วันจันทร์ ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ทวนกระแสข่าว
ทวนกระแสข่าว

ทวนกระแสข่าว

สุทิน วรรณบวร
วันเสาร์ ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2565, 02.00 น.
‘รัสเซีย-จีน’ประสานเสียง หยุดความคลั่งสงครามพันทางของอเมริกา

ดูทั้งหมด

  •  

เห็นภาพผู้นำชาติยุโรปไปคล้องแขนกับนายโวโลดิเมียร์เซเลนสกี ในกรุงเคียฟเมืองหลวงของยูเครน แล้วให้รำลึกถึงภาพที่ผู้เขียนไปกรุงพนมเปญ และกรุงไพลินในปี 2529 ที่ได้พบว่าเป็นเมืองร้างไม่มีชีวิตชีวา ถึงแม้คู่สงครามจะอ้างว่ายังคงรักษาเมืองไว้ได้

และจากประสบการณ์ ในการทำข่าวสงครามกลางเมือง พบว่าระหว่างที่สงครามกำลังรุนแรง ผู้นำฝ่ายต่อต้านส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในสมรภูมิรบ ผู้นำฝ่ายต่อต้านส่วนใหญ่ไปอยู่ในค่ายผู้อพยพหรือไม่ก็อาศัยในดินแดนของประเทศเพื่อนบ้าน


ไม่ว่าจะเป็น จีนเปง อดีตผู้นำโจรจีนมาลายาที่นำกำลังมาตั้งฐานที่มั่นใน อ.เบตง จ.ยะลา และบางส่วนในจังหวัดสงขลา จนสุดท้ายกลายเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยในทศวรรษ 2530

ส่วนผู้นำขบวนแยกดินแดนสามจังหวัดภาคใต้ของประเทศไทยส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในมาเลเซียหรือผู้นำเขมรสามฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น เจ้าสีหนุ และ ผู้นำเขมรแดง
ผู้นำเขมรเสรี หรือ แม้แต่ ผู้นำกลุ่มชาติพันธุ์ที่ต่อต้านรัฐบาลพม่าส่วนใหญ่ อาศัยอยู่ตามชายขอบหรือไม่ก็เมืองชายแดนในประเทศไทย แต่สร้างภาพเหมือนกับว่า บัญชาการรบอยู่ประเทศตัวเอง

บรรดาผู้นำฝ่ายต่อต้านที่กล่าวมาข้างต้น เมื่อถึงเวลาต้องสร้างภาพให้เป็นข่าวก็นำสื่อเข้าไปในดินแดนของประเทศตัวเอง ตัวอย่างเช่นเจ้าสีหนุผู้ล่วงลับ ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีนและในซอยสวนพลูของไทยแต่สร้างตำหนักไว้ในดินแดนกัมพูชา เรียกว่าวัง “เสรีเพียบ”ตรงข้ามกับบ้านกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อถึงเวลาให้สัมภาษณ์นักข่าวนานาชาติเจ้าสีหนุก็ไปอยู่ที่วังเสรีเพียบ สัมภาษณ์สื่อสร้างภาพเสร็จก็เสด็จกลับเข้ามาประเทศไทย หรือไม่ก็กลับไปประเทศจีนเลย

ที่เล่าเรื่องผู้นำฝ่ายต่อต้านทั้งหลายที่ไม่ได้อยู่ในสมรภูมิจริงมายืดยาวเพื่อสร้างความชอบธรรมในความเชื่อของผู้เขียนว่า นายเซเลนสกี ไม่ได้อยู่ในประเทศยูเครนตั้งแต่อาทิตย์แรกที่กองทัพรัสเซียยาตราทัพเข้ามาในยูเครนแล้ว

ดังนั้นภาพข่าวเคลื่อนไหวที่สื่อตะวันตกเสนอให้เห็นนายเซเลนสกีเดินสำรวจเมืองร้างในกรุงเคียฟกับนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นั้นเป็นการสร้างภาพเหมือนตอนผู้นำเขมรแดงเชิญผู้เขียนและนักข่าววีโอเอไปเยือนกรุงไพลินในปี 2529

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงเคียฟเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2565 ว่าบรรดาผู้นำจาก 4 ชาติยุโรป เดินทางพร้อมกันด้วยรถไฟจากโปแลนด์เพื่อมาพบกับประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครนอย่างเป็นทางการ หลังการรุกรานของรัสเซีย

ประธานาธิบดี อันแชย์ ดูดา ของโปแลนด์, ประธานาธิบดีกีตานาส เนาเซดา ของลิทัวเนีย,ประธานาธิบดีกายา กัลลัส ของเอสโตเนีย และประธานาธิบดีเอกิลส์ เลวิตส์ของลัตเวีย นัดพบปะกันในโปแลนด์ และเดินทางพร้อมกันด้วยรถไฟ เพื่อมายังกรุงเคียฟและพบปะกับเซเลนสกี เพื่อหารือความร่วมมือในสถานการณ์สู้รบกับรัสเซีย จึงเหมือนกับภาพที่เจ้าสีหนุ นัดผู้สื่อข่าวต่างประเทศไปให้สัมภาษณ์ในวังเสรีเพียบ

ผู้เขียนเชื่อว่าหลังจากสร้างภาพโชว์พลังสามัคคีร่วมกันเสร็จทั้งนายเซเลนสกีและผู้นำจากประเทศในยุโรปต่างก็รีบออกจากกรุงเคียฟกลับประเทศ ส่วนเซเลนสกีก็รีบกลับอยู่ในเซฟเฮ้าส์ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่การสร้างภาพของ นายเซเลนสกี กับ ผู้นำกองกำลังฝ่ายต่อต้านในอาเซียนนั้นแตกต่างกันในบริบทและกาลเวลา

ผู้นำฝ่ายต่อต้านในอาเซียนไม่ว่าจะเป็นผู้นำเขมรสามฝ่ายและผู้นำกลุ่มชาติพันธุ์ ที่มาหลบซ่อนอยู่ตามชายขอบและในดินแดนของประเทศไทยเกิดขึ้นในยุคสงครามเย็นในยุคที่ภัยคอมมิวนิสต์คุกคามรอบบ้านในอาเซียนไม่ว่าจะเป็นประเทศไทย พม่าและมาเลเซีย ที่นักทฤษฎีนักวิเคราะห์ทำนายว่าประเทศไทย พม่า และมาเลเซียต้องเป็นโดมิโนตัวต่อไปที่คอมมิวนิสต์เข้ายึดครองได้

ดังนั้นประเทศในแถบนี้ จึงจำเป็นต้องมีรัฐกันชนหรือที่ฝรั่งเรียกว่า Buffer State คือให้ฝ่ายต่อต้านเหล่านั้นได้เป็นกันชน ป้องกันไม่ให้ประเทศกลายเป็นโดมิโนตัวต่อไปและประเทศไทยก็อยู่รอดมาได้

เหตุการณ์ทั้งหมดมันจึงแตกต่างกับสงครามรัสเซียยูเครน ที่ทำให้นายเซเลนสกีต้องหนีไปซ่อนตัวอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน มันต่างกันทั้งบริบทและกาลเวลา เพราะว่าสงครามเย็นระหว่างทุนนิยมตะวันตกกับคอมมิวนิสต์รัสเซียและสหายตะวันออกได้ตกลงยุติสงครามเย็นกันในปี 2534 โดยมีนายมิคาอิลกอร์บาชอฟ เป็นผู้แทนสหภาพโซเวียตและประธานาธิบดีจอร์จเอช ดับเบิลยู.บุช (บุช ผู้พ่อ) ได้ตกลงยุติสงครามเย็นกัน และข้อตกลงนั้นได้เงื่อนไขกำหนดไว้ว่านาโตจะไม่ขยายอิทธิพลขึ้นไปทางตะวันออกใกล้ชายแดนรัสเซียและไม่รับประเทศที่แยกตัวออกจากสหภาพโซเวียตเข้าเป็นสมาชิกนาโต

แต่หลายปีมานี้กลุ่มประเทศนาโต โดยการชี้นำและครอบงำของอเมริกาทำผิดสัญญาขยายอิทธิพลขึ้นทางตะวันออกล้อมกรอบรัสเซียมากขึ้นทุกวัน

ที่สำคัญ วอชิงตันใช้ประเทศยูเครนเป็นฐานที่มั่นวางกำลังคนและอาวุธทำลายล้างสูงไว้ในยูเครนจ่อคอหอยรัสเซียในปี 2546 สหรัฐฯปลุกระดมปั่นกระแสให้ชาวยูเครนประท้วงรุนแรงขับไล่ประธานาธิบดีวิกเตอร์ ยานูโควิช ผู้โปรรัสเซีย

เมื่อขับไล่นายูโควิช ออกไปได้ในปี 2557 วอชิงตันก็จัดการให้นายเปโตร โปโรเชนโก ซึ่งเป็นสายข่าวของซีไอเอขึ้นเป็นประธานาธิบดีหุ่นเชิดของอเมริกา ตั้งแต่ปี 2546 เป็นต้นมาอเมริกาเริ่มทำสงครามพันทางกับรัสเซียตลอดมา โดยใช้รัฐบาลเคียฟเป็นหนังหน้าไฟ

ตั้งแต่ปี 2546 สหรัฐฯส่งทหารไปปฏิบัติการในยูเครนเป็นจำนวนมากโดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ปรึกษาทางด้านความมั่นคงบ้าง เป็นครูฝึกทหารบ้าง ในทางลับวอชิงตันได้จัดตั้งกองกำลังเถื่อนขึ้นมาชื่ออาซาฟหรือ นาซีใหม่ อาซาฟ มีฐานที่มั่นอยู่ทางภาคใต้โดยเฉพาะในเมืองท่ามาริอูโปล ทหารรับจ้างต่างชาติส่วนใหญ่อยู่ใต้บังคับบัญชาของทหารอเมริกัน อาซาฟเป็นกองกำลังที่โหดร้ายเป็นเหตุให้คนเชื้อสายรัสเซียตายกว่า 14,000 ราย ในแคว้นดอนบาสโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองลูฮันสก์และโดแนตสก์

วันที่ 24 ก.พ. ประธานาธิบดีปูติน มีคำสั่งให้ทหารปฏิบัติการพิเศษเพื่อทำลายกองทัพยูเครน ปฏิบัติการพิเศษทางทหารกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ เมื่อสหรัฐฯสมคบกับสื่อตะวันตกหลอกนายเซเลนสกี ซึ่งเชื่อว่าหนีไปกบดานในเซฟเฮ้าส์ของประเทศเพื่อนบ้านและหลอกชาวโลกว่ากองทัพยูเครนต่อสู้ต่อต้านทหารรัสเซีย สามารถทำลายรถถังและสังหารทหารรัสเซียตายเป็นใบไม้ร่วง

นายเซเลนสกี ผู้จำแนกไม่ออกระหว่างแสดงตลกในบทบาทประธานาธิบดีผู้คลั่งชาติกับการเป็นประธานาธิบดีจริง เมื่อถูกอเมริกากับสื่อเป่าหูว่าสู้กับทหารรัสเซียได้ ก็ฮึดสู้ต่อไปเพราะอเมริกาสัญญาว่าจะส่งอาวุธและกำลังคนมาให้

ความโง่เขลาและถูกอเมริกาหลอกใช้นายเซเลนสกีจึงไม่ยอมรับข้อเสนอในการเจรจาหยุดยิงปล่อยให้ประเทศยูเครนพินาศวอดวายตามความมุ่งหมายของอเมริกาที่หวังจะให้รัสเซียจมติดปลักสงคราม จนผู้นำรัสเซียประกาศว่า “ผู้นำยูเครนเป็นผู้ทำลายสันติภาพ” และกล่าวว่า สถานการณ์ทั้งหมดสหรัฐคือผู้ชักใย และรัฐบาลมอสโกพร้อมต่อสู้อย่างถึงที่สุด#เพื่อแก้ไขระเบียบโลกแบบนี้...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก เมื่อวันที่ 13 เม.ย. ว่า ประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน แถลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มีเนื้อหาส่วนใหญ่เกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน และถือเป็นครั้งแรก ที่ผู้นำรัสเซียกล่าวถึงเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาต่อสาธารณชน นับตั้งแต่สงครามปะทุ เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ปธน.ปูตินประณาม นายโวโลดิเมียร์เซเลนสกี ว่า “ขัดขวาง” กระบวนการเจรจาสันติภาพ...

ผู้นำรัสเซีย กล่าวต่อไปว่า การดำเนินการหลายอย่างของยูเครนทำให้สถานการณ์หวนกลับมาสู่ภาวะที่เรียกว่า“ทางตัน”และยืนยันว่า กองทัพรัสเซียจะบรรลุเป้าหมายทั้งหมดตามที่วางแผนไว้ “ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม”ถือเป็นท่าทีที่ยิ่งตอกย้ำ ความยืดเยื้อของสงครามครั้งนี้

นอกจากปั่นหัวให้นายเซเลนสกีไม่ยอมเจรจาและรับเงื่อนไขใดๆ แล้วสหรัฐฯยังเที่ยวข่มขู่กดดันพันธมิตรรัสเซียจีน อินเดียไม่ให้ค้าขายและร่วมประณามรัสเซียว่าเป็นอาชญากรสงคราม จนถูกรัฐบาลจีนตอกหน้าเอาว่า“ให้เอากระจกส่องหน้าแล้วจะรู้ว่าใครเป็นผู้ทำให้พลเรือนตายนับล้านๆ คนในประเทศอิรัก ซีเรีย ลิเบีย เยเมน และอัฟกานิสถาน ฯลฯ นั่นแหละคืออาชญากรสงครามตัวจริง”

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน “จ้าว ลี่เจียน”เปิดเผยว่า #รัฐบาลจีนจะไม่คว่ำบาตรและไม่ประณาม #รัสเซีย ในเรื่อง #ยูเครน และเมิน “แรงกดดัน” ของ #สหรัฐ ที่ให้เปลี่ยนความสัมพันธ์กับรัสเซีย จุดยืนของจีนคือเป็น กลางนั่นทำให้ “เราอยู่ฝั่งที่ถูกต้องของประวัติศาสตร์”

ในการแถลงข่าวประจำวัน จ้าว ลี่ีเจียน กล่าวว่าสถานการณ์ในยูเครนได้เปิดให้เห็นธาตุแท้ของอเมริกาว่า “ยังฝังใจอยู่ในสงครามเย็นและคลั่งความเป็นเจ้าโลก”..

อเมริกาเลือกใช้กฎหมายและกติกาสากลที่เหมาะกับความเป็นเจ้าโลกของตัวเอง “มันเป็นยุทธศาสตร์ ของอเมริกาที่ล้าสมัย” ชาวโลกทั่วไปคิดเรื่องการพัฒนาความก้าวหน้าของเทคโนโลยียุคใหม่ แต่อเมริกายังบ้าสงครามจึงจำเป็นต้องหยุดยั้งพวกเขา...”

จีนเป็นประเทศพูดน้อยต่อยหนักล่าสุดรัฐบาลเซอร์เบีย ชาติพันธมิตรของรัสเซีย เปิดเผยว่าได้รับมอบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานล้ำสมัยจากจีน ซึ่งเริ่มเคลื่อนไหวแสดงแสนยานุภาพทางทหารในยุโรปเป็นครั้งแรกอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

สื่อมวลชนและผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารรายงานว่า เครื่องบินลำเลียง Y-20 จากทัพฟ้าแดนมังกร 6 ลำ ร่อนลงจอดที่ท่าอากาศยานนิโคลาเทสลา ซึ่งเป็นสนามบินพาณิชย์ในกรุงเบลเกรด ช่วงเช้ามืดวันเสาร์ที่ 9 เม.ย. เพื่อส่งมอบระบบขีปนาวุธยิงจากพื้นสู่อากาศ HQ-22 แก่กองทัพเซอร์เบีย ซึ่งจะทำให้เซอร์เบียเป็นชาติแรกในยุโรปที่มีระบบขีปนาวุธของจีนไว้ใช้

ปฏิบัติการครั้งนี้กระทำอย่างไม่เปิดเผย แต่ก็หาใช่ความลับเสียทีเดียว โดยในตอนแรกมีการบันทึกภาพเครื่องบินขนส่งมีตรากองทัพจีนไว้ได้ แต่ยังไม่มีใครทราบเรื่องราวละเอียด กระทั่งประธานาธิบดีอเล็กซานดาร์ วูซิชของเซอร์เบียออกมายืนยัน ซึ่งเป็นการส่งมอบตามข้อตกลงที่ทำร่วมกันเมื่อปี 2562 เขาระบุว่า เป็นความภาคภูมิใจใหม่ล่าสุดของกองทัพเซอร์เบีย

เครื่องบินของจีนลำเลียงขีปนาวุธบินผ่านน่านฟ้าของชาติสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต อย่างน้อย 2 รายคือ ตุรกี และบัลแกเรีย แม้ว่าชาตินาโตเพื่อนบ้านเคยบอกกับเซอร์เบียเองว่า จะไม่ยอมให้เครื่องบินขนขีปนาวุธบินผ่านน่านฟ้าของตนอย่างเด็ดขาด เพราะเดี๋ยวจะเป็นเรื่องในยามหน้าสิ่วหน้าขวานวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน

การบินผ่านได้อย่างสะดวกโยธินนี้เอง ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารชี้ว่า แสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถที่เพิ่มขึ้นของจีน ในปฏิบัติการทั่วโลก

ในขณะที่อเมริกาและกลุ่มประเทศนาโตคุยโวเรื่องส่งอาวุธไปให้เครน ปธน.ปูติน พูดสั้นๆ ว่าเป็นความชอบธรรมของรัสเซียที่จะยิงขีปนาวุธทำลายขบวนส่งอาวุธให้ยูเครน

เมื่อจีนเริ่มส่งขีปนาวุธไปให้มิตรประเทศรัสเซียและพูดว่าอเมริกาบ้าสงครามจำเป็นต้องหยุดยั้งให้ได้ จีน รัสเซีย อินเดียคือพันธมิตรแห่งมหาอำนาจตะวันออก ส่งสัญญาณบอกสหรัฐอเมริกา

ว่า “ให้หยุดบ้าสงครามพันทางตั้งแต่วันนี้ ยังดีกว่าเดินหน้าจนกระทั่งยูเครนและอเมริกาพากันล่มสลายไปด้วยกัน”


สุทิน วรรณบวร
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
18:44 น. กู้ภัยช่วยระทึก! 'คนงานเขมร'เป็นลมบนต้นทุเรียนสูง10เมตร
18:42 น. 'Chef Fest Thailand Season 3'เปิดศึก ONE STREET, ONE LEGEND เฟ้นหาสุดยอดเชฟสตรีทฟู้ดไทย
18:39 น. 'สมเด็จพระสังฆราช' ทรงล้ม เสด็จไปประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช
18:27 น. ท้าทายระบบ! ทหารหญิงเขมร อวดบังเกอร์ใหม่แนวชายแดน
18:22 น. สาวผู้เสียหายสุดงง! ‘โจรแสบลักจยย.’ หน้าร้านค้าที่บางละมุง ฉกทั้งรถ-ของที่ซื้อมา
ดูทั้งหมด
'น็อต วรฤทธิ์'ตั้งคำถามแรง'พรรคนี้มีไว้ทำไม' หลังสส.พรรคปชน. สาธิตสายไส้ไก่ห้ามเลือด
งงกันทั้งลำ! 'แอร์เอเชีย'ลงจอดผิดสนามบินในเกาหลีใต้
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2568
ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด 6 เจ้าหน้าที่รัฐ นำรถหลวงไปใช้ส่วนตัว
จากไปอย่างสงบ! 'บุ๋ม นิรวรรณ'นักแสดงสมทบ หลังประสบอุบัติเหตุอาการโคม่าหลายวัน
ดูทั้งหมด
เรื่องข้อเท็จจริงในอีกแง่มุมหนึ่งของปัญหาความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา 2
รอดตุยหรือไม่?
ไม่กล้าตัดสินใจ ก็อย่าอยู่เป็นรัฐบาล
แวดวงการเงิน : 18 สิงหาคม 2568
หนึ่งหมื่นคำแก้ตัว ไม่สู้ ‘กรรมชี้เจตนา’
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

กู้ภัยช่วยระทึก! 'คนงานเขมร'เป็นลมบนต้นทุเรียนสูง10เมตร

ท้าทายระบบ! ทหารหญิงเขมร อวดบังเกอร์ใหม่แนวชายแดน

(คลิป) 'หมวดป้อ'เล่านาทีชีวิต! 'เขมร'ใช้โดรนทิ้งระเบิดใส่ทหารไทย เสียชีวิต-บาดเจ็บ

'หลวงพ่ออลงกต'ยืนยันยังไม่ลาออก ขอมีเหตุผลสมควรกว่านี้-รอดูอนาคตอีกนิด

รัฐบาลโต้ข่าวลือรื้อรั้วลวดหนาม ย้ำไม่มีวันรื้อ มีแต่จะสร้างเพิ่มในเขตอธิปไตยของไทย

เคาะแล้ว! 'เมียนมา'จัดเลือกตั้งทั่วไปเฟสแรกเริ่ม 28 ธ.ค.

  • Breaking News
  • กู้ภัยช่วยระทึก! \'คนงานเขมร\'เป็นลมบนต้นทุเรียนสูง10เมตร กู้ภัยช่วยระทึก! 'คนงานเขมร'เป็นลมบนต้นทุเรียนสูง10เมตร
  • \'Chef Fest Thailand Season 3\'เปิดศึก ONE STREET, ONE LEGEND เฟ้นหาสุดยอดเชฟสตรีทฟู้ดไทย 'Chef Fest Thailand Season 3'เปิดศึก ONE STREET, ONE LEGEND เฟ้นหาสุดยอดเชฟสตรีทฟู้ดไทย
  • \'สมเด็จพระสังฆราช\' ทรงล้ม เสด็จไปประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช 'สมเด็จพระสังฆราช' ทรงล้ม เสด็จไปประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช
  • ท้าทายระบบ! ทหารหญิงเขมร อวดบังเกอร์ใหม่แนวชายแดน ท้าทายระบบ! ทหารหญิงเขมร อวดบังเกอร์ใหม่แนวชายแดน
  • สาวผู้เสียหายสุดงง! ‘โจรแสบลักจยย.’ หน้าร้านค้าที่บางละมุง ฉกทั้งรถ-ของที่ซื้อมา สาวผู้เสียหายสุดงง! ‘โจรแสบลักจยย.’ หน้าร้านค้าที่บางละมุง ฉกทั้งรถ-ของที่ซื้อมา
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ล่าตัว ก๊ก อาน เหตุจากความขัดแย้งฮุนกับชิน หรือถูกสหรัฐกดดัน

ล่าตัว ก๊ก อาน เหตุจากความขัดแย้งฮุนกับชิน หรือถูกสหรัฐกดดัน

16 ส.ค. 2568

รัฐบาลเพื่อไทยถ่วงเวลาให้ประเทศไทยเสียหายกว่านี้

รัฐบาลเพื่อไทยถ่วงเวลาให้ประเทศไทยเสียหายกว่านี้

15 ส.ค. 2568

ไส้ศึกถ่วงเวลาให้ทหารไทยทำสงคราม กับ กัมพูชาที่มีผู้นำบ้าอำนาจ

ไส้ศึกถ่วงเวลาให้ทหารไทยทำสงคราม กับ กัมพูชาที่มีผู้นำบ้าอำนาจ

12 ส.ค. 2568

อาเซียนเปลี่ยนทิศทางการค้า หันไปหา BRICS มากขึ้น

อาเซียนเปลี่ยนทิศทางการค้า หันไปหา BRICS มากขึ้น

9 ส.ค. 2568

สทร.กับที่ปรึกษาบ้านพิษฯ เป็นอาถรรพณ์หรือกาลีบ้านกาลีเมือง

สทร.กับที่ปรึกษาบ้านพิษฯ เป็นอาถรรพณ์หรือกาลีบ้านกาลีเมือง

8 ส.ค. 2568

ความยุติธรรมล่าช้าคือความอยุติธรรม

ความยุติธรรมล่าช้าคือความอยุติธรรม

5 ส.ค. 2568

กัมพูชาปรามแก๊งไซเบอร์สแกม แบบขายผ้าเอาหน้ารอด

กัมพูชาปรามแก๊งไซเบอร์สแกม แบบขายผ้าเอาหน้ารอด

2 ส.ค. 2568

ตามก้นสหรัฐและกัมพูชานำชาติสู่หายนะในความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์

ตามก้นสหรัฐและกัมพูชานำชาติสู่หายนะในความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์

1 ส.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved