เพิ่งจะผ่านเทศกาลสงกรานต์มาหมาดๆ ข่าวคนเจ็บคนตายจากอุบัติเหตุและทะเลาะวิวาทกันถูกข่าวโควิด ข่าวการเมืองชิงพื้นที่ข่าวไป แต่มูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ(มสส.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ไม่ยอมให้เรื่องนี้ผ่านเลยไปจนเป็นความเคยชินจึงจัดประชุมโฟกัสกรุ๊ป ถอดบทเรียนระดมความคิดเห็นสื่อมวลชน ในหัวข้อ “2565 : สงกรานต์หรือสงคราม...แก้ปัญหาอย่างไรในมุมสื่อ” ผ่านระบบ Application Zoom เมื่อเร็วๆ นี้
นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) เกริ่นให้เห็นภาพว่าสงกรานต์ปีนี้ผู้คนเดินทางเพิ่มขึ้น6.2 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับ ปี 2564ไม่เหมือนตอนปี 2563 โควิดระบาดคนเดินทางน้อยคนเจ็บคนตายน้อย ส่วนปีนี้คนตายใกล้เคียงกับปีที่แล้ว แต่ที่น่าเป็นห่วงคือความรุนแรงของอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นการเสียชีวิตคาที่เพิ่มจาก 50 เปอร์เซ็นต์ เป็น 60 เปอร์เซ็นต์ สาเหตุหลักมาจากขับรถเร็ว และยังพบอีกว่าคนที่บาดเจ็บ 1 ใน 4 มีแอลกอฮอล์อยู่ในกระแสเลือด รถจักรยานยนต์ยังคงเกิดเหตุมากที่สุด ตามด้วยรถกระบะ ข้อมูลที่น่าตกใจคือถ้าเปรียบเทียบความรุนแรงพบว่าอุบัติเหตุจากรถกระบะเสียชีวิตมากว่าจักรยานยนต์ถึง 2.18 เท่า เหตุเพราะความเร็วและไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
โจทย์สำคัญ ที่ต้องหามาตรการป้องกัน คือ แนวโน้มความรุนแรงอุบัติเหตุแต่ละครั้งจะรุนแรงขึ้น ทั้งในเทศกาลและช่วงปกติ จึงต้องบูรณาการเป็นระบบทั้งส่วนกลางและพื้นที่ หากเปรียบเป็นสงครามศึกจะชนะก็อยู่ตรงพื้นที่ด่านหน้า โดยสื่อมวลชนจะมีบทบาทในการกระตุ้นให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแก้ไขทั้งด้านกายภาพด้านการบังคับใช้กฎหมาย สื่อควรส่งสัญญาณให้มีการจัดการและปรับสภาพแวดล้อมในพื้นที่ เพิ่มบทบาทด่านหน้าคือท้องถิ่นชุมชน หน่วยงานองค์กรต่างๆ ในการจัดการความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ การลดความเร็ว ไม่ขับจี้ เว้นระยะห่าง ดื่มไม่ขับ และเพิ่มการใช้หมวกนิรภัยและเข็มขัดนิรภัย
ส่วนภาคี สสส.ที่ทำงานกับชุมชนในเรื่องสงกรานต์ปลอดเหล้าปลอดภัยมาอย่างต่อเนื่องอย่างนายวิษณุ ศรีทะวงศ์ ผู้จัดการแผนงานนโยบายสาธารณะ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) มองว่า ผ่านมา10 ปี สงกรานต์ปีนี้มีอะไรหลายอย่างวนกลับมาสู่จุดเดิม ที่มีการทะเลาะวิวาทกันเพราะการดื่มแอลกอฮอล์ ที่ดีขึ้นคือการลวนลามทางเพศลดลง ส่วนพฤติกรรมการเล่นน้ำสงกรานต์เปลี่ยนมาเล่นบนถนนมากขึ้น เล่นในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวที่มีคนรวมตัวกันหนาแน่นมากขึ้น และคาดการณ์ได้เลยว่าสงกรานต์ปีหน้าจะเป็นการปล่อยผีเพราะมีการผ่อนคลายมาตรการจากโควิด วัยรุ่นจะหันมาเล่นน้ำสงกรานต์ในตอนกลางคืนมากขึ้นนี่คือโจทย์สำคัญว่าจะทำอย่างไรจึงจะเปลี่ยนความคิดหรือความเชื่อของคนรุ่นใหม่ให้เห็นคุณค่าของประเพณีสงกรานต์แบบดั้งเดิม พร้อมเปิดเผยผลสำรวจความเห็นของประชาชน ว่า ส่วนใหญ่รู้สึกกังวลกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19มากที่สุด รองลงมาคือ กังวลเรื่องอุบัติเหตุจากการเดินทางและกังวลเรื่องการทะเลาะวิวาท เรื่องคนเมามากที่สุดตามลำดับ และมีถึงร้อยละ 97 ที่เห็นว่าการจัดงานสงกรานต์แบบปลอดเหล้าทำให้รู้สึกปลอดภัย
ด้านสื่อมวลชน นางชุติมา บูรณรัชดา รองบรรณาธิการบริหาร หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ อดีตนายกสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทยตั้งคำถามว่าทำไมประเทศไทยเรายังคงวนเวียนอยู่กับปัญหานี้ไปต่างประเทศถนนหนทางดีขับรถแล้วรู้สึกปลอดภัย ผู้คนมีจิตสำนึก การบังคับใช้กฎหมายมีความเข้มข้น เช่น ประเทศญี่ปุ่นห้ามขายแอลกอฮอล์ฝ่าฝืนมีความผิดรุนแรง เมืองไทยมีการสร้างและซ่อมถนนกันทั้งปีทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ทุกวันนี้คนไทยตายจากอุบัติเหตุตลอดทั้งปีไม่ต่ำกว่า 20,000 คน ดังนั้นควรให้ความสำคัญกันตลอดทั้งปี แนวทางที่จะแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนคือการสร้างจิตสำนึกรับผิดชอบของคนไทย มีการบังคับใช้กฎหมายจริงจัง สื่อมวลชนก็ทำหน้าที่สะท้อนมุมมองกระตุ้นเตือนสังคม ไม่ไปตำหนิเหยื่อที่ได้รับผลกระทบ ผู้รับผิดชอบบ้านเมืองก็ต้องสนใจให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง
ครั้นเปิดเวทีให้สื่อทั้งส่วนกลางและภูมิภาคได้แลกเปลี่ยนความเห็น ก็มีมุมมองน่าสนใจ เช่น นายวิเชษฐ์ พิชัยรัตน์ สื่อมวลชนอาวุโส อดีตบอร์ดสสส.ให้ข้อมูลว่ากระทรวงสาธารณสุขมีการสรุปสถิติการบาดเจ็บและเสียชีวิตในช่วงเทศกาลสงกรานต์ย้อนหลังแล้วพบว่าคนไทยเสียชีวิตไม่ต่างจากสงคราม คือนับตั้งแต่ปี 2551 จนถึงล่าสุดสงกรานต์ปี 2565 ผ่านมา 15 ปี คนไทยตายไป 6,183 คน บาดเจ็บ 391,691 คนต้องเข้าแอดมิทในโรงพยาบาล 73,548 คน ถ้าหากรวมเทศกาลปีใหม่เทศกาลเข้าพรรษาและทุกๆ วันคงมีจำนวนมหาศาล แต่ฝ่ายที่รับผิดชอบมองเป็นเรื่องปกติ ทั้งๆ ที่ควรจะเป็นเรื่องสำคัญ ด้านนายศักดา แซ่เอียว หรือ เซีย การ์ตูนนิสต์ ไทยรัฐ เสนอว่าต้องลดพื้นที่เล่นสนุกสงกรานต์ลงแล้วเพิ่มพื้นที่สร้างสรรค์ให้ชุมชนจัดกิจกรรมมากขึ้นชุมชนไหนทำดีไม่ตีกันไม่มีแอลกอฮอล์ก็ให้รางวัลระดับชาติไปเลย พร้อมแนะว่าควรใช้โอกาสนี้ทำงานเรื่องนี้กับผู้นำท้องถิ่นที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งเข้าใหม่ ส่วนนายประเสริฐ เอี่ยมสนิทอมร บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์ข่าวอีสานไทยแลนด์ จาก จ.ขอนแก่น เรียกร้องให้แก้กฎหมายเพิ่มบทลงโทษคดีเมาแล้วขับชนคนตายให้หนักกว่าเดิม และอยากให้กวดขันการดื่มแอลกอฮอล์นอกพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ทั้งก่อนและหลังการจัดงานมากขึ้นด้าน น.ส.กาญจนา นิตย์เมธาผู้ช่วยบรรณาธิการข่าวสปริงนิวส์กล่าวว่าการแก้ปัญหาจะต้องทำอย่างต่อเนื่อง จริงจัง และยั่งยืน ไม่ใช่ตื่นตัวกันตอนเกิดเหตุรุนแรงแต่หลังจากนั้นทุกอย่างก็กลับไปเหมือนเดิม
ครับ นั่นเป็นข้อมูลในวงเสวนา ในหัวข้อ “2565 : สงกรานต์หรือสงคราม ...แก้ปัญหาอย่างไรในมุมสื่อ”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี