วันพฤหัสบดี ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เชื่อว่าราว “เดือนกุมภาพันธ์ 2564” สังคมไทยคงจำภาพในอดีตที่ “ทหารแก่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี” โพล่งกลางที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่าจะเปิดประเทศภายใน 120 วัน ซึ่งเป็นการประกาศเปิดประเทศในวันที่การแพร่ระบาดของ “โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)” อยู่ในภาวะน่าเป็นห่วง มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยราววันละ 20,000 ราย และปริมาณการรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไม่ได้สูงเท่าใดนัก
ทันทีที่ “ไต้ก๋งเรือแป๊ะ” ประกาศนโยบายเพื่อสร้างขวัญกำลังใจและความเชื่อมั่นนั้นออกมาให้สังคมไทยได้เดินหน้าทะยานสู่จุดมุ่งหมายก็มีเสียงกระแหนะกระแหนแซะเสี้ยมจากนักการเมืองชังชาติ สาวกสัมภเวสีที่จ้องเตะตัดขาโหยหาอำนาจทางการเมืองตามพฤติกรรมและธรรมชาตินักเลือกตั้ง ขณะที่ภาคเอกชนจำนวนไม่น้อยต่างปรีดาลิงโลดในนโยบายนี้ เข้าตำรา “สองคนยลตามช่อง” อย่างไรอย่างนั้น
นโยบายนี้มีการคาดเดากันมาโดยตลอดว่า จะดีเดย์ เมื่อใด ทำได้อย่างนั้นจริงหรือ ทว่ารัฐบาลก็พยายามขยับสร้างความมั่นใจให้สังคมไทยเรื่อยมา จนล่าสุด “ไต้ก๋งเรือแป๊ะ” ก็ออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจอีกกระทอก ประกาศชัดนโยบายเปิดประเทศ ดีเดย์ เปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เริ่มต้นจากต้อนรับต่างชาติอย่างน้อย 10 ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำอย่างมีเงื่อนไขแบบแผน อาทิ ฉีดวัคซีนครบโดสไม่ต้องกัก “ประยุทธ์” ยอมรับว่ามีความเสี่ยงที่อาจมีเชื้อไวรัสกลายพันธุ์เข้ามาสู่ประเทศไทยได้อีก แต่เพื่อความอยู่รอดของประชาชนที่ต้องดำรงชีพ ต้องทำมาหากิน ต้องข้ามผ่านวิกฤตนี้ไปได้ด้วยกัน หากเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้นรัฐบาลก็จะเข้ามาแก้ไขต่อไป เพราะ “โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)” ยังต้องอยู่กับสังคมโลก สังคมไทยยังต้องเผชิญหน้าอย่างมีสติกับมันต่อไปอีก
แน่นอนเราเห็นด้วยที่จะเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ เพราะต้องไม่ลืมว่า เศรษฐกิจประเทศพึ่งพารายได้เพียงสองทางคือ รายได้จากการท่องเที่ยว และภาคการส่งออกสินค้าทางการเกษตร ดังนั้น มาตรการนี้จักเป็นหนทางที่ทำให้เกิดการกระตุ้นจีดีพีได้ถึง 10% ดัชนีหุ้นซึ่งเป็นเครื่องมือบ่งชี้ระดับราคาและแนวโน้มของตลาดหุ้น, ตลาดทุน มีการปรับตัวสูงขึ้นด้วยความมั่นใจขานรับมาตรการดังกล่าว
ที่น่ากลัวจากนี้คือ “อสรพิษ” ที่อยู่ในระบบราชการที่แวดล้อมนักการเมืองฝ่ายบริหารที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวมกระทั่งทำเรื่องไร้สามัญสำนึกความรับผิดชอบเหมือนอย่างที่เคยทำมาแล้วที่ระยอง เรื่องบ่อนพนัน ที่ตลาดกุ้งมหาชัย สมุทรสาคร กรณีแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาทำงานโดยผ่านชิ่งทางธรรมชาติที่มีเจ้าหน้าที่มีส่วนรู้เห็น และเรื่องราวต้นเหตุเหล่านี้มิได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังจากรัฐบาลในการกระชากหน้ากากจิกหัวผู้บ่อนทำลายชาติเหล่านี้มารับโทษทัณฑ์ตาม โทษานุโทษ” โชคยังดีที่ “ระบบสาธารณสุข” ไทยมีความเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ “บุคลากรทางการแพทย์”อุดมไปด้วยจรรยาบรรณจึงทำหน้าที่ในส่วนความรับผิดชอบของกระทรวงสาธารณสุขจนเกิดการยับยั้งป้องกันได้ ทว่าหากมีลูปนี้เกิดขึ้นอีก รัฐบาลคงไม่ได้รับการให้อภัยจากสังคมไทยอีกแล้ว
จากนี้คือภารกิจหน้าที่ของสังคมไทยอณูหนึ่งใน“ทีมไทยแลนด์” ที่ต้องรับช่วงหน้าที่ต่อจาก “บุคลากรทางการแพทย์”ไม่ใช่หน้าที่รักษาฟื้นฟูสมรรถนะ ความแข็งแกร่งของปุถุชน แต่ทำหน้าที่ฟื้นฟูสมรรถนะเศรษฐกิจของชาติให้เดินหน้าได้อย่างเข้มแข็งมั่นคง เป็นเจ้าบ้านที่ดี โอบอ้อมอารีด้วยมิตรภาพและยิ้มสยามให้กับนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติที่เดินทางมาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรายได้ให้แก่สังคมไทย

นายกฯลั่นไม่มีใครใหญ่กว่า 'บิ๊กต่าย' แถมมี 'สมอลหนู' คอยดู ท้าผู้หวังดีบอกชื่อจริง อย่าเผยแค่ตัวย่อ
‘สหมงคลฟิล์มฯ’ คอนเฟิร์ม ‘เสือ’ ได้ไปต่อ!ขยาย ‘จักรวาลเสือ’
ศาลเลื่อนอ่านอุทธรณ์ ไปปีหน้า คดีหวย ‘หงษ์ทอง’ ขายเกินราคา เหตุจำเลยยังไม่ทราบนัด
มาเลเซียจับตัวแร็ปเปอร์ดัง'เนมวี' เอี่ยวคดีอินฟลูฯสาวไต้หวันดับคาอ่างโรงแรม
'บิ๊กต่าย'ขอก้มหน้าก้มตาทำงาน พร้อมโต้กลับ'ให้สำนึกบุญคุณ อย่าทำร้ายบ้านตัวเอง'

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี