สถิติตัวเลขทางเศรษฐกิจและสังคมต่างๆ ในช่วง 7 ปี
ที่ผ่านมาของประเทศไทย ภายใต้การนำพาของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นั้นตกต่ำลงมาตลอด อีกทั้งสถานะของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศก็ไม่เป็นที่ชื่นชมเคารพนับถือดังแต่ก่อน นอกจากนั้น เมื่อมีผู้หวังดีต่อประเทศชาติออกมาแสดงความคิดเห็น ก็มักจะต้องเผชิญกับความรำคาญใจของนายกฯ หรือไม่ก็หาได้ยินได้ฟังไม่ ทั้งๆ ที่ทุกหมู่เหล่าต่างก็ร่วมกันเป็นเจ้าของประเทศ และต้องการอนาคตที่ดีงามทั้งสิ้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2564 กลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อบ้านเมืองที่นำโดยทนายนกเขา หรือนายนิติธร ล้ำเหลือ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง กลุ่มความมั่นคง กลุ่มกระบวนการยุติธรรม และกลุ่มสื่อ ได้ออกมาแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนเพื่อเรียกร้องให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเป็นการเปิดทางให้มีการจัดตั้งคณะรัฐบาลพิเศษเพื่อแก้ปัญหาบ้านเมืองเฉพาะหน้า และการปฏิรูปการบ้านการเมือง
ประเด็นปัญหาหลักๆ เกี่ยวกับตัวพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐบาล ก็คือการไม่ปฏิบัติต่อคำมั่นสัญญาโดยเฉพาะในเรื่องการปฏิรูปประเทศและการปรองดองสมานฉันท์ การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ การบริหารราชการที่ไร้ธรรมาภิบาล เล่นพรรคเล่นพวก และเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนนักธุรกิจ เป็นต้น
ในการเรียกร้องเชิญชวนให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่ง ก็ได้มีการเสนอให้มีผู้นำรัฐบาลคนใหม่ในกรอบของกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 272(2) อีกด้วย
ถ้อยแถลงของ “ทนายนกเขา” ก็ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ในแวดวงต่างๆ พอสมควร และมีปฏิกิริยาอย่างน้อยก็ใน 3-4 กลุ่มด้วยกัน คือ
1. กลุ่มที่เห็นด้วยกับทนายนกเขา
2. กลุ่มยึดมั่นกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กลุ่มนี้ไม่ว่าฝนจะตกฟ้าจะร้องอย่างไร ไม่ว่าพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา จะแวดล้อมไปด้วยผู้คนสีเทาอย่างไร หรือบริหารราชการแบบไร้ประสิทธิภาพขนาดไหนก็ตาม ก็ขอก้มหน้าก้มตาเชียร์ พลเอกประยุทธ์ ต่อไป
3. กลุ่มที่เห็นด้วยกับการให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออก แต่ยังเห็นว่าควรชะลอไปก่อน เนื่องจากสถานการณ์ไม่อำนวย (สืบเนื่องมาจากโรคระบาดโควิด-19) ถึงอย่างไรก็ดี การรวบอำนาจเพื่อจัดการกับโควิด-19 ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็สะท้อนถึงการบริหารจัดการที่ล้มเหลว และการรวบอำนาจไว้ในมือแต่ผู้เดียว ก็ไม่มีอะไรที่จะประกันว่าจะแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม
4. กลุ่มที่เห็นว่าแค่ขับไล่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่เพียงพอ เพราะผู้ที่จะมาทดแทนก็ยังจะคงเป็นบุคลากรคล้ายๆ หรือเป็นเครือข่ายกับบุคคลประเภทของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา แค่เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี จึงไม่เป็นการเพียงพอ หากจะต้องเปลี่ยนก็ต้องยกเครื่องทั้งระบบการเมือง
5. กลุ่มพลังเงียบ ซึ่งก็รอดูเหตุการณ์ และรอฟังว่ากลุ่มต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น จะทำการอย่างไรต่อไป เพื่อจะได้ตัดสินใจว่าจะเทคะแนนเทใจให้กับฝ่ายใด
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะดันทุรังอยู่ในตำแหน่งต่อไป แบบที่ตนเองขยับเขยื้อนอะไรไม่ได้ เพราะแวดล้อมไปด้วยผู้ที่จะเอาประโยชน์จากบ้านเมือง ซึ่งการคงอยู่ต่อไปแบบนี้ จะไม่มีอะไรที่ดีขึ้นเลยกับตัวพลเอกประยุทธ์ และต่อบ้านเมือง อีกทั้งกรุงศรีอยุธยาก็ไม่เคยสิ้นซึ่งคนดี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงไม่ควรเป็นห่วง หรือคิดอ่านว่า บ้านเมืองนี้จะขาดพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปไม่ได้ อีกทั้งข้อเสนอของทนายนกเขา ถ้าจะพิจารณากันให้ลึกซึ้งโดยไม่ใช้อารมณ์ก็ดูสมเหตุสมผลดี สมควรน่าจะนำไปพินิจพิจารณา อภิปรายถกเถียงกันเยี่ยงมนุษย์ที่มีสติปัญญา และมีความเป็นศิวิไลซ์
อีกทางหนึ่งก็คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำตัวเป็นบุคคลแห่งชาติ เป็นของประชาชน โดยการตัดขาดการพึ่งพาพรรคการเมืองและนักการเมือง ยอมเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย แต่มีประชาชนเป็นเสียงข้างมากให้การสนับสนุนและให้กำลังใจ โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เลือกบุคคลที่ดีที่สุด เป็นที่ยอมรับของสังคม มาเป็นคณะรัฐมนตรี เพื่อการบริหารราชการบ้านเมืองอย่างมืออาชีพด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และในขณะเดียวกันก็เริ่มทำการปฏิรูปต่างๆ ที่ค้างคาไว้ตั้งแต่สมัย พลเอกสนธิ บุณยะรัตกลิน ให้แล้วเสร็จแต่ทั้งนี้ พลเอกประยุทธ์ จะต้องกล้าหาญ ต้องเปิดใจ เปิดหูเปิดตา และละเว้นการคิดว่า “การสั่งการ” นั่นคือความสำเร็จของการบริหารบ้านเมือง
การรับใช้ชาติบ้านเมืองนั้นมีอยู่ 2 ทาง คือการแสดงฝีไม้ลายมือให้ประจักษ์ กับการไม่ทำตัวให้เป็นอุปสรรค หรือนัยหนึ่ง หากรู้ตัวว่าแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ก็ควรรีบเปิดทาง
ให้ผู้อาสาเข้ามารับใช้บ้านเมืองให้ได้มีโอกาส
ระยะเวลา 7 ปีก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นผล ว่าตนควรวางมือแล้วกลับบ้านไปพักผ่อนหรือไม่ หรือถ้ามีแรงฮึดคิดจะทำอะไรเพื่อชาติอย่างจริงจังเสียที ก็ต้องลุกขึ้นมาสร้างรังใหม่ที่มีประชาชนเป็นฐาน แทนที่จะอาศัยอยู่บนฐานของบุคคลสีเทาๆ ไปแบบเป็ดง่อย ให้เสียศักดิ์ศรีชายชาติทหาร ซึ่งเป็นการเสียราคาในสายตาคนไทยไปเรื่อยๆ
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี