วันอาทิตย์ ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
น่าทุเรศ สุดอัปยศ และโหลยโท่ยสุดๆ
คือ ข้ออ้างที่นำมาแก้ตัว กรณี น.ส.เบนจา อะปัญ ถูกจับกุมดำเนินคดีตามข้อหา ม.112 แล้วศาลไม่ให้ประกันเพราะกระทำซ้ำซาก เคยถูกดำเนินคดีต่อศาลไปแล้ว เคยให้ประกันตัวไปแล้ว ก็ยังกระทำซ้ำซากอีก
ข้ออ้างอันน่าทุเรศ สุดอัปยศ และโหลยโท่ยสุดๆ คือการไปยกเอาดื้อๆว่า ผู้ต้องหาเป็นนักศึกษามีความคิดฝันอยากจะเป็นนักบินอวกาศ เพราะฉะนั้น การมาจับกุมเข้าคุกเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง!!!!!
นี่เอาสมอง หรือเอาหัวแม่เท้าคิดไม่ทราบ
แล้วใครที่อมมาพ่นๆ ต่อ ไม่รู้สึกอายขี้เท่อหรือ?
1. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ทวีตข้อความเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า “ผ่าน 6 ตุลามาไม่กี่วัน ผู้มีอำนาจก็ซ้ำเติมทำลายอนาคต เพียงเพราะเธอเรียกร้องถึงสังคมที่ดีกว่า เบนจาเป็นวิศวกรอวกาศที่กำลังสร้างชื่อเสียงให้กับไทยในอีกไม่กี่ปี แต่กลับต้องถูกจับเข้าคุก รบ.ต้องหยุดทำลายอนาคตของชาติ ก่อนที่สังคมไทยจะถูกผลักออกไปไกลเกินจุดที่จะเจรจาประนีประนอมกันได้”
น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุว่า... “พวกคุณมีความสุขมากใช่มั้ยคะที่ทำลายอนาคตของชาติ”
2. คิดง่ายๆ ถ้าเอาตรรกะแบบนี้ มาเป็นข้ออ้างให้ละเว้น ไม่ต้องดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกฎหมายซ้ำซาก
เด็กอังกฤษที่ทำตัวเป็นฮูลิแกน ก็คงอ้างได้ว่ามีความฝันเป็นนักฟุตบอลระดับโลก หรือเป็นนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล ศาลอังกฤษห้ามดำเนินคดี ห้ามคุมขัง แม้จะมีพฤติกรรมรุนแรงอย่างไรก็ตามแต่
มองอีกด้านหนึ่ง นี่ขนาดยังเรียนไม่จบ ยังไม่ทันได้สมัครยังไม่ทันได้เป็น หรือใกล้เคียงที่จะได้เป็นนักบินอวกาศเลย ยังจะมาใช้เป็นเงื่อนไขไม่ถูกดำเนินคดีหรือคุมขังเสียแล้ว
เรียกว่า อวดเบ่ง ตั้งแต่ยังใส่แพมเพิส
3. การไม่ได้เป็นนักบินอวกาศ จะนำมากล่าวโทษสังคมไทย หรือโทษเผด็จการได้ไหม?
Kittitouch Chaiprasith ระบุว่า “วิทยาศาสตร์ไม่ได้เป็นของใคร และไม่มีวันที่ใครจะเป็นเจ้าของมัน หรือไม่มีใครที่ผูกขาดมันแต่เพียงผู้เดียว #ประชาธิปไตยก็เช่นกัน เพราะวิทยาศาสตร์คือกระบวนการสังเกต วิเคราะห์ พิสูจน์ และทำซ้ำ เพื่อให้เข้าใจหรือได้มาซึ่งองค์ความรู้ทางธรรมชาติ ที่มีอยู่มาตั้งแต่เกิดจักรวาล ดังนั้น จึงไม่มีใครเป็นเจ้าของมันได้
และคนเก่งตัวจริงที่อยู่ในวงการอวกาศไทย เขาไม่ได้มีทัศนคติอะไรแบบนี้แน่นอนครับ
ไม่ว่าจะเป็นคุณกฤษณ์ คุนผลิน ผู้แทนศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐฯ (U.S. Space & Rocket Center) ในประเทศไทย

หรือคุณ พิรดา เตชะวิจิตร์ คนที่มาจากครอบครัวทำโรงงานเซรามิกใน จ.ลำปาง จนจบวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
จากนั้นได้รับทุนการศึกษาภายใต้ Thos Operation Training Program (TOTP) ของโครงการพัฒนาดาวเทียมสำรวจทรัพยากรดวงแรกของไทย หรือดาวเทียมไทยโชติ ก่อนเดินทางไปศึกษาต่อทางด้านดาวเทียม ณ ประเทศฝรั่งเศส จนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านวิศวกรรมอวกาศ จากสถาบัน ISAE ก่อนจะมาเป็นวิศวกร ฝ่ายควบคุมดาวเทียม ศูนย์ปฏิบัติการดาวเทียมธีออส (ในขณะนั้น) และมาทำตำแหน่งนักพัฒนานวัตกรรม สำนักพัฒนาอุทยานรังสรรค์นวัตกรรมอวกาศ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)”
4. ในยุคปัจจุบัน ภาครัฐปิดกั้น ไม่มีช่องทางสนับสนุนส่งเสริมคนที่มีความสามารถจริงๆ เลยหรือ?
เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในพิธีลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อสร้างหลักประกันโอกาสทางการศึกษาสำหรับผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ระดับอุดมศึกษา
รมว.อุดมศึกษา กล่าวว่า การศึกษาคือการสร้างคนและสร้างโอกาส ความเสมอภาคทางการศึกษาจึงเป็นสิ่งสำคัญ อว. จึงให้ความสำคัญกับการให้โอกาสและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เพราะนักเรียน ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์และผู้ด้อยโอกาส ถือเป็นทรัพยากรมนุษย์และเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่สามารถช่วยพัฒนาประเทศ หากเราสามารถเปลี่ยนพวกเขาจากผู้รับความช่วยเหลือให้เป็นผู้ที่สามารถสร้างรายได้และทำงานที่เป็นประโยชน์กับประเทศได้ ที่สำคัญ ผลจากการให้โอกาสและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาไม่ใช่แค่ช่วยให้คนที่ขาดแคลนได้ร่ำเรียนเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงความเป็นเลิศและคุณภาพทางการศึกษาของประเทศที่เพิ่มขึ้น อย่างที่ตนได้พบเห็นนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์มากมาย ที่เดิมเป็นช้างเผือกอยู่ท้องถิ่นห่างไกลหรือเป็นคนชายขอบ หลายคนมีสถานะที่ลำบาก แต่เมื่อได้รับโอกาสทางการศึกษาก็ได้กลายมาเป็นผู้ที่สามารถทำคุณประโยชน์ให้บ้านเมืองได้อย่างมหาศาล
“...ประเทศไทยมีช้างเผือกไม่น้อยที่มีคุณภาพสูง เพราะธรรมชาติของเด็กเหล่านี้จะมีความอดทน มุ่งมั่น พร้อมฝ่าฟันอุปสรรค เราจึงต้องนำพวกเขามาฟูมฟักและฝึกปรือ โดย อว.จะต้องมีการดูแลและจัดระบบการเรียนการสอนพร้อมทั้งระบบสนับสนุนเป็นพิเศษ เพื่อทำให้เด็กเหล่านั้นสามารถแสดงศักยภาพที่มีอยู่ในตัวได้อย่างเต็มที่ เหมือนที่ตนเคยพูดอยู่บ่อยครั้งว่า ช้างเผือกมักจะเกิดในป่าลึก หากได้พวกเขามาเป็นกำลังในการสร้างสรรค์นวัตกรรมหรือวิทยาศาสตร์ระดับแนวหน้าของประเทศ ที่เรียกว่า Frontier Research เขาจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนอื่นๆ ได้เห็นว่าผู้ด้อยโอกาสก็มีความสามารถหากได้รับโอกาสที่เหมาะสม เราจะเปลี่ยนจากผู้ด้อยโอกาสให้เป็นผู้มีโอกาส เป็น “หัวกะทิ” ทางการศึกษา เช่น ให้พวกเขาได้มีส่วนในการสร้างยานอวกาศของไทยไปโคจรรอบดวงจันทร์ เป็นต้น ผมเชื่อว่า ถ้าทำได้จะเป็นการช่วยสร้างแรงกระเพื่อมให้กับสังคมไทยได้อย่างมาก เพราะไม่เพียงแต่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา แต่พวกเขาเหล่านี้ยังเข้ามาเติมเต็มในเรื่องกำลังคนที่มีคุณภาพเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศได้”
ทั้งนี้ การลงนามความร่วมมือดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบหลักประกันโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ บูรณาการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนฐานข้อมูลการส่งต่อผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา
สารส้ม

'อ.เจษฎ์'มาเอง! เปิด7ข้อเคลียร์ความเชื่อผิดๆปมดื่มนมไทย เปิดวาร์ปนมไทยที่เป็นนมโคแท้
'ปราชญ์ สามสี'ฟาด! 'พรรคส้ม' ใช้ 'สองมาตรฐาน' โจมตีกองทัพ แต่ปัดรับผิดคดีในพรรค
ผีตายยาก!เดอ ลิกต์ โขกทดเจ็บบุกแบ่งแต้มไก่
'กัน จอมพลัง' ควงลูกเมียเปิดใจน้ำตาซึม เผยความผิดพลาด เอาเวลาครอบครัวไปช่วยคนอื่น
'กัมพูชา'ขยับแรง! บุกทลาย2รังใหญ่แก๊งสแกมเมอร์ รวบผู้ต้องหากว่า600คนส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี