แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ถูกถามว่าพรรคเพื่อไทยจะสานต่อนโยบายจำนำข้าวหรือไม่?
แพทองธารกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการทบทวนรายละเอียดในบางกระบวนการ เพื่อให้ตอบสนองปัญหาให้พี่น้องเกษตรกรได้อย่างแท้จริง ซึ่งที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้ว่าโครงการนี้ คือ การดิสรัปฯ (Disruption)ช่วยพี่น้องเกษตรกรให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
สอดคล้องกับที่ไปให้สัมภาษณ์ในรายการช่องไทยรัฐ ระบุว่า จะนำโครงการจำนำข้าวกลับมา เพราะเป็นการดิสรัปฯ ช่วยเหลือประชาชน ส่วนกรณีนายทักษิณ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยก็พูดทำนองว่า จะมีต้องอาศัย “กลไกกฎหมาย” เพื่อจะได้กลับมาโดยไม่ต้องติดคุกตามคำพิพากษา
1. ในความเป็นจริง ทักษิณสามารถกลับเมืองไทยได้ทุกเมื่อ โดยซื้อตั๋วเครื่องบิน ลงสนามบินสุวรรณภูมิ
จากนั้น ไปรายงานตัวในฐานะจำเลยคดีทุจริตประพฤติมิชอบ มีหมายจับติดตัว รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาศาลฎีกาฯ ญาติพี่น้องติดต่อเยี่ยมได้ระเบียบราชทัณฑ์ เช่นเดียวกับนักโทษคนอื่นๆ อาทิ บุญทรง ภูมิ เสี่ยเปี๋ยง วัฒนา เปรมชัย ฯลฯ
2. “กลไกกฎหมาย” สำหรับคนหนีคดีมีโทษจำคุก มีหมายจับติดตัวคือ มอบตัว หรือถูกจับกุมเพื่อนำตัวมารับโทษ เป็นนักโทษ แล้วเข้าสู่กระบวนการลดหย่อนผ่านโทษตามปกติ
ไม่ว่าจะเป็น ทักษิณ ชินวัตร หรืออริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ประชา มาลีนนท์ ฯลฯ ทุกคนที่หนีคดีอยู่ ก็ควรจะอยู่ภายใต้ระบบกฎหมายเดียวกัน มีกลไกทางกฎหมายเหมือนกัน
มิใช่พยายามยึดครองอำนาจรัฐ เพื่อใช้กลไกกฎหมาย “นิรโทษกรรมคดีโกง” ให้แก่บุคคลที่ตนเองมีผลประโยชน์ส่วนตัวทับซ้อนด้วย
3. โครงการจำนำข้าว “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ ยิ่งลักษณ์นายกฯ” ไม่ใช่ดิสรัปชั่น (Disruption) แต่เป็นคอร์รัปชั่น (Corruption)
เป็นโครงการที่มีการทุจริตโกงกินอย่างมโหฬาร ศาลพิพากษาจำคุกไปแล้วทั้งระดับรัฐมนตรี ข้าราชการ พ่อค้าข้าว และที่หนีคดีอยู่ก็มี
เป็นโครงการหาเสียงด้วยการหลอกลวงคนที่เห็นใจชาวนา ตบตาว่าต้องการช่วยชาวนา แต่ออกแบบวิธีการแยบยล รับซื้อข้าวจากชาวนาราคาแพงกว่าตลาด เพื่อให้ได้ข้าวจากชาวนา แล้วไปขายราคาถูกๆ โดยไม่ต้องประมูล อ้างว่าเป็นการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐจีทูจีเก๊ๆ โดยเอื้อให้นักธุรกิจพวกพ้องเข้าไปโกงกินกันเป็นแสนล้าน
ปัจจุบัน ในงบประมาณแผ่นดินประจำปี ยังต้องตั้งงบประมาณเพื่อชำระหนี้โครงการจำนำข้าว “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” ต่อเนื่องทุกๆ ปี ปีละ 2-3 หมื่นล้านบาท ยาวนานนับ 10 ปี
เลิกบิดเบือนเพื่อปกป้องโครงการ “คอร์รัปชั่น” โดยเฉพาะการพยายามโอ้อวดว่าเป็นการ “ดิสรัปชั่น”
ผลโกงยังสร้างภาระมหาศาล แทนที่จะได้นำเงินไปช่วยชาวบ้านในเรื่องอื่นๆ กลับยังต้องตามชำระหนี้จากโครงการโกง หยุดฟอกขาวให้กับโครงการอภิมหาโกงจำนำข้าวเสียที
4. นายกฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยชี้แจงในสภาว่า โครงการจำนำข้าวในอดีตสร้างภาระหนี้ไว้ 957,000 ล้านบาท รัฐบาลชำระหนี้ไปแล้ว 781,000 ล้านบาท คงเหลือเงินต้นและดอกเบี้ย 3 แสนล้านบาท
ปรากฏว่า นักการเมืองบางพรรค ออกมาชักดิ้นชักงอ จะเป็นจะตาย
ซึ่งตามรายงานผู้สอบบัญชีและงบการเงิน ธ.ก.ส. สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2564 โดยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ระบุว่า ธ.ก.ส.ได้ใช้เงินไปในโครงการจำนำผลผลิตการเกษตร (ข้าวมันสำปะหลัง ยางพารา) ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ปี 54/55 55/56 56/57 ทั้งสิ้น 960,665 ล้านบาท
ได้รับเงินคืนมาแล้ว 660,208 ล้านบาท เหลือหนี้ค้างอยู่ 300,456 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่า จากข้อมูลตรวจสอบของ สตง.อย่างเป็นทางการเมื่อต้นปีที่แล้ว ตัวเลขก็สอดคล้องกับที่นายกฯ แจกแจงข้อมูลล่าสุดในสภาล่าสุด(หากรวมดอกเบี้ยเข้าไปยิ่งเพิ่มพูนมหาศาล)
หลังปี 2557 มีการก่อหนี้เพิ่มเติมโดยรัฐบาลเพื่อใช้ในการช่วยเหลือชาวนา นั่นก็เพราะยังต้องจ่ายค่าเช่าโกดัง ค่าเก็บรักษาข้าว ค่าตรวจสภาพข้าวค่าดอกเบี้ย ฯลฯ อันสืบเนื่องมาจากโครงการจำนำข้าวเดิมนั่นเอง
5. ปัจจุบัน การช่วยเหลือชาวนาใช้วิธีจ่ายเงินช่วยเหลือโดยตรง เรียกว่า “เงินส่วนต่าง” ผ่านโครงการประกันรายได้ โดยไม่มีการซื้อหรือรับจำนำข้าวจากชาวนา ไม่ได้ไปเอาข้าวจากชาวนามาเก็บและโกงกันเหมือนสมัยรัฐบาลเพื่อไทย ความเสียหายจึงน้อยกว่ากันอย่างไม่อาจเทียบได้เลย
ที่สำคัญ สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่เพิ่มหลังรัฐประหาร แต่เพิ่มขึ้นหลังโควิด ปี’63 เป็นต้นมา เพราะรัฐบาลต้องกู้เงินมาแก้ปัญหาโควิด-19 เช่นเดียวกับทุกประเทศทั่วโลก อย่างไรก็ตาม การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย ถนนระบบราง รถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง แหล่งน้ำสนามบิน ท่าเรือ โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล อินเตอร์เนตไทยเร็วติดอันดับต้นๆ ของโลก ฯลฯ ก็เพิ่มขึ้นด้วยหลังปี 2557 เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาว
เมื่อเทียบกับก่อนปี 2557 สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีเพิ่มขึ้น แต่ไม่มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้มากมายเหมือนในยุคนี้
6. โครงการคอร์รัปชั่น (Corruption) ดิสรัปชั่นนักการเมืองโกง (Disruption)
6.1 ศาลฎีกาฯ พิพากษา ลงโทษจำคุกยิ่งลักษณ์ 5 ปี คดีหมายเลขดำ อม.22/2558 กรณีละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว
6.2 ศาลฎีกาฯ พิพากษา ลงโทษจำคุกนายบุญทรงและพวก คดีระบายข้าวจีทูจีเก๊ โทษจำคุกสูงสุดถึง 48 ปี
6.3 นายทักษิณ ชินวัตร หนีโทษจำคุกคดีทุจริตประพฤติมิชอบหลายคดี เป็นหนึ่งในผู้ถูกแจ้งข้อหาทุจริตข้าวจีทูจีเก๊ ลอตสอง มีผู้ถูกกล่าวหา กว่า 71 ราย ระดับนักการเมืองที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ประกอบด้วย นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ หรือหมอโด่ง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขานุการ รมว.พาณิชย์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เมื่อครั้งเป็น สส. ผู้กว้างขวาง และ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ป.ป.ช.ไต่สวน ปรากฏหลักฐานอันเชื่อได้ว่า เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซง บงการ การบริหารจัดการข้าวในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ จนเกิดการทุจริตข้าวจีทูจีเก๊เพิ่มเติมจากจีทูจีลอตแรก อีก 4 สัญญา ทั้งหมด ยังไม่ถูกตัดสินว่ากระทำผิด ยังมีสิทธิต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม
6.4 กรณีทุจริตข้าวบูล็อค (BULOG) 3 แสนตันป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง และพวก
6.5 ล่าสุด สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ ได้ติดตามการแก้ปัญหาโครงการจำนำข้าวในอดีต ที่ยังมีคดีค้างคาอยู่ 1,524 คดี
จำนำข้าว คือ โครงการคอร์รัปชั่น(Corruption) ไม่ใช่ดิสรัปชั่น (Disruption)
ถ้าจะดิสรัปฯ ก็คือ ดิสรัปฯ นักการเมืองโกง
สันติสุข มะโรงศรี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี