นักการเมืองบางพรรคไปไกลถึงขนาด เสนอให้ล้างหนี้ กยศ.ทั้งหมด
แต่มติที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านความเห็นชอบ คือ ยกเลิกการเก็บดอกเบี้ย+เบี้ยปรับเงินกู้จากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
1. ธรรมชาติของนักเลือกตั้ง คือ การพยายามเอาอกเอาใจผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งบ่อยครั้ง เป็นการประเคนผลประโยชน์เฉพาะหน้าให้ เพื่อแลกกับการสนับสนุนทางการเมืองและบ่อยครั้ง ที่ผลประโยชน์ระยะสั้นเฉพาะหน้านั้น ตามมาด้วยผลกระทบในระยะยาว
2. แต่ไม่ได้หมายความว่า การเสนออะไรที่สุดโต่ง จะได้รับเสียงตอบรับที่ดีเสมอไป
“NIDA Poll - นิด้าโพล” ได้เปิดเผยผลสำรวจ ประเด็น “หนี้ กยศ. ไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีเบี้ยปรับ หรือ ยกเลิกหนี้” ปรากฏผลที่น่าสนใจ สรุปดังนี้
2.1 ไม่เห็นด้วยกับการล้างหนี้ กยศ.
เมื่อถามถึงข้อเสนอให้ล้างหนี้ (ยกเลิกหนี้) ของผู้กู้ยืมเงินจาก กยศ. พบว่า
ร้อยละ 59.91 ระบุว่าไม่เห็นด้วยเลย เพราะเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนขาดความรับผิดชอบ อาจทำให้เกิดปัญหาและความวุ่นวาย เช่นผู้กู้ยืมเงินที่ชำระหนี้ครบแล้วจะได้รับเงินคืนหรือไม่
ร้อยละ 14.48 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะในช่วงที่ผ่านมา กยศ.มีการออกมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงินอย่างต่อเนื่อง เช่น การลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืม การลดเบี้ยปรับ เป็นต้น ขณะที่บางส่วนระบุว่าผู้กู้ยืมเงินควรทำตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ร้อยละ 8.08 ระบุว่าค่อนข้างเห็นด้วย เพราะ เป็นการช่วยเหลือด้านการศึกษา และเป็นการช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงินที่มีรายได้น้อย
ร้อยละ 16.62 ระบุว่า เห็นด้วยมาก เพราะต้องการให้การศึกษาเป็นสิ่งที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นการเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้ผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ขณะที่บางส่วนระบุว่า เศรษฐกิจไม่ดีถึงไม่ยกเลิกหนี้ให้ก็ไม่สามารถชำระหนี้ได้อยู่ดี
2.2 เห็นด้วยกับมติของสภาผู้แทนราษฎร (นำโดยพรรคภูมิใจไทย)
ความคิดเห็นของประชาชนต่อมติของสภาผู้แทนราษฎร ในการยกเลิกเก็บดอกเบี้ยผู้กู้ยืมเงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) พบว่า
ร้อยละ 55.18 ระบุว่าเห็นด้วยมาก เพราะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้ที่กู้ยืมเงินจาก กยศ. เป็นการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อย ขณะที่บางส่วนระบุว่าเป็นการช่วยลดภาระสำหรับผู้ที่ตกงานหรือว่างงาน
ร้อยละ 18.22 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย เพราะเป็นการให้โอกาสแก่ผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้สามารถเข้าถึงการศึกษา และการกู้ยืมเงินจาก กยศ. ไม่ควรมีการเก็บดอกเบี้ย
ร้อยละ 17.61 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย เพราะเป็นการทำให้เด็กรุ่นใหม่ขาดวินัยทางการเงิน ขาดความรับผิดชอบ และไม่เป็นธรรมสำหรับผู้ที่ได้ชำระหนี้หมดแล้ว ขณะที่บางส่วนระบุว่า การยกเลิกเก็บดอกเบี้ยอาจทำให้ กยศ.ขาดสภาพคล่องทางการเงิน และร้อยละ 8.99 ระบุว่าไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะเป็นการเอาเปรียบผู้ที่จ่ายเงินพร้อมดอกเบี้ยครบแล้ว และผู้กู้ยืมเงินต้องมีความรับผิดชอบต่อหนี้ที่ตนเองก่อขึ้น
ความคิดเห็นต่อมติของสภาผู้แทนราษฎร ในการยกเลิกการคิดเบี้ยปรับผิดนัดชำระหนี้ของผู้กู้ยืมเงินจาก กยศ.พบว่า
ร้อยละ 42.76 ระบุว่าเห็นด้วยมาก เพราะเป็นการช่วยลดภาระด้านค่าใช้จ่ายให้ผู้ที่กู้ยืมเงินจาก กยศ. เป็นการช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงินที่กำลังว่างงาน หรือมีรายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย
ร้อยละ 19.06 ระบุว่าค่อนข้างเห็นด้วย เพราะเป็นการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่หมุนเงินไม่ทัน ขณะที่บางส่วนระบุว่า การคิดดอกเบี้ยปรับผิดนัดชำระหนี้เป็นการซ้ำเติมผู้กู้ที่มีรายได้น้อย
ร้อยละ 23.32 ระบุว่าไม่เห็นด้วยเลย เพราะควรทำตามเงื่อนไขที่ได้ระบุไว้ในสัญญา ทำให้ผู้กู้ยืมเงินขาดวินัยในการชำระหนี้ และร้อยละ 14.48 ระบุว่าไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะผู้กู้ยืมเงินควรมีความรับผิดชอบ ควรปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาการกู้ยืมเงิน ขณะที่บางส่วนระบุว่า ไม่เป็นธรรมต่อผู้กู้ยืมเงินที่ชำระหนี้ตรงตามกำหนด
3. ผลสำรวจนิด้าโพล ยังพบว่า ประชาชนเห็นประโยชน์ของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่มีต่อการให้โอกาสทางการศึกษาแก่ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ พบว่า
ร้อยละ 84.53 ระบุว่า มีประโยชน์มาก
ร้อยละ 13.72 ระบุว่าค่อนข้างมีประโยชน์
มีเพียงร้อยละ 0.76 ระบุว่าไม่ค่อยมีประโยชน์ และร้อยละ 0.69 ระบุว่าไม่มีประโยชน์เลย
4. เท่ากับว่า เสียงสะท้อนของประชาชนผ่านโพลล์ข้างต้น เห็นด้วยกับแนวทางของมติสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งผู้ที่ผลักดันแนวทางข้างต้นอย่างแข็งขัน ก็คือ พรรคภูมิใจไทย
กยศ.ต้องเป็นที่พึ่งพาอาศัยสำหรับประชาชน เป็นการลงทุนเพื่อการศึกษา เพื่อทรัพยากรมนุษย์ของชาติ เป็นส่วนเสริมของการสนับสนุนการศึกษาของชาติ ที่จริงๆ แล้ว ควรจะฟรี หรือควรจะต้องส่งเสริมอุดหนุนให้คนเรียนหนังสือมากๆ ด้วยซ้ำ แต่ด้วยข้อจำกัด จึงต้องมี กยศ.เพื่อเป็นตัวช่วยสำหรับลูกหลานคนไทยที่เกิดในครอบครัวผู้มีรายได้น้อย จะได้เป็นเหมือนไม้เท้าคอยพยุงให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเต็มที่
เป็นผลงานโบแดง เริ่มตั้งแต่สมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย
กระทั่งรัฐบาลปัจจุบัน ได้มีมาตรการออกมาช่วยเหลือผู้กู้หลายเรื่อง และได้มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อประโยชน์ช่วยเหลือผู้กู้เพิ่มเติมอีกกระทั่งเกิดเป็นวิวาทะในขณะนี้
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี