กรณีทุจริตในแวดวงสหกรณ์ ไม่ได้มีเฉพาะคดีทุจริตยักยอกเงินในสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ขณะนี้มีรายงานยอดความเสียหายสูงถึง 600 กว่าล้านบาท
แต่ถ้าสอดส่องให้ถ้วนทั่ว จะเห็นกรณีโกงอีกหลายแห่ง
บางกรณีเกิดเรื่องโกงแล้ว มีคดีแล้ว มูลค่าความเสียหายหลายพันล้านบาท แถมคนที่ถูกฟ้อง ยังได้กลับมานั่งเป็นคณะกรรมการบริหารสหกรณ์อยู่ในปัจจุบันก็มีให้เห็น
ล่าสุด ได้รับข้อมูลร้องเรียนกรณีสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยฯ (สอ.จฬ.)
เป็นสหกรณ์ขนาดใหญ่ มีสินทรัพย์กว่า 35,000 ล้านบาท
มีสมาชิกกว่า 15,000 คน
ก่อตั้งครบ 61 ปีในปี 2565 นี้
ปัญหาหนี้เสีย อันเนื่องจากความไม่ชอบมาพากลในการทำธุรกรรมทางการเงิน ในช่วงปี 2551-2559
ช่วงนั้น ดร.สวัสดิ์ แสงบางปลา และ ดร. บัญชา ชลาภิรมย์ ผลัดกันเป็นประธานกรรมการฯ และเป็นที่ปรึกษา ได้นำเงินไปลงทุนให้กู้และฝากสหกรณ์อื่น จนก่อให้เกิดความเสียหาย
โดยเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬา ไปเสียหายอยู่ที่ไหนบ้าง ประกอบด้วย
1. สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น (สคจ.) 1,431 ล้านบาท
2. สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี (ส. มงคลเศรษฐี) 200 ล้านบาท
3. สหกรณ์เคหสถานนพเก้ารวมใจ (สค. นพเก้าฯ) 915 ล้านบาท
4. ชุมนุมสหกรณ์ธนกิจไทย (ชส. ธนกิจไทย) 585 ล้านบาท
ปัจจุบัน สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ ก็ยังไม่ได้เงินคืน
ปัญหาสำคัญ คือ การปล่อยปละละเลยของหน่วยงานที่กำกับดูแล และความล่าช้าในการสืบสวนสอบสวน เพื่อดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำผิด ซึ่งหากมีประสิทธิภาพ ย่อมจะช่วยยับยั้งความเสียหาย อันจะกระทบต่อสมาชิกร่วมหมื่นกว่าราย รวมทั้งสหกรณ์อื่นๆ ทั่วประเทศที่มีธุรกรรมทางการเงินกับ สอ.จฬ.
ขอให้คุณมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ติดตามกรณีโกงสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ปฏิบัติหน้าที่กำกับตรวจสอบติดตามเอาจริงกับกรณีใหญ่ๆ เกิดขึ้นกลางเมือง กลางแดด อย่างกรณีโกงสหกรณ์จุฬาฯ นี้ด้วย
รัฐมนตรีควรจะทราบว่า ที่สหกรณ์จุฬาฯ มีอดีตกรรมการในยุคที่ก่อให้เกิดความเสียหาย ยังได้กลับมามีตำแหน่งอำนาจหน้าที่ในคณะกรรมการชุดปัจจุบันอยู่ด้วย แล้วชวนสงสัยว่าจะมีการเร่งรัดติดตามเอาผิดกับผู้กระทำผิดได้จริงจังหรือไม่? จะติดตามเรียกค่าเสียหายคืนกลับมาให้สหกรณ์จุฬาฯ ชาตินี้ได้หรือไม่?
จึงต้องเป็นหน้าที่ของฝ่ายกำกับดูแล ทั้งข้าราชการและฝ่ายการเมือง ที่จะต้องพิสูจน์ความจริงใจในการกำกับดูแลกิจการสหกรณ์ ว่ามีความจริงใจแค่ไหน? กล้าหาญแค่ไหน? หรือจะเอาแต่ดูสหกรณ์ที่เจ้าหน้าที่ในกระทรวงเกษตรเป็นสมาชิกเองเท่านั้น
ยิ่งกว่านั้น หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมอย่างดีเอสไอ กรณีผู้บริหาร สอ.จฬ.บางคน ถูกตรวจสอบพบเงินเข้าบัญชีกว่า 80 ล้านบาท และเส้นทางการเงินต้องสงสัย สอบสวนเป็นคดีพิเศษ แต่จนถึงขณะนี้ หลังใช้เวลาสืบสวนและสอบสวนคดีนานปี ก็ยังไม่ปรากฏความคืบหน้า และบุคคลดังกล่าวก็ยังมีบทบาทในการบริหารสหกรณ์ในปัจจุบันด้วย!!!
น่าเป็นห่วงว่า ความล้มเหลวของระบบกำกับดูแล และดำเนินคดีกับเครือข่ายโกงสหกรณ์ จะเป็นบาปกรรมนำไปสู่ความเสียหายรุนแรงในอนาคตอันใกล้ และกระทบกับชีวิตสมาชิกสหกรณ์ ตลอดจนผู้ได้รับผลกระทบต่อเนื่องอีกนับแสนคน เป็นโศกนาฎกรรมในวงการสหกรณ์ต่อไป
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี