ระยะนี้เกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ มีการโหมประโคมผลงานของรัฐบาลมากมายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถ้าหากเป็นความจริงตามที่โฆษณาประชาสัมพันธ์นั้นก็อย่าได้สงสัยเลยว่า ประเทศไทยย่อมเจริญรุ่งเรืองไพบูลย์ดังที่ประชาชนปรารถนาและความเดือดร้อนทุกข์เข็ญก็จะไม่ปรากฏในแผ่นดินนี้อีก
แต่ความจริงกลับตรงกันข้าม เพราะสัมผัสรู้เห็นกันทนโท่ทุกผู้คนว่ายามนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตทั่วด้าน ทั้งด้านการต่างประเทศ ด้านความมั่นคง ด้านหนี้สิน ทั้งภาครัฐและเอกชน ด้านปัญหาเศรษฐกิจที่ทรุดตัวต่ำต้อยถอยหลังลงทุกวัน รวมทั้งการพัฒนาประเทศที่กำลังล้าหลังกว่าประเทศเพื่อนบ้านลงทุกวัน
การโกงชาติฉ้อราษฎร์บังหลวงขยายตัวลุกลามยิ่งกว่าหญ้าแพรกในฤดูฝน แต่ละสัปดาห์ ป.ป.ช. ต้องชี้มูลความผิดนับร้อยราย ศาลต้องพิพากษาลงโทษเป็นจำนวนมาก และยังมีเรื่องราวการทุจริตอยู่ระหว่างการไต่สวนของ ป.ป.ช. หลายหมื่นคดี มีผู้เกี่ยวข้องหลายหมื่นคน มีคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลเป็นจำนวนมาก ในขณะที่มีนักโทษหรือผู้ที่ได้รับการรอลงอาญาจากการโกงชาติฉ้อราษฎร์บังหลวงดาษดื่นจนแน่นเรือนจำไปแล้ว
ล่าสุด มีตัวเลขดุลการค้าที่น่าตื่นตกใจยิ่งว่าประเทศไทยขาดดุลการค้าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 500,000 ล้านบาท ซึ่งแสดงว่าการส่งออกสินค้าน้อยกว่าการนำเข้าสินค้าเป็นมูลค่าสูงถึง 500,000 ล้านบาท ถ้าถือเป็นการทำธุรกิจทั่วไปก็ต้องถือว่ามีผลขาดทุนมหาศาลถึง 500,000 ล้านบาทเป็นภาวะที่เจ๊งหรือล้มละลายอันประจักษ์แล้ว
เหล่านี้ได้สะท้อนว่าการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในความสำเร็จมากหลายนั้นขัดหรือแย้งหรือตรงกันข้ามกับความจริงที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองนี้
ล่าสุด ได้มีการโหมโฆษณาเกี่ยวกับความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในการเชื่อมโยงระบบคมนาคมของประเทศไทยโดยระบบรางกับประเทศอาเซียนและทั่วโลก โดยระบุว่าความสำเร็จจะปรากฏเด่นชัดในปี 2569 โดยมีการนำแผนที่โครงข่ายการเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟทั่วโลกกับประเทศไทยที่ดูแล้วน่าตื่นใจอัศจรรย์ยิ่ง
มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ในลักษณะนี้ต่อเนื่องมาอย่างน้อย 3 ครั้งแล้ว ซึ่งถ้าติดตามข่าวอย่างต่อเนื่องก็ย่อมเชื่อถือว่าเป็นความจริง และมีความหวังตั้งตารอความสำเร็จอันสมบูรณ์ที่จะปรากฏขึ้น ซึ่งถ้าเป็นความจริงตามนั้นคนทั้งหลายย่อมอนุโมทนาสาธุเพราะเป็นความปรารถนาร่วมกันของปวงชนที่ต้องการเห็นประเทศของเรามีความเจริญรุ่งเรืองและสามารถเชื่อมต่อโครงข่ายคมนาคมกับทั่วโลกได้ และจะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางของอาเซียนและภูมิภาคนี้ที่มีศักยภาพสูงในทุกด้าน
แต่ความจริงที่รู้เห็นกันทั้งประเทศที่ต้องขอย้ำเตือนก็มีอยู่และอาจจะไม่ตรงกับการโฆษณาประชาสัมพันธ์เหล่านั้นในประการสำคัญดังต่อไปนี้
ประการแรก การเชื่อมต่อโครงข่ายคมนาคมโดยระบบรางทั่วโลกนั้น ได้ใช้ระบบรถไฟความเร็วสูงระดับต่างๆ ที่สามารถขนส่งผู้โดยสารและสินค้า หรือจะขนส่งผู้โดยสารอย่างเดียวก็จะเป็นรถไฟความเร็วสูงมาก และทั้งระบบนั้นก็เป็นรถไฟที่ใช้รางมาตรฐานหรือที่เรียกว่าระบบรางแบบสแตนดาร์ดเกจ (standard guage) คือมีรางกว้าง 1.435 เมตร และเป็นระบบเดียวกันทั่วโลก รถไฟทุกประเภทจึงสามารถเชื่อมต่อแล่นถึงกันได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนระบบรถไฟใหม่ ซึ่งทำไม่ได้ หรือทำได้ก็เสียค่าใช้จ่ายมหาศาล
และความเป็นจริงของประเทศไทยก็คือการสร้างทางรถไฟในประเทศไทยทั้งหมดไม่ได้ใช้ระบบรางมาตรฐาน แต่ใช้รางกว้าง 1 เมตร หรือที่เรียกว่าระบบเมตตะเกจ (metre guage) ซึ่งในโลกนี้ก็มีใช้ในอังกฤษและญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศเกาะเล็กๆ ซึ่งเชื่อมต่อกับระบบรางมาตรฐานไม่ได้ การลงทุนทั้งปวงในเรื่องนี้จึงไม่เกื้อกูลต่อการเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานระบบรางเลย และจะก่อปัญหาใหญ่หลวงในวันข้างหน้า แต่กลับไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้
ซึ่งผลแท้จริงก็คือลงทุนไปเท่าใดก็จะมีปัญหามากเท่านั้น และจะเสียหายมากเท่านั้น
ประการที่สอง การเชื่อมโยงโครงข่ายรถไฟความเร็วสูงด้วยระบบรางมาตรฐานของทั่วโลกนั้นเป็นความจริง เช่นล่าสุดขบวนรถไฟจากจีนถึงเยอรมนีได้ครบการเดินรถ 10,000 เที่ยวแล้ว สามารถขนส่งสินค้าและผู้โดยสารไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้อย่างยอดเยี่ยม
แม้แต่เมียนมา ลาว และเวียดนาม ก็ได้สร้างระบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อกับระบบรถไฟความเร็วสูงของโลกเรียบร้อยแล้ว โดยไปเชื่อมต่อที่ศูนย์กลางรถไฟความเร็วสูงจีน-อาเซียน ที่นครคุนหมิง
แต่ประเทศไทยแม้ทำสัญญาพัฒนารถไฟความเร็วสูงก่อนใครในอาเซียน แต่ในทางปฏิบัติกลับบูดเบี้ยว ระยะเวลาผ่านไปร่วม 7 ปีแล้ว เราเพิ่งสร้างทางรถไฟเสร็จเพียง 3.5 กิโลเมตร นอกนั้นอยู่ระหว่างการประมูลก่อสร้างเป็นตอนๆ ช่วงๆ เฉพาะช่วงกรุงเทพฯ-โคราช ก็ไม่แน่ว่าจะแล้วเสร็จในปี 2570 หรือไม่ ป่วยการไยที่จะพูดว่าสามารถเชื่อมต่อกับโลกได้ในปี 2569 โดยเฉพาะบางช่วงของการก่อสร้างเพิ่งเวนคืนที่ดิน ซึ่งไม่แน่ว่าต้องใช้เวลาอีกนานเท่าใด
ประการที่สาม ประเทศไทยจะเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงกับโลกได้ก็ต้องเป็นไปตามแผนโครงข่ายที่กำหนดไว้สำหรับประเทศต่างๆ ทั่วโลก สำหรับประเทศไทยนั้นเส้นทางที่ถูกกำหนดคือจะต้องเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงจากจังหวัดหนองคายกับนครเวียงจันทน์ของลาว ซึ่งจะเชื่อมต่อไปยังนครคุนหมิงและกระจายไปยังเส้นต่างๆ ทั่วโลก ถ้าไม่ทำเส้นทางสายนี้ต่อให้สร้างเสร็จทั้งประเทศก็เชื่อมต่อกับใครไม่ได้
และถึงวันนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการ ที่มีการออกข่าวประปรายว่าได้ดำเนินการแล้ว แท้จริงก็คือการสร้างทางรถไฟรางกว้าง 1 เมตร ไปยังแขวงนครเวียงจันทน์ และไม่ได้เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟความเร็วสูงเวียงจันทน์-คุนหมิง แต่อย่างใด
ไม่ต้องพูดถึงการเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงจากกรุงเทพฯ ไปสุไหงโก-ลก มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน ซึ่งขณะนี้กำลังจะถูกเปลี่ยนเส้นทางเชื่อมต่อเป็นจากสีหนุวิลล์ของกัมพูชาไปยังมาเลเซียแล้ว
จะโม้อะไรก็ให้เกรงใจประชาชนบ้าง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี