพันธุกรรมระหว่างไวรัสไข้หวัดซาร์สกับไวรัสเอดส์ พร้อมกับคิดค้นสูตรยาในการรักษาโคขวิดได้สำเร็จ แต่ถ้าจะต้องวิจัยและผลิตก็จะต้องเสียเวลามาก อาจจะไม่ทันต่อการแพร่ระบาด เพราะขณะนั้นประเทศจีนมีผู้ติดเชื้อประมาณ 70,000 คนแล้ว และประเทศไทยก็มีผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีนมากที่สุดของโลกด้วย
แผ่นดินประเทศไทยนี้ศักดิ์สิทธิ์ พระสยามเทวาธิราชมีจริง ประเทศจีนได้ตรวจพบว่าประเทศไทยมียาที่มีสูตรรักษาโคขวิดตามที่จีนได้ค้นพบ จึงได้ประสานขอความร่วมมือและได้รับตัวอย่างยาดังกล่าวจากประเทศไทย ซึ่งเป็นยาที่ใช้รักษาโรคเอดส์มากว่า 20 ปีแล้ว และมีต้นทุนการผลิตต่ำมากแค่เม็ดละ 3 บาท
เมื่อประเทศจีนได้ตัวอย่างยาจากประเทศไทยก็ได้ทำการผลิตอย่างขนานใหญ่ จากนั้นก็ประกาศใช้ยาในการป้องกันรักษาโคขวิดอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ประกาศ อย.จีน ฉบับที่ 4-8 ซึ่งมีทั้งยาจีนแผนโบราณและยาแผนปัจจุบันหลายสิบชนิด
ทางการจีนได้ประกาศให้ผู้ที่มีความผิดปกติหรือสงสัยว่าจะติดโคขวิดให้ไปซื้อหายาตามประกาศดังกล่าวได้และกินเองที่บ้าน หากอาการมากขึ้นและแน่ชัดว่าเป็นโคขวิดก็ให้ไปรักษาที่โรงพยาบาล และด้วยมาตรการหลายอย่างของประเทศจีนก็สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสได้สำเร็จ นับถึงบัดนี้มีผู้ป่วยสูงสุดระดับแสนคน โดยสามารถรักษาผู้ป่วยสูงสุดในประเทศจีนซึ่งมียอดรวมประมาณ 85,000 คน ให้หายได้หมดสิ้น
ประเทศไทยก็ได้พบวิธีการรักษาโดยใช้ยาที่ส่งไปช่วยประเทศจีน และได้คิดแบบแผนการรักษาด้วยพลาสมาได้สำเร็จและประเทศทั้งหลายก็ได้นำแบบแผนนั้นไปใช้ ยกเว้นประเทศไทย
มีการปลุกกระแสให้ตั้งความหวังในการรับมือกับโคขวิดไว้ที่วัคซีน แต่สวรรค์ไม่เข้าข้างคนผิดอีก ปรากฏว่าวัคซีนรุ่นแรกที่วางแผนจะจำหน่ายทั่วโลกนั้นไม่สามารถป้องกันโคขวิดได้เพราะเมื่อโคขวิดเริ่มระบาดก็กลายพันธุ์จึงทำให้เกิดความเสียหายจำนวนมาก ต้องระดมทุนในรอบที่สองเพื่อปรับปรุงสูตรวัคซีนใหม่แต่ในที่สุดก็ล้มเหลวอีก คราวนี้จึงเกิดการร่วมมือกับต่างประเทศทั้งประเทศเยอรมนี อังกฤษ และอิสราเอล เพื่อปรับปรุงสูตรวัคซีนใหม่
ผลปรากฏว่าวัคซีนที่ผลิตขึ้นในกลุ่มนี้ได้อาศัยเชื้อไวรัสเป็น ทำให้ต่อมาปรากฏผลข้างเคียงขึ้น คือเกิดฟองอากาศในหลอดเลือดและเป็นเหตุให้เสียชีวิตทั้งฉับพลันหรือไม่ก็พิกลพิการ จนบางประเทศต้องยุติการผลิต
และมีการปรับปรุงสูตรวัคซีนกันมาโดยลำดับ ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มชัดเจนแล้วว่าอาจไม่สามารถป้องกันโคขวิดที่กลายพันธุ์ไปเป็นทอดต่างๆ ได้ แต่ก็ยังคงมีความหวังกันอยู่และขณะนี้ก็มีการจัดจำหน่ายไวรัสกันอย่างเอิกเกริก
ในขณะที่การแย่งกันจำหน่ายวัคซีนและเกิดขึ้นในท่ามกลางกระแสความลังเลสงสัยของผู้คนทั่วโลกเกี่ยวกับผลข้างเคียงหรือผลกระทบจากการฉีดวัคซีนซึ่งก่อให้เกิดความลังเลสงสัยอย่างกว้างขวาง กับความเร่งรัดปลุกกระแสแย่งกันหาแย่งกันฉีดวัคซีนก็กลายเป็นกระแสใหญ่ของโลกในปัจจุบันนี้
ในขณะที่โหมกระแสเรื่องการจำหน่ายวัคซีนนั้นกลับปรากฏข่าวพิสดารเกิดขึ้นในโลก นั่นก็คืออินเดีย อิหร่าน จีน และรัสเซีย ประสบความสำเร็จในการคิดค้นยาพ่นจมูกและยาพ่นปากที่มีผลต่อการป้องกันและรักษา
โคขวิดได้ และมีการระบุว่าสามารถป้องกันรักษาได้ถึง 100%
ที่สำคัญคือยาพ่นจมูกและยาพ่นปากสำหรับป้องกันและรักษาโคขวิดนั้นผลิตได้ง่าย พกพาง่าย และใช้ได้ง่าย ดังนั้นจึงเกิดเป็นความหวังใหม่ขึ้นในการป้องกันและรักษาโคขวิด เพราะถ้าข่าวคราวนี้เป็นผลจริงตามที่มีการรายงานข่าวนั้นก็เป็นอันว่ามหกรรมปล้นโลกเกี่ยวกับโคขวิดก็จะสิ้นสุดลง
จะหมายความต่อไปด้วยว่าความฉิบหายวายวอดจากมาตรการและกระบวนการทั้งหลายในการป้องกันโคขวิดของประเทศต่างๆ ทั่วโลกก็จะสิ้นสุดลงด้วย โลกจะได้กลับคืนสู่สภาวะปกติเสียทีหนึ่ง
ในขณะที่เกิดความหวังดังกล่าวขึ้นทั่วโลกก็มีข่าวดีเกิดขึ้นในประเทศไทยเช่นเดียวกัน มีรายงานข่าวว่าสภากาชาดไทยสามารถคิดค้นยาพ่นจมูกและยาพ่นปากสำหรับป้องกันโคขวิดเช่นเดียวกันกับต่างประเทศ และยังระบุด้วยว่าองค์ประกอบสำคัญของยาดังกล่าวคือผลิตภัณฑ์ P80 ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้เป็นนวัตกรรมล้ำค่าของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่คิดประดิษฐ์ขึ้นโดยการแปรรูปจากลำไยธรรมชาติ 100% ซึ่งต่อมาบริษัทเอกชนได้ซื้อสิทธิบัตรไปตั้งโรงงานผลิตจำหน่ายส่งออกไปทั่วโลก
ข่าวคราวเกี่ยวกับเรื่องยาพ่นปากพ่นจมูกสำหรับรักษาโคขวิดทั้งต่างประเทศและในประเทศเป็นข่าวที่ดีที่สุดของปี 2564 และกลายเป็นความหวังของมวลมนุษย์รวมทั้งชาวไทยทั้งผองด้วย ที่จะได้ตั้งความหวังว่าในเร็วๆ นี้ยาดังกล่าวจะได้ออกสู่ตลาดและเมื่อนั้นวิกฤติของชาติก็จะสิ้นสุดยุติลงเสียทีหนึ่ง
ความจริงยาสำหรับพ่นปากและพ่นจมูกนั้นก็มีอีกขนานหนึ่งซึ่งอดีตผู้อำนวยการโครงการพระราชดำริกองทัพบก พลเอกอรรฐพร โบสุวรรณ ได้คิดค้นขึ้นจากตำรับยาสมุนไพรไทย โดยจัดทำเป็นนวัตกรรมใหม่เป็นสารสกัดธรรมชาติ และขึ้นทะเบียน อย. เป็น“สเปรย์พ่นปาก สรรพคุณฆ่าเชื้อโรคในช่องปากและทางเดินอาหาร ระงับกลิ่นปาก แก้ไอเจ็บคอ แก้แผลในช่องปากโดยมีเครื่องหมายการค้าว่า BEAU Mouth Spray”
ได้มีผู้นำสเปรย์พ่นปากดังกล่าวไปใช้ในจังหวัดสมุทรสาครโดยมีผู้นำไปแจกจ่ายให้กับราษฎรในพื้นที่เสี่ยง ผลปรากฏว่ามีความปลอดภัย จึงเป็นเรื่องต้องพิสูจน์กันต่อไปว่ายาดังกล่าวนี้สามารถใช้ป้องกันรักษาโคขวิดได้ด้วยหรือไม่
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี