จากรายงานข่าวการจับกุมบุหรี่เถื่อนอย่างต่อเนื่องในห้วงเวลาที่ผ่านมาอาจสรุปให้เห็นปัญหาใหญ่ที่ประเทศไทยกำลังเผชิญได้ 2 เรื่องด้วยกันคือ 1. บุหรี่ที่ปลอมแปลงเครื่องหมายการค้าของบุหรี่ที่จำหน่ายในประเทศไทย และ2. บุหรี่ต่างประเทศที่ลักลอบนำเข้าประเทศโดยไม่ผ่านพิธีศุลกากร ซึ่งจากสถิติผลการจับคุมคดีความผิดเกี่ยวกับยาสูบของกรมสรรพสามิตในช่วงปีงบประมาณนี้พบว่าสูงขึ้นทั้งจำนวนคดีและจำนวนของกลางอย่างเห็นได้ชัด
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการขึ้นภาษีบุหรี่ 2 ครั้ง ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาได้ทำให้ราคาบุหรี่แพงขึ้นมาก ในยามที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดในรอบหลายปี ราคาพลังงานและค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้น การขึ้นภาษีทำให้ราคาขายปลีกของบุหรี่ซิกาแรตแพงขึ้นจนผู้บริโภคส่วนหนึ่งต้องหนีไปบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายเป็นการทดแทนโดยไม่ได้ลดการบริโภคอย่างแท้จริง
จากการติดตามข่าวจับกุมและพฤติการณ์ของบุหรี่ ผิดกฎหมายพบว่าโดยส่วนใหญ่บุหรี่ที่ปลอมแปลงทั้งเครื่องหมายการค้าและปลอมแสตมป์ยาสูบของกรมสรรพสามิตของไทยนั้นมีการปลอมแปลงยี่ห้อของทั้งบุหรี่ที่ผลิตในประเทศและบุหรี่ที่นำเข้า โดยบุหรี่ปลอมแปลงเครื่องหมายการค้าจะมีการจับกุมได้บ่อยครั้งในแถบชายแดนภาคตะวันออกติดกับประเทศกัมพูชา ทั้งด้านจ.สระแก้ว จ.จันทบุรี จ.ตราด หรือ จังหวัดภาคอีสานตอนล่าง และกระจายไปทั่วประเทศผ่านเครือข่ายขนส่งเอกชน
ส่วนบุหรี่ที่ลักลอบนำเข้าส่วนใหญ่เป็นบุหรี่ต่างประเทศที่ไม่มีจำหน่ายหรือจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในประเทศไทย มีการเปิดขายอย่างโจ๋งครึ่มโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายและมีการจับกุมได้จำนวนมากในแถบจังหวัดชายแดนภาคใต้ตอนล่าง อาทิ จ.สงขลา จ.นราธิวาส แล้วกระจายสินค้าสู่ภาคใต้ตอนบน เช่น จ.นครศรีธรรมราช จ.พัทลุง โดยส่วนใหญ่เป็นการลักลอบขนส่งทางทะเลที่มีต้นทางจากประเทศเวียดนามและมีจุดหมายปลายทางคือประเทศไทย รวมทั้งยังเป็นแหล่งส่งต่อสินค้าผ่านไปยังประเทศมาเลเซียอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการขายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นจำนวนมาก
จะเห็นได้ว่าขบวนการค้าผิดกฎหมายนั้นมีฐานผลิตอยู่ในต่างประเทศและมีเครือข่ายการกระจายสินค้าและการลำเลียงขนส่งในประเทศ มีการทำกันเป็นขบวนการใหญ่ เชื่อมโยงหลายกลุ่ม หลายประเทศ ทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบเกิดความเสียหายทั้งต่อรายได้ของรัฐ ผู้บริโภคและการควบคุมยาสูบของไทย มีความเกี่ยวโยงกันหลายประเทศทั้ง ไทย กัมพูชา เวียดนาม และมาเลเซีย
การจับกุมปราบปรามของเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายจึงยังคงเป็นเรื่องจำเป็นและท้าทายอย่างยิ่ง แต่อาจเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ตราบใดที่ประเทศไทย ไม่สามารถปิดกั้นสินค้าผิดกฎหมายที่ลักลอบเข้ามาได้อย่างเต็มที่ด้วยพรมแดนธรรมชาติทั้งทางบกและทางทะเลที่มากกว่ากำลังเจ้าหน้าที่ การยกระดับปัญหาขึ้นเจรจาระหว่างรัฐบาลไทย กับรัฐบาลของประเทศที่เกี่ยวข้องจึงเป็นเรื่องที่อาจละเลยมิได้ และเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ต้องพิทักษ์ผลประโยชน์ของประเทศไทยอย่างเต็มกำลัง โดยแสวงหาความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน
ในยามที่รัฐบาลต้องใช้เงินทุกบาททุกสตางค์เพื่อแก้ไขปัญหาปากท้อง ปัญหาเศรษฐกิจให้กับพี่น้องประชาชนเช่นนี้ การจัดการกับอาชญากรรมข้ามชาติในเรื่องบุหรี่ผิดกฎหมายจึงอาจนำรายได้กลับเข่าสู่ประเทศ ช่วยปกป้องเกษตรกรชาวไร่ยาสูบของไทย และคุ้มครองผู้บริโภคได้อีกทางหนึ่งด้วย แต่จะสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะเอาจริงกับเรื่องดังกล่าวสักแค่ไหน และที่สำคัญคือจะมีหน่วยงานไหนเป็นเจ้าภาพมารับงานร้อนแบบนี้หรือไม่ หรือรัฐบาลจะปล่อยให้ปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมายขยายตัวลุกลามไปจนไม่อาจควบคุมได้เหมือนกับขบวนการค้ามนุษย์ในที่สุด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี