น่าทุเรศ สุดอัปยศ และโหลยโท่ยสุดๆ
คือ ข้ออ้างที่นำมาแก้ตัว กรณี น.ส.เบนจา อะปัญ ถูกจับกุมดำเนินคดีตามข้อหา ม.112 แล้วศาลไม่ให้ประกันเพราะกระทำซ้ำซาก เคยถูกดำเนินคดีต่อศาลไปแล้ว เคยให้ประกันตัวไปแล้ว ก็ยังกระทำซ้ำซากอีก
ข้ออ้างอันน่าทุเรศ สุดอัปยศ และโหลยโท่ยสุดๆ คือการไปยกเอาดื้อๆว่า ผู้ต้องหาเป็นนักศึกษามีความคิดฝันอยากจะเป็นนักบินอวกาศ เพราะฉะนั้น การมาจับกุมเข้าคุกเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง!!!!!
นี่เอาสมอง หรือเอาหัวแม่เท้าคิดไม่ทราบ
แล้วใครที่อมมาพ่นๆ ต่อ ไม่รู้สึกอายขี้เท่อหรือ?
1. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ทวีตข้อความเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า “ผ่าน 6 ตุลามาไม่กี่วัน ผู้มีอำนาจก็ซ้ำเติมทำลายอนาคต เพียงเพราะเธอเรียกร้องถึงสังคมที่ดีกว่า เบนจาเป็นวิศวกรอวกาศที่กำลังสร้างชื่อเสียงให้กับไทยในอีกไม่กี่ปี แต่กลับต้องถูกจับเข้าคุก รบ.ต้องหยุดทำลายอนาคตของชาติ ก่อนที่สังคมไทยจะถูกผลักออกไปไกลเกินจุดที่จะเจรจาประนีประนอมกันได้”
น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุว่า... “พวกคุณมีความสุขมากใช่มั้ยคะที่ทำลายอนาคตของชาติ”
2. คิดง่ายๆ ถ้าเอาตรรกะแบบนี้ มาเป็นข้ออ้างให้ละเว้น ไม่ต้องดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎหมายซ้ำซาก
เด็กอังกฤษที่ทำตัวเป็นฮูลิแกน ก็คงอ้างได้ว่ามีความฝันเป็นนักฟุตบอลระดับโลก หรือเป็นนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล ศาลอังกฤษห้ามดำเนินคดี ห้ามคุมขัง แม้จะมีพฤติกรรมรุนแรงอย่างไรก็ตามแต่
มองอีกด้านหนึ่ง นี่ขนาดยังเรียนไม่จบ ยังไม่ทันได้สมัครยังไม่ทันได้เป็น หรือใกล้เคียงที่จะได้เป็นนักบินอวกาศเลย ยังจะมาใช้เป็นเงื่อนไขไม่ถูกดำเนินคดีหรือคุมขังเสียแล้ว
เรียกว่า อวดเบ่ง ตั้งแต่ยังใส่แพมเพิส
3. การไม่ได้เป็นนักบินอวกาศ จะนำมากล่าวโทษสังคมไทย หรือโทษเผด็จการได้ไหม?
Kittitouch Chaiprasith ระบุว่า “วิทยาศาสตร์ไม่ได้เป็นของใคร และไม่มีวันที่ใครจะเป็นเจ้าของมัน หรือไม่มีใครที่ผูกขาดมันแต่เพียงผู้เดียว #ประชาธิปไตยก็เช่นกัน เพราะวิทยาศาสตร์คือกระบวนการสังเกต วิเคราะห์ พิสูจน์ และทำซ้ำ เพื่อให้เข้าใจหรือได้มาซึ่งองค์ความรู้ทางธรรมชาติ ที่มีอยู่มาตั้งแต่เกิดจักรวาล ดังนั้น จึงไม่มีใครเป็นเจ้าของมันได้
และคนเก่งตัวจริงที่อยู่ในวงการอวกาศไทย เขาไม่ได้มีทัศนคติอะไรแบบนี้แน่นอนครับ
ไม่ว่าจะเป็นคุณกฤษณ์ คุนผลิน ผู้แทนศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐฯ (U.S. Space & Rocket Center) ในประเทศไทย
หรือคุณ พิรดา เตชะวิจิตร์ คนที่มาจากครอบครัวทำโรงงานเซรามิกใน จ.ลำปาง จนจบวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
จากนั้นได้รับทุนการศึกษาภายใต้ Thos Operation Training Program (TOTP) ของโครงการพัฒนาดาวเทียมสำรวจทรัพยากรดวงแรกของไทย หรือดาวเทียมไทยโชติ ก่อนเดินทางไปศึกษาต่อทางด้านดาวเทียม ณ ประเทศฝรั่งเศส จนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านวิศวกรรมอวกาศ จากสถาบัน ISAE ก่อนจะมาเป็นวิศวกร ฝ่ายควบคุมดาวเทียม ศูนย์ปฏิบัติการดาวเทียมธีออส (ในขณะนั้น) และมาทำตำแหน่งนักพัฒนานวัตกรรม สำนักพัฒนาอุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)”
4. ในยุคปัจจุบัน ภาครัฐปิดกั้น ไม่มีช่องทางสนับสนุนส่งเสริมคนที่มีความสามารถจริงๆ เลยหรือ?
เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในพิธีลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อสร้างหลักประกันโอกาสทางการศึกษาสำหรับผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ระดับอุดมศึกษา
รมว.อุดมศึกษา กล่าวว่า การศึกษาคือการสร้างคนและสร้างโอกาส ความเสมอภาคทางการศึกษาจึงเป็นสิ่งสำคัญ อว. จึงให้ความสำคัญกับการให้โอกาสและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เพราะนักเรียน ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์และผู้ด้อยโอกาส ถือเป็นทรัพยากรมนุษย์และเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่สามารถช่วยพัฒนาประเทศ หากเราสามารถเปลี่ยนพวกเขาจากผู้รับความช่วยเหลือให้เป็นผู้ที่สามารถสร้างรายได้และทำงานที่เป็นประโยชน์กับประเทศได้ ที่สำคัญ ผลจากการให้โอกาสและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาไม่ใช่แค่ช่วยให้คนที่ขาดแคลนได้ร่ำเรียนเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงความเป็นเลิศและคุณภาพทางการศึกษาของประเทศที่เพิ่มขึ้น อย่างที่ตนได้พบเห็นนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์มากมาย ที่เดิมเป็นช้างเผือกอยู่ท้องถิ่นห่างไกลหรือเป็นคนชายขอบ หลายคนมีสถานะที่ลำบาก แต่เมื่อได้รับโอกาสทางการศึกษาก็ได้กลายมาเป็นผู้ที่สามารถทำคุณประโยชน์ให้บ้านเมืองได้อย่างมหาศาล
“...ประเทศไทยมีช้างเผือกไม่น้อยที่มีคุณภาพสูง เพราะธรรมชาติของเด็กเหล่านี้จะมีความอดทน มุ่งมั่น พร้อมฝ่าฟันอุปสรรค เราจึงต้องนำพวกเขามาฟูมฟักและฝึกปรือ โดย อว.จะต้องมีการดูแลและจัดระบบการเรียนการสอนพร้อมทั้งระบบสนับสนุนเป็นพิเศษ เพื่อทำให้เด็กเหล่านั้นสามารถแสดงศักยภาพที่มีอยู่ในตัวได้อย่างเต็มที่ เหมือนที่ตนเคยพูดอยู่บ่อยครั้งว่า ช้างเผือกมักจะเกิดในป่าลึก หากได้พวกเขามาเป็นกำลังในการสร้างสรรค์นวัตกรรมหรือวิทยาศาสตร์ระดับแนวหน้าของประเทศ ที่เรียกว่า Frontier Research เขาจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนอื่นๆ ได้เห็นว่าผู้ด้อยโอกาสก็มีความสามารถหากได้รับโอกาสที่เหมาะสม เราจะเปลี่ยนจากผู้ด้อยโอกาสให้เป็นผู้มีโอกาส เป็น “หัวกะทิ” ทางการศึกษา เช่น ให้พวกเขาได้มีส่วนในการสร้างยานอวกาศของไทยไปโคจรรอบดวงจันทร์ เป็นต้น ผมเชื่อว่า ถ้าทำได้จะเป็นการช่วยสร้างแรงกระเพื่อมให้กับสังคมไทยได้อย่างมาก เพราะไม่เพียงแต่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา แต่พวกเขาเหล่านี้ยังเข้ามาเติมเต็มในเรื่องกำลังคนที่มีคุณภาพเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศได้”
ทั้งนี้ การลงนามความร่วมมือดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบหลักประกันโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ บูรณาการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนฐานข้อมูลการส่งต่อผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี