เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน แห่งราชวงศ์ อัล ซะอูด หรือที่โลกตะวันตกเรียกกันภายใต้ชื่อย่อว่า MBS พระองค์ทรงขึ้นเป็น มกุฎราชกุมาร ว่าที่กษัตริย์แห่งซาอุดีอาระเบีย ผู้มีอำนาจในราชอาณาจักรเศรษฐีน้ำมัน พระองค์ทรงมีสายพระเนตรยาวไกลที่ประกาศว่า จะลดการลงทุนในสหรัฐอเมริกาและหันมาเพิ่มการลงทุนในตะวันออกแทน
MBS ยังเป็นแกนนำประเทศค้าน้ำมันที่หันมาใช้เงินหยวนกำหนดราคาพลังงานแทนเงินดอลลาร์ที่ครอบงำการกำหนดราคาพลังงานมานานหลายทศวรรษ
ล่าสุด อิสราเอลซึ่งเป็นมหามิตรที่แนบแน่นกับอเมริกาเหมือนแฝดอิน-จัน ก็หันมาใช้เงินหยวน เงินรูเบิลแลกเปลี่ยนสินค้ากับจีนและรัสเซีย
เหมือนหลายประเทศ เช่น กลุ่มบริกส์ อันประกอบด้วย จีน รัสเซีย อินเดีย บราซิลและแอฟริกาใต้ ใช้สกุลเงินของประเทศตัวเอง แทนเงินดอลลาร์ ที่เสี่ยงต่อความไม่แน่นอน ถือเงินดอลลาร์ไว้มากเสี่ยงต่อการถูกยึดถูกอายัดได้ง่ายๆ เพราะสหรัฐฯใช้อำนาจเงินดอลลาร์เป็นอาวุธปล้นทรัพย์สินของประเทศอื่นได้ตามอำเภอใจในคำว่า “คว่ำบาตร”
สหรัฐฯคอยจ้อง คอยจับตามองประเทศต่างๆ ที่เป็นเป้าหมายโดยเฉพาะประเทศที่ปกครองด้วยอำนาจนิยม หรือแม้แต่ประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย เมื่อทำอะไรผิดใจหรือไม่ได้ดังใจวอชิงตัน ประเทศนั้นจะถูกคว่ำบาตรแล้วใช้อำนาจดอลลาร์ อายัดทรัพย์ทันทีโดยที่ไม่สนใจว่าประเทศเหล่านั้นมีบริบทการเมือง และสังคมที่แตกต่างอย่างไร
สหภาพพม่าถูกสหรัฐฯอายัดเงินสำรองที่ฝากไว้ในธนาคาร 1,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 33 แสนล้านบาท) ทันทีที่ พลเอกมิน อ่อง หล่าย ยึดอำนาจจากรัฐบาลพรรคเอ็นแอลดีของ นางออง ซาน ซู จี โดยที่สหรัฐฯไม่สนใจในข้อกล่าวหาว่าโกงการเลือกตั้งครั้งมโหฬารที่มีบัตรเลือกตั้ง 11 ล้านใบ ผิดปกติ ซึ่ง นางออง ซาน ซู จีไม่ยอมให้ตรวจสอบ สหรัฐฯไม่สนใจว่ามีข้อครหาทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นร้อยๆ ล้านดอลลาร์ และรับทองแท่งติดสินบน 100 กิโลกรัม ตามที่กล่าวหา ที่สำคัญอเมริกาไม่สนใจข้อหาละเมิดความมั่นคงของรัฐในการเปิดความลับทางราชการและสงสัยว่าสมคบกับต่างชาติ
เหมือนกับเหตุการณ์ในประเทศไทย ที่สหรัฐฯไม่สนใจว่าทรราชพลเรือนปล้นประเทศไทยไปกี่แสนล้าน เมื่อศาลตัดสินจำคุกแล้วหนีไป สหรัฐฯไม่สนใจเรื่องรัฐบาลสมุนบริวารสร้างความเสียหายให้ประเทศไทยอีกกี่แสนล้านบาทไม่สนใจไม่สอบถามเรื่องที่น้องสาวของสัมภเวสีหนีคุก ลักหลับออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้พี่ชาย
เมื่อมวลมหาประชาชนทนไม่ได้ออกมาประท้วงขับไล่รัฐบาลทรราชพลเรือนก็ส่งสมุนบริวารออกมาทำร้าย ยิงปืน ปาระเบิดใส่ผู้ประท้วงกลางเมืองหลวง ทำให้มีคนตายกว่า 30 ราย สมุนบริวารของรัฐบาลทรราชพลเรือนสร้างความวุ่นวายจนประเทศไทยเกือบกลายเป็นรัฐล้มเหลว
เมื่อทหารเห็นว่าหากปล่อยไว้ประเทศไทยต้องพินาศวอดวาย แต่สหรัฐฯไม่สนใจว่าประเทศไทยกำลังกลายเป็นรัฐล้มเหลวอย่างไร เมื่อทหารลุกขึ้นมาแก้ไขสถานการณ์โดยการยึดอำนาจสหรัฐฯก็ประกาศคว่ำบาตรทันที ดีท่ีไม่ยึดทรัพย์สินของประเทศไทย
ที่สุดเลวร้าย คือ ในอัฟกานิสถาน สหรัฐฯกับพันธมิตรนาโตส่งกำลังทหารเข้ายึดครองอัฟกานิสถานนานยี่สิบปี จนถึงเดือนสิงหาคมปี 2564 ที่สหรัฐอเมริกาถอนทหารทั้งหมดออกไปท่ามกลางความวุ่นวาย เที่ยวบินสุดท้ายของการอพยพเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2564
พอทหารคนสุดท้ายบินออกจากอัฟกานิสถาน รัฐบาลวอชิงตันก็ประกาศอายัดเงินสำรองของอัฟกานิสถานประมาณ 300,000 ล้านบาทไทย โดยอ้างว่ากลัวตาลิบันนำไปใช้ทำร้ายประชาชน จนถึงวันนี้ยังไม่ยอมคืนให้ โดยอ้างว่าเอาเงินที่อายัดไว้ใช้ได้ตามที่อเมริกาต้องการ
ดังที่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามในหนังสือฉบับหนึ่งแบ่งเงินที่ยึดมาจากประเทศยากจนอย่างอัฟกานิสถานเป็นสองส่วน
คือ 7 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.27 แสนล้านบาท) ใช้เป็นเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอัฟกานิสถาน คือช่วยเหลือหาที่อยู่ที่กิน จัดหาอาหารให้ชาวอัฟกานิสถานประมาณ 1.6 แสนคน ที่เคยรับใช้อเมริกา และอพยพตามทหารอเมริกันออกมา และ เงิน 3.5 พันล้านดอลลาร์(ประมาณ1.13 แสนล้านบาท) ตั้งเป็นกองทุนสำหรับชดเชยผู้เสียหายจากเหตุวินาศกรรมอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2543
ประเทศยากจน อย่าง พม่าและอัฟกานิสถาน ที่ถูกอเมริกันปล้นกลางแดดไป ประชาชนที่ยากจนประทังชีวิตอยู่ได้เพราะความช่วยเหลือจากประเทศจีน ที่ยอมบริจาคและจ่ายเงินล่วงหน้าจากการทำสัญญาการลงทุน การค้าระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัญญาการลงทุนขุดหาทรัพยากรธรรมชาติ เช่น แร่หายากและแร่ธาตุต่างๆ ในพม่าและอัฟกานิสถาน
สำนักข่าว อัล-จาซีรา รายงานภาพข่าวชาวอัฟกันหลายร้อยคนแบกถุงข้าวสารที่รับบริจาคจากรัฐบาลปักกิ่งข่าวรายงานว่า จีนบริจาคข้าวสาร 6,220 ตัน ให้อัฟกานิสถาน เฉพาะในคาบูล ชาวอัฟกันได้รับข้าวสารคนละ 50 กิโลกรัม ถึง 3,000 คน
วันเดียวกัน ที่ อัล-จาซีรา เสนอภาพชาวอัฟกันแบกถุงข้าวสารที่ได้รับบริจาคจากประเทศจีนในกรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา มาแลนี โจลี รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา แถลงกับผู้สื่อข่าวว่าแคนาดาเป็นจี7 ประเทศแรกที่อนุญาตให้ใช้ทรัพย์สินที่ยึดจาก Oligarchs รัสเซียไปมอบให้กับพันธมิตร
สหรัฐและประเทศตะวันตก เรียก เศรษฐีหรือผู้มีอำนาจบารมีที่เกี่ยวข้องหรือใกล้ชิดประธานาธิบดี วลาดีมีร์ปูติน ว่า โอลิการ์ช “ข้อดีของประเทศเราคือสามารถขายทรัพย์สินที่ยึดมาจากมาตรการคว่ำบาตรได้ และกำไรจากการขายแคนาดาจะนำไปชดใช้ให้เหยื่อสงครามในยูเครน”โจลี กล่าวกับผู้สื่อข่าว
แคนาดาเดินตามรอยสหรัฐฯที่ไม่ยอมคืนทรัพย์สินที่อายัด หรือยึดจากรัฐบาลและโอลิการ์ชคืนให้ประเทศรัสเซีย
นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯกล่าวในที่ประชุมสโมสรเศรษฐกิจแห่งชาติในกรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ว่า “วอชิงตันไม่มีแผนคืนทรัพย์สินที่อายัดจากนักธุรกิจชาวรัสเซียตามมาตรการคว่ำบาตร เพื่อตอบโต้มอสโก ที่ปฏิบัติการทางทหารต่อยูเครน ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้นำเงินและทรัพย์สินส่วนนี้ไปใช้ในการฟื้นฟูยูเครน..”
ยังไม่มีตัวเลขเป็นทางการว่าสหรัฐและประเทศยุโรปอายัดทรัพย์สินรัฐบาลและนักธุรกิจชาวรัสเซียไว้จำนวนเท่าไหร่แต่ประมาณการว่าหลายแสนล้านดอลลาร์ เฉพาะทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซียที่ฝากไว้กับธนาคารในสหรัฐฯก็มากกว่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ จนประธานาธิบดี ปูติน พูดว่าอเมริกาเป็นโจรปล้นกลางแดด
สำนักข่าว RT รายงานว่า ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำแห่งรัสเซีย กล่าวว่า เขาไม่จะแปลงทรัพย์สินนักธุรกิจและรัฐบาลต่างชาติที่ไม่เป็นมิตรต่อรัสเซีย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะคว่ำบาตรเราก็ตาม ฉะนั้นทรัพย์สินของพวกเขาที่อยู่ในรัสเซีย ผมจะไม่อายัดมาเป็นของรัฐบาลรัสเซีย
“ผมจะไม่ทำตัวเยี่ยงโจร แน่นอนว่าผมแยกแยะออกได้ ซึ่งผมจะไม่ทำเหมือนกับพวกเขา เราจะเคารพต่อสิทธิในทรัพย์สินของแต่ละประเทศที่อยู่ในรัสเซีย”ปูตินกล่าวทิ้งท้าย
รัสเซียเป็นประเทศมหาอำนาจนิวเคลียร์ ที่สามารถตอบโต้สหรัฐและยุโรป ได้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน มาตรการตอบโต้ของ ประธานาธิบดีปูติน คือ ใช้สินค้าอุปโภค-บริโภค พลังงาน แก๊ส ปุ๋ยและอาหารเป็นอาวุธร้าย ทำให้สหรัฐและประเทศยุโรป กลายเป็นอัมพาตทางเศรษฐกิจไปทันตาเห็น
อาจารย์สมเกียรติ โอสถสภา ออกมาเตือนว่า สหรัฐอเมริกาจะขาดแคลนอาหารภายในสิ้นปีนี้ อ.สมเกียรติ ยังเตือนด้วยว่าให้ระวังสองแสนแก๊งอันธพาล แก๊งละยี่สิบคนออกมาปล้นสะดมทั่วสหรัฐอเมริกา
คำเตือน อ.สมเกียรติ จะเป็นจริงหรือไม่สิ้นปีนี้ได้รู้กัน แต่คำพูดที่เป็นสัจธรรมพิสูจน์ได้คือวลีเด็ดของประธานาธิบดีปูตินที่ว่า “ผมจะไม่ทำตัวเยี่ยงโจรอย่างพวกเขา” ใครๆ ก็รู้ว่าโจรปล้นกลางแดด ที่ประธานาธิบดี ปูติน พูด คือ สหรัฐอเมริกา ถึงได้พาดหัวว่า
“คบจีนที่เป็นพ่อค้าดีกว่าสหรัฐอเมริกาที่ปล้นจากการค้าสงคราม”
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี