วันเสาร์ ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ทวนกระแสข่าว
ทวนกระแสข่าว

ทวนกระแสข่าว

สุทิน วรรณบวร
วันศุกร์ ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2565, 02.00 น.
ศักราชใหม่ความสัมพันธ์‘ไทย-ซาอุฯ’ เริ่มต้นได้ดีเยี่ยม

ดูทั้งหมด

  •  

การเดินทางเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ของนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะเมื่อวันที่ 25-26 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งไปตามคำเชิญของ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมารในฐานะรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมซาอุดีอาระเบีย นับได้ว่าเป็นการเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียกับราชอาณาจักรไทยทำให้เกิดผลประโยชน์หรือ win win กันทั้งสองฝ่ายได้ดีเกินความคาดหมาย

หากจะมีอะไรติดขัดอยู่บ้างก็คงเป็นเพราะสื่อบางสำนัก นักการเมืองฝ่ายค้านของไทย และทูตนอกแถว ที่โจมตีบิดเบือนใส่ร้ายเพื่อหวังผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในประเทศไทย มิได้มีสายตายยาวไกลไปถึงอนาคตของชาติแต่อย่างใด


สื่อบางสำนักถึงกับบิดเบือนข้อมูลตัดต่อภาพข่าวว่าเจ้าของบ้านไม่ให้เกียรตินายกรัฐมนตรีจากประเทศไทยทำให้ขายหน้า อดีตทูตนอกแถวของไทยก็มีความเคลือบแคลงสงสัยเหตุผลในการเดินทางไปซาอุฯของพลเอกประยุทธ์และคณะ

เท่านั้นยังไม่พอทูตนอกแถวยังวิพากษ์วิจารณ์ประเทศที่นายกฯไทยไปเยือนเสียๆ หายๆ ราวกับไปเอาน้ำลายฝรั่งมาขยายความต่อ ว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนบ้าง
ว่าพระองค์สร้างความขัดแย้งในราชวงศ์บ้าง หันมาคบหาประเทศทางตะวันออกเพราะผิดใจกับตะวันตกบ้าง

ทูตนอกแถวกับสื่อชังชาติพวกนี้ไม่เคยเปิดหูเปิดตาดูว่าประเทศที่นายกฯเราไปเยือนเขาอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนผ่านอย่างไร มกุฎราชกุมารซึ่งเป็นคนหนุ่มที่มีวิสัยทัศน์ยาวไกล เป็นผู้ริเริ่มปฏิรูปการปกครองประเทศจากอนุรักษ์นิยมสุดโต่งมาเป็นมุสลิมสายกลางที่ผ่อนปรนเรื่องสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะสิทธิสตรีได้ดีมากขึ้นอย่างไรแค่ไหน

แน่นอนการเปลี่ยนแปลงใดๆ การปฏิรูปการปกครองย่อมมีความคิดแตกต่างกันบ้างภายใน เหมือนกับตอนที่ในหลวงรัชกาลที่ ๕ ของประเทศไทยทรงริเริ่มการปฏิรูปประเทศใหม่ๆ พระองค์ต้องเผชิญกับการต่อต้านการปฏิรูปจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมหัวเก่าที่ยังต้องการใช้ประโยชน์จากทาสต่อไป

การวิพากษ์วิจารณ์โดยหวังผลทางการเมืองเพียงอย่างเดียวอาจทำให้ผู้ถูกวิจารณ์ไม่พอใจและทำให้ความสัมพันธ์ที่กำลังคืบหน้าล่าช้าลงไปบ้างก็ได้

แต่เชื่อว่าสื่อชังชาติและทูตนอกแถวจะไม่มีพฤติกรรมเช่นนี้หากได้ศึกษาและรู้ว่ามกุฎราชกุมาร นักปฏิรูปของซาอุดีอาระเบียพระองค์นี้ “คือผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจแทบทุกเรื่องในซาอุดีอาระเบียอย่างแท้จริง”

จุดเด่นของพระองค์คือการผลักดันซาอุฯ สู่ทิศทางใหม่ในอนาคต จากเดิมที่พึ่งพาน้ำมันเป็นหลักหันมากระจายการลงทุนที่หลากหลายขึ้น เพราะอนาคตของน้ำมันไม่แน่นอนขึ้นทุกวัน

หากสื่อชังชาติและทูตนอกแถวเคยเห็นภาพพระองค์ทรงสัมผัสมือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งประเทศจีนและสัมผัสมือกับประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ของรัสเซีย กับที่พระองค์ทรงสัมผัสมือกับนายกรัฐมนตรีของไทย จะพบความจริงว่าพระองค์ทรงมีพระประสงค์จะผูกมิตรและประสงค์จะลงทุนในประเทศต่างๆ หลากหลายไม่ผูกพันอยู่กับอเมริกาและตะวันตกตลอดไป

หากทูตนอกแถวกับสื่อชังชาติได้เห็นที่พระองค์ทรงให้เกียรติกับประธานาธิบดีจีน ประธานาธิบดีรัสเซีย และกับนายกรัฐมนตรีจากประเทศไทย ว่าพระองค์ทรงมีพระจริยวัตรเหมือนๆ กัน ที่สำคัญนายกรัฐมนตรีไทยสร้างความประทับใจโดยการไหว้แบบไทยก่อนสัมผัสพระหัตถ์

ที่มากไปกว่านั้นถ้าหากสื่อไทยบางสำนัก ทูตนอกแถวและหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านในประเทศไทย ได้เห็นภาพวีดีโอที่สื่อทางการซาอุดีอาระเบียปล่อยออกมา จะพบว่าพลเอกประยุทธ์ได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกรสมเกียรติของแขกผู้ได้รับเชิญจากมกุฎราชกุมาร

และถ้าสื่อบางสำนัก ทูตนอกแถวและหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านได้อ่านข่าวจาก Saudi Gazette ซึ่งเป็นสื่อทางการของซาอุดีอาระเบียรายงานเมื่อวันที่ 26 ม.ค. ในการเจรจาระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับมกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย ซึ่งทรงดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในเวลาเดียวกันจะพบว่าทั้งสองประเทศตกลงจะฟื้นฟูความสัมพันธ์ต่อกันหลังจากเย็นชามานานกว่า 32 ปี โดยที่ทั้งสองประเทศจะแต่งตั้งทูตไปประจำประเทศซึ่งกันและกันในอนาคตอันใกล้นี้ นี่คือการฟื้นฟูความสัมพันธ์ก้าวสำคัญ

นอกจากนั้นสายการบินแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย ยังทวีตข้อความเป็นภาษาอังกฤษว่าสายการบินซาอุดีอาระเบียจะกลับมาเปิดทำการบินตรงจากกรุงริยาร์ดมาลงในประเทศไทยใน พ.ค. 2565 นี้

Saudi Gazette ไม่ได้รายงานว่าทั้งสองฝ่ายได้ยกเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในปี 2532-2533 ขึ้นมาเจรจาแต่อย่างใด แต่ Saudi Gazette รายงานด้วยว่าพลเอกประยุทธ์ พูดขึ้นมาเองโดยความสมัครใจว่า

“ในนามนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทยข้าพเจ้าขออภัยและเสียใจอย่างสุดซึ้งกับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในปี 2532-2533 หากมีหลักฐานใหม่ที่อาจโยงไปถึงเหตุการณ์เหล่านั้น ข้าพเจ้าในฐานะนายกรัฐมนตรีจะสั่งการให้ผู้มีอำนาจหน้าที่รื้อฟื้นคดีขึ้นมา สอบสวนใหม่” นั่นเป็นการแสดงสปิริตและมารยาทที่ดีของแขกที่ไปเยือนประเทศผู้เสียหาย

ทั้งหมดนั้นคือประเทศซาอุดีอาระเบียรายงานในสื่อทางการของเขา

ส่วนข่าวการละเมิดสิทธิมนุษยชน ข่าวถูกกล่าวว่าโหดร้ายทำให้นักข่าวตาย ข่าวการทำสงครามล้างผลาญกับประเทศเยเมนและข่าวการปฏิรูปโดยจำใจนั้นเป็นเรื่องที่สื่อต่างประเทศ สื่อบางสำนักในประเทศไทย และฝ่ายต่อต้านจินตนาการและขุดคุ้ยกันขึ้นมาเอง โดยความตั้งใจขัดขวางการฟื้นฟูความสัมพันธ์ซาอุฯ-ไทยไม่ให้คืบหน้า แต่ความพยายามมของสื่อชังชาติ ทูตนอกแถวตลอดถึงหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านหาสัมฤทธิผลดังที่ต้องการไม่ เพราะการปฏิรูปและบริบทสังคมในประเทศซาอุดีอาระเบียและในประเทศไทยได้ก้าวหน้าไปไกลเกินกว่าฝ่ายต่อต้านรัฐบาลจะตามทัน

คอลัมน์นี้ไม่จำเป็นต้องเขียนถึงผลประโยชน์ทางด้านแรงงาน ด้านการท่องเที่ยว ด้านการค้าและด้านพลังงานที่ประเทศไทยอาจมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นแสนๆ ล้าน จากการฟื้นฟูความสัมพันธ์ครั้งประวัติศาสตร์นี้ เพราะบรรดารัฐมนตรี นักวิชาการและนักการค้าได้พูดจาให้สัมภาษณ์สื่อกันมากแล้ว

แต่สิ่งหนึ่งละเว้นไม่ได้คือต้องยกความดีในความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยผู้ปิดทองหลังพระมาอย่างยาวนานในการทำงานทางการทูตเงียบๆ เทียวไปเทียวมาระหว่างประเทศไทยกับซาอุดีอาระเบีย หลายครั้ง จนกระทั่งมีการฟื้นฟูความสัมพันธ์คืบหน้ามาถึงวันที่มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย เชิญนายกรัฐมนตรีไทยไปเยือนอย่างเป็นทางการ

ผู้ที่น่ายกย่องคนนั้นคือ นายดอน ปรมัตถ์วินัยนักการทูตมืออาชีพที่ไม่เอาดีใส่ตัว เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องฟื้นฟูความสัมพันธ์ นายดอนตอบว่า “เป็นความพยายามของนายกรัฐมนตรีที่ทำให้ความสัมพันธ์ ซาอุดีอาระเบีย-ไทยคืบหน้าตลอดเวลาหลายปี”

พฤติกรรมอย่างนี้ตรงกับกระแสพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ทรงตรัสว่าปิดทองหลังพระไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีคนเห็น เพราะเมื่อปิดทองหลังพระนานๆ ทองจะล้นออกข้างหน้าให้เห็นเอง”

ส่วนนายกรัฐมนตรีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาก็รู้ว่าความสำเร็จใดๆ ที่เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือแม้บัตรคนจนโครงการไทยชนะ โครงการคนละครึ่ง การปลูกกัญชาถูกกฎหมาย ตลอดถึงโครงการประกันราคาพืชผล หากมันเป็นผลสำเร็จ ประวัติศาสตร์ก็ต้องจารึกว่าเป็นผลงานในรัฐบาลของท่านอยู่แล้ว

“ดีแล้วที่รัฐบาลนี้มีรัฐมนตรีปิดทองหลังพระ มากกว่ารัฐมนตรีที่จ้องแทงข้างหลัง”

 

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
14:05 น. ไม่ยกเลิก! ขอผู้ชมแต่งขาว-ดำเข้าชมคอนเสิร์ต BLACKPINK
13:58 น. 'เลขาฯนายกฯ'แจงชัด! ครม.'ไม่ห้าม'เอกชนจัดรื่นเริง แค่ขอ'ปรับรูปแบบ'ให้เหมาะสม
13:18 น. หมายกำหนดการเคลื่อนพระบรมศพฯ'สมเด็จพระพันปีหลวง'
13:17 น. เชียงรายลุยจับ! ‘19 ชาวจีน’ ซ่อนตัวคาบ้านพัก สารภาพรอข้ามไป สปป.ลาว
12:40 น. กระบะจมมิดคัน! คนขับวัย 49 ดับคาซากรถในบ่อน้ำ คาดตกลงไปในช่วงกลางดึก
ดูทั้งหมด
'สนามบินเตโช'มีผู้โดยสารเทียบเท่า'สุวรรณภูมิ' 2พ่อลูกตระกูลฮุนยันไม่ได้กู้เงินจีนสร้าง
สมฐานะสะใภ้สิงห์! 'มายด์ ลภัสลัล'ควง'พาย สุนิษฐ์'เข้าพิธีมงคลแรกของชีวิต
ลดราคาดีเซล 50 สตางค์/ลิตร-เบนซิน 30 สตางค์/ลิตร มีผลพรุ่งนี้
ฟ้าผ่าบอลไทย! ปลด'อิชิอิ'พ้นกุนซือช้างศึก
รู้จัก'อีฟ กาญจนา' ประธานมูลนิธิ เคียงข้าง'กัน จอมพลัง'ที่เจ้าตัวไว้วางใจที่สุด!
ดูทั้งหมด
บุคคลแนวหน้า : 25 ตุลาคม 2568
อ่านเฟซบุ๊กของผู้ที่เคารพรักสองท่านนำมาแบ่งปันให้อ่านสิ่งที่น่าสนใจ
ฮุนเซน พูดความจริงเป็นหรือไม่
สส.ไทยกับ scammers
ชะตากรรมของผู้นำการเมืองที่หลงทาง
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ไม่ยกเลิก! ขอผู้ชมแต่งขาว-ดำเข้าชมคอนเสิร์ต BLACKPINK

'เลขาฯนายกฯ'แจงชัด! ครม.'ไม่ห้าม'เอกชนจัดรื่นเริง แค่ขอ'ปรับรูปแบบ'ให้เหมาะสม

เชียงรายลุยจับ! ‘19 ชาวจีน’ ซ่อนตัวคาบ้านพัก สารภาพรอข้ามไป สปป.ลาว

รบ.ขอความร่วมมือภาคธุรกิจ-สถานบันเทิง งด-ลดกิจกรรมรื่นเริง 30 วัน

นายกฯนำครม.ยืนสงบนิ่ง ถวายความอาลัย'สมเด็จพระพันปีหลวง'

เช็กด่วน! หลักการใช้ถ้อยคำ ฉบับราชบัณฑิตยสภา เพื่อถวายความอาลัยที่ถูกต้อง

  • Breaking News
  • ไม่ยกเลิก! ขอผู้ชมแต่งขาว-ดำเข้าชมคอนเสิร์ต BLACKPINK ไม่ยกเลิก! ขอผู้ชมแต่งขาว-ดำเข้าชมคอนเสิร์ต BLACKPINK
  • \'เลขาฯนายกฯ\'แจงชัด! ครม.\'ไม่ห้าม\'เอกชนจัดรื่นเริง แค่ขอ\'ปรับรูปแบบ\'ให้เหมาะสม 'เลขาฯนายกฯ'แจงชัด! ครม.'ไม่ห้าม'เอกชนจัดรื่นเริง แค่ขอ'ปรับรูปแบบ'ให้เหมาะสม
  • หมายกำหนดการเคลื่อนพระบรมศพฯ\'สมเด็จพระพันปีหลวง\' หมายกำหนดการเคลื่อนพระบรมศพฯ'สมเด็จพระพันปีหลวง'
  • เชียงรายลุยจับ! ‘19 ชาวจีน’ ซ่อนตัวคาบ้านพัก สารภาพรอข้ามไป สปป.ลาว เชียงรายลุยจับ! ‘19 ชาวจีน’ ซ่อนตัวคาบ้านพัก สารภาพรอข้ามไป สปป.ลาว
  • กระบะจมมิดคัน! คนขับวัย 49 ดับคาซากรถในบ่อน้ำ คาดตกลงไปในช่วงกลางดึก กระบะจมมิดคัน! คนขับวัย 49 ดับคาซากรถในบ่อน้ำ คาดตกลงไปในช่วงกลางดึก
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

อ่านเฟซบุ๊กของผู้ที่เคารพรักสองท่านนำมาแบ่งปันให้อ่านสิ่งที่น่าสนใจ

อ่านเฟซบุ๊กของผู้ที่เคารพรักสองท่านนำมาแบ่งปันให้อ่านสิ่งที่น่าสนใจ

25 ต.ค. 2568

ทรัมป์ไม่เหมาะเป็นคนกลางเจรจาสันติภาพไทย-กัมพูชา

ทรัมป์ไม่เหมาะเป็นคนกลางเจรจาสันติภาพไทย-กัมพูชา

24 ต.ค. 2568

กัมพูชายังฝันได้สัมผัสมือทรัมป์ในพิธีลงนามสันติภาพไทย-กัมพูชา

กัมพูชายังฝันได้สัมผัสมือทรัมป์ในพิธีลงนามสันติภาพไทย-กัมพูชา

21 ต.ค. 2568

มาเลเซียเร่งให้ไทยลงนามสันติภาพกับประเทศได้ชื่อว่า‘อาชญากรรมโลก’

มาเลเซียเร่งให้ไทยลงนามสันติภาพกับประเทศได้ชื่อว่า‘อาชญากรรมโลก’

18 ต.ค. 2568

ปชป. กลับมาสู่สมการการเมืองในประเทศไทย

ปชป. กลับมาสู่สมการการเมืองในประเทศไทย

17 ต.ค. 2568

โลกล้อมกัมพูชา เมื่อสหรัฐกำหนดให้เป็นรัฐสนับสนุนการค้ามนุษย์

โลกล้อมกัมพูชา เมื่อสหรัฐกำหนดให้เป็นรัฐสนับสนุนการค้ามนุษย์

14 ต.ค. 2568

ยกเลิก MOU 43-44 มีแต่จะเสียหายทั้งไทยและกัมพูชา

ยกเลิก MOU 43-44 มีแต่จะเสียหายทั้งไทยและกัมพูชา

11 ต.ค. 2568

ฤานายอันวาร์เอาชื่อประเทศไทยไปขายให้ทรัมป์

ฤานายอันวาร์เอาชื่อประเทศไทยไปขายให้ทรัมป์

10 ต.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved