นักการเมือง ครูอาจารย์ ผู้เฒ่า พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ซึ่งแอบสนับสนุนและให้ท้ายการกระทำของจำเลยในคดี 112 มาโดยตลอด

ขณะนี้ ได้พากันออกมากดดัน เรียกร้อง ขอให้ปล่อยตัวจำเลย

อ้างว่าจำเลยเป็นนักศึกษา จะต้องไปเรียนหนังสือ

อ้างว่าการไม่ให้ประกันระหว่างดำเนินคดีนั้นไม่เป็นธรรม ฯลฯ

1. ข้อเท็จจริง คือ จำเลยที่ศาลไม่ให้ประกันในขณะนี้ ได้แก่ เพนกวิน อานนท์ สมยศ หมอลำแบงค์ ไผ่ ไมค์ รุ้ง แอมมี่ และโตโต้ (ไม่โดน112)

จำเลยที่เหลือรวมเกือบ 30 คน ศาลให้ประกันหมด

เฉพาะคนที่ไม่ได้ประกันนั้น แต่ละคนมีการกระทำผิดหลายครั้งหลายหน มีคดีหลายคดี

แต่ละคดี มีหลายข้อหา รวม 112 ด้วย

ส่วนใหญ่ เคยถูกควบคุมตัวเข้าเรือนจำแล้ว และเคยได้ออกมาสู้คดีนอกคุกแล้ว แต่ก็ยังมีพฤติการณ์ชุมนุม เคลื่อนไหว กระทำการปราศรัยจาบจ้วงล่วงละเมิด ย่ำยีจิตใจพสกนิกรผู้จงรักภักดีทั่วประเทศอยู่ต่อไปอีก

โดยไม่มีทีท่าจะลดละ หรือสำนึกว่ากำลังกระทำการที่ย่ำยีหัวใจคนไทย ด้วยการจาบจ้วงองค์พระประมุขของแผ่นดิน พ่อของแผ่นดิน

ยกตัวอย่าง 3 คนนี้ ข้อมูลตั้งแต่ปีที่แล้ว เดือนกันยายน 63ปรากฏว่า

ไมค์ มีหมายจับอยู่กว่า 10 หมาย

เพนกวิน หมายจับ 23 หมาย

รุ้ง หมายจับ 11 หมาย

มากมายขนาดนี้ เพราะได้รับการยุยงส่งเสริม เที่ยวไปปราศรัย ต่างกรรมต่างวาระ ไม่ยำเกรงกฎหมาย

2. คุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ เขียนให้แง่คิดได้เฉียบคม บอกว่า

“เมื่อนักกฎหมายแสดงความเห็นทางกฎหมายท่ามกลางเสียงปรบมือ

-การแสดงความเห็นทางกฎหมาย ไม่ว่า คุณจะนุ่งโสร่ง หรือแต่งสูท คุณจะนั่งกินส้มตำอยู่หน้าปั๊มน้ำมัน หรือนั่งกินอยู่ในโรงแรม 5 ดาว ความเห็นทางกฎหมายของคุณต้องเหมือนเดิม การแสดงความเห็นทางกฎหมายหากคุณแสดงความเห็นท่ามกลางเสียงเชียร์ของพวกเดียวกัน รับรอง ชาวบ้านได้ติดคุกกันยาว

-ผมเห็นนักกฎหมาย แสดงความเห็นบนเวทีปราศรัยท่ามกลางการชุมนุมว่า “ตำรวจไม่มีสิทธิสลายการชุมนุม” ผู้ชุมนุมฮึกเหิม เข้าปะทะกับตำรวจ แน่นอน ผู้ที่เชื่อนักกฎหมายแบบนี้แล้วเข้าปะทะกับตำรวจคุณได้ติดคุกยาว

-ผมเห็นนักกฎหมายบอกว่า ต้องยกเลิกมาตรา 112 จากนั้น ผมเห็นมีผู้ละเมิดม.112 นักกฎหมายเดินทางกลับบ้านอย่างภูมิใจ จากนั้น ผมเห็นผู้ชุมนุมทยอยเดินเข้าคุกกันเป็นแถว

-การแสดงความเห็นทางกฎหมาย ไม่ว่าแสดงความไปแล้วใครจะด่าใครจะสรรเสริญ คุณต้องซื่อตรงต่อวิชาชีพ หากคุณต้องการเพียงคำสรรเสริญ ต้องการเพียงเสียงปรบมือ ในสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ เท่ากับคุณกำลังทำให้ผู้ชุมนุมเดินทางเข้าคุก แทนที่จะได้เดินทางกลับบ้าน

-หากคุณเชื่อนักกฎหมายแบบนี้ ก่อนคุณจะเดินทางเข้าเรือนจำให้วัดความสูงของคุณไว้ก่อน

และหลังจากคุณออกจากเรือนจำ ให้วัดความสูงของคุณอีกครั้งคุณจะเห็นว่า ความสูงของคุณลดลงอย่างน้อย 1 ซม. ทำไมหรือ ก็เพราะตอนออกจากคุก คุณจะกลายเป็นผู้สูงอายุไปแล้ว ตามหลักวิชาการเมื่อคุณสูงอายุ ความสูงของคุณจะลดลง

ผมกำลังจะสรุปว่า หากคุณเชื่อนักกฎหมายแบบนี้ คุณจะติดคุกยาว จนเมื่อออกจากคุกคุณก็กลายเป็นผู้สูงอายุไปแล้ว”

3. สุดท้าย ขอฝากคำเตือนสติ ภาษาแบบวัยรุ่น แต่จริงใจ โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ค Nu Phitsanu Thongngam

กระแทกใจมาก แต่จริง

“เขาขังมึง เพราะมึงทำผิดกฎหมาย

เขาไม่ได้ขังมึง เพราะมึงไม่รัก

และเขาไม่เคยบอกให้มึงต้องรักเขา

อาจารย์บางคน ดร.บางคน สส.บางคน รวมทั้งคนที่อยู่เบื้องหลังพวกมึงก็ไม่ได้รัก ก็ไม่ได้มีใครไปเอาคนพวกนั้นมาติดคุก เพราะไม่รัก แต่ถ้ามึงหมิ่น บิดเบือน ใส่ร้าย ทำลาย เผาในสถานที่ราชการ ปลุกระดมให้คนทำผิด พวกมึงก็เจอกฎหมายจัดการ

มึงเรียงหัวได้เลย ใครบ้างที่ไม่รัก อ.หัวหงอก หัวดำ บางคนก็ชัดอยู่ว่าไม่ได้รัก แต่มันไม่เอาตัวไปทำผิดกฎหมายไง หลอกเด็กไปตายแทน อมเงินบริจาคที่ประชาชนให้ไปอีก ถ้ามึงเชื่อมันก็เข้าไปเหอะ ศาลให้ประกันตัวไปกี่รอบแล้ว ความสำนึกผิดก็ยังไม่เกิด ทำผิดซ้ำซาก ศาลท่านคงจะให้ประกันหรอก

ส่วนมหา’ลัยที่ออกแถลงการณ์ให้ปล่อยตัวเพียงเพราะกลัวนักศึกษาตัวเองจะไม่ได้สอบ นี่อย่ากระแดะมาทำตัวเป็นพระเอกตอนที่ผู้ร้ายตายห่าไปแล้ว ตอนผู้ร้ายยังอยู่ทำไมไม่สั่งสอนและห้ามปรามไม่ให้ไปทำผิด และพูดอย่างไรไม่ให้ติดคุก เหมือนด็อกเตอร์คนนึงที่ไปให้กำลังใจที่ศาลวันนี้นั่นก็ไม่ได้รักชัดเจน แต่ก็ไม่ติดคุก

ถ้าจะอ้างว่าสิ่งที่พวกมึงทำมันคือสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออก แต่มึงจะใช้สิทธิของมึงเพื่อไปดูหมิ่น ไปใส่ร้าย ไปพ่นสีไปเผาไปทำลายสถานที่ราชการ สถานที่สาธารณะ อยากทำก็ทำไปเถอะตัวมึง แต่ถ้าโดนคดีก็อย่าร้องโวยวายว่าโดนรังแก เพราะสิ่งที่พวกมึงทำนั้นมันผิดกฎหมาย

ส่วนไอ้พวกที่บอกว่าการเผาพระบรมฉายาลักษณ์ที่เรือนจำคลองเปรม ซึ่งเป็นสถานที่ราชการนั้นเป็นเพียงแค่การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ พร้อมกับยกย่องคนที่เผาว่าคือฮีโร่ เคยมีคำกล่าวว่า “เมื่อเพื่อนทำชั่ว เราจงตักเตือน เมื่อเขาทำดีเราจงสนับสนุน” เพราะฉะนั้นก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่ชีวิตพวกมึงเดินมาถึงจุดนี้ เพราะมีเพื่อนที่แยกไม่ออกว่าสิ่งไหนคือดีคือชั่ว..

สุดท้าย ฝากไปถึงไอ้พวกที่บอกว่าคุกไม่พอขังหรอก พวกมึงไม่ต้องกลัวว่าคุกจะไม่พอขัง แต่ให้ไปถามพวกมึงว่ามีใครอยากจะติดคุกมั้ยพวกมึงต่อสู้กันมาจากคนเยอะจนมาถึงตอนนี้มึงดูซิว่าเหลือเท่าไรเพราะมีคนที่คิดได้ว่าการกระทำของพวกมึงมันเกินขอบเขตของคำว่าประชาธิปไตย

ตั้งใจทำผิดกฎหมายที่มันมีอยู่แล้ว แล้วบอกว่ากฎหมายนั้นมีปัญหา อันนี้อย่าหาทำ เป็นครูเป็นอาจารย์ก็ควรสั่งสอนลูกศิษย์ เป็นพ่อเป็นแม่ก็ควรบอกกล่าวตักเตือนลูกว่าอย่าไปทำผิดกฎหมาย แต่ถ้าที่ผ่านมานั้นคอยสนับสนุนและไม่เคยว่ากล่าวตักเตือนกันเลย ก็อยากจะร้องเพลงว่า “ร้องไห้หาพ่อเธอหรือ”

เตือนพวกที่อยู่ข้างนอกตอนนี้ ถ้ายังทำผิดกฎหมายซ้ำๆ อีกระวังจะติดคุกกันแบบ “แลนด์สไลด์”ก็แล้วกันเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน เพราะเมื่อถึงเวลานั้น ต่อให้ตะโกนว่า “ปล่อยเพื่อนเรา” จนลูกกระเดือกกระเด็นออกมาจากลำคอก็คงไม่ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นมา..ซาโยนาระ

เพื่อนที่เท่ห์ คือเพื่อนที่คอยเตือนไม่ให้มึงไปทำผิด

ส่วนเพื่อนที่อำมหิต คือเพื่อนที่บอกรักมึงตอนมึงไปติดคุก” 

สารส้ม