รัฐบาลสามัคคีแห่งชาติ นำโดย นายอันวาร์อิบราฮิม จัดตั้งขึ้นกลางเดือนธันวาคม หลังจากติดเดดล็อกอยู่สองอาทิตย์เนื่องจากไม่มีพรรคไหนได้เสียงข้างมากพอจัดตั้งรัฐบาล ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียที่ทรงมีกระแสพระราชดำรัสทรงแนะนำให้นายอันวาร์ซึ่งชนะเลือกตั้ง 82 เสียงจากที่สภามาเลเซียมี 222 ที่นั่ง ให้ตั้งรัฐบาลสามัคคีแห่งชาติหลังจากที่พรรคเฉพาะกิจซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าล่มสลาย
ดูเหมือนว่า นักการเมืองมาเลเซียได้สำเหนียกว่า หากขัดแย้งแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเพื่อแย่งชิงอำนาจกันต่อไปเศรษฐกิจและสังคมจะล่มสลาย จากเสือตัวที่ห้าแห่งเอเชีย มาเลเซียอาจกลายเป็นแมวเซาไปได้ นักการเมืองมาเลเซีย จึงสลัดภาพการแบ่งแยกความเป็นพรรคมาเลย์รักชาติ พรรคเพื่อมาเลเซียเป็นรัฐอิสลาม และพรรคนิยมความเป็นมาเลย์ พรรคนิยมเชื้อสายจีน พรรคเพื่อซาราวัก และพรรคเกาะบอร์เนียวออกไป ทุกพรรคทุกฝ่ายหันมาร่วมมือกันเป็นรัฐบาลสามัคคีแห่งชาติเพื่อประชาชนมาเลเซีย
นสพ.เซาท์ไซน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ว่าแทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นไปได้ที่เห็นภาพนายฮาร์เหม็ด ซาอิด ฮาบิดี ที่มีข้อครหาคอร์รัปชั่นขณะที่เป็นแนวร่วมพรรคอัมโนและอดีตเป็นประธานพรรครัฐบาล คือ พรรคบาริซัน เนชั่นแนล หรือ “บีเอ็น” ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของพรรคปากาตัน ฮาราปันหรือ “พีเอช” ของนายอันวาร์ ตะลุยขึ้นรถหาเสียงพรรคพีเอช ช่วยปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งซ่อมให้พรรคพีเอช นับเป็นครั้งแรก
สำหรับนายฮาร์เหม็ด ซาอิด ซึ่งเป็นแกนนำพรรคชาตินิยมมาเลย์สุดโต่งในเครือข่ายของอัมโน ที่เคยกล่าวหา นายอันวาร์อย่างเสียๆ หายๆกลายมาเป็นพันธมิตรนายอันวาร์ อิบราฮิม และปราศรัยต่อหน้าฝูงชนว่าจะมอบพลังแห่งชนกลุ่มน้อยเชื้อสายจีนให้เป็นพันธมิตรกับพรรคพีเอช นับว่าเป็นการลงทุนสูงมากของสังคมชาตินิยมมาเลเซียที่คนส่วนใหญ่ เชื้อสายมาเลย์รักชาติ
อัมโน เคยกล่าวหานายอันวาร์ อิบราฮิม กลายเป็นพันธมิตรส่วนตัวเปิดเผยวาระที่จะมอบพรรคคนกลุ่มน้อยเชื้อชาติจีนให้ นายอันวาร์ และ
เป็นการปูทางให้นายอันวาร์ ตั้งรัฐบาลสามัคคีแห่งชาติได้ง่ายขึ้น คำปราศรัยของเขาที่ปาดัง เซไร เขตเลือกตั้งหนึ่งในรัฐเคดะห์
ฮาร์เหม็ด ซาอิด พูดในสิ่งที่เกินคาดหมายออกมาโดยการปราศรัยเป็นภาษาแมนดารินว่า “ผมเป็นมาเลย์ คุณเป็นคนจีน ผมเป็นมาเลเซียน พวกเราทั้งหมดเป็นมาเลเซียนใช่ไหม” เขาพูดท่ามกลางรอยยิ้มและเสียงปรบมือของผู้ฟัง
นายอันวาร์ ผู้ประกาศตั้งรัฐบาลธรรมาภิบาลและจัดการขั้นเด็ดขาดกับการทุจริตคอร์รัปชั่น เมื่อถูกนายมูห์ยิดดิน อดีตหนึ่งในสามนายกรัฐมนตรีในห้วงเวลาสี่ปีของรัฐบาลมาเลเซีย ท้าทายว่าจะเป็นธรรมาภิบาลได้จริงไหมในเมื่อรัฐมนตรีที่เขาแต่งตั้งบางคนมีข้อครหาคอร์รัปชั่น นายอันวาร์สวนกลับทันควันว่า อย่าท้าทายผม เพราะโครงการต่างๆ ที่ทำขณะที่ มูห์ยิดดิน เป็นนายกรัฐมนตรีจะถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้น
หนึ่งอาทิตย์หลังจากนายอันวาร์ได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 17 เกิดความสับสนในสังคมว่าเขาจะจัดสรรตำแหน่งให้ฝ่ายที่เคย
เป็นคู่แข่งทางการเมืองกันมาอย่างไร เขาจัดวางเส้นแบ่งทางการเมืองได้เหมาะสมไหม หรือเส้นแบ่งนั้นได้ถูกลบไปแล้ว เพราะการเมืองในมาเลเซียถูกครอบงำด้วยพันธมิตรพรรคอัมโนมานาน ครั้งหนึ่งพรรคบีเอ็นเคยเป็นฝ่ายตรงข้ามกับพรรคพีเอช หรือเส้นแบ่งเหล่านั้นถูกลบไปเมื่อนายอันวาร์เป็นนายกรัฐมนตรี
การทำเอ็มโอยูกับพรรคบีเอ็นและพรรคอื่นๆ อีกหลายพรรคเพื่อจัดตั้งรัฐบาลสามัคคีแห่งชาติ ตามพระบรมราชโองการของราชวงศ์มาเลเซีย หนึ่งวันก่อนที่นายอันวาร์จะได้รับโปรดเกล้าฯให้เป็นนายกรัฐมนตรี สมาชิกพรรคพีเอชของนายอันวาร์ และสมาชิกพรรคมาเลเซียแอ๊กชั่นปาร์ตีประหลาดใจ เมื่อหัวหน้าพรรคของพวกเขานายแอนโธนี่โล๊ก เสี่ยว บินจากเมืองหลวงกัวลาลัมเปอร์ไปคุงชิงในรัฐซาราวัก เกาะบอร์เนียว เพื่อขอพระราชทานอภัยโทษจากประมุขแห่งรัฐที่บาดหมางกันมานาน การปรองดองในครั้งนั้นดูเหมือนว่าเป็นไวรัลที่แพร่เชื้อไปถึงพรรคร่วมอื่นด้วย
นายสตีเฟ่น สิม ก็แสดงการปรองดองออกมาเมื่อเขาโพสต์เซลฟี่กับเลขาธิการพรรคอัมโนเขาเขียนร้อยกรองสองบรรทัดเกี่ยวกับ การพายเรือและสร้างชาติร่วมกัน นายฮาร์เหม็ด อธิบายภายหลังว่า “เดินไปด้วยกันเพื่อประชาชน” ในปี 2558 นายสิม เคยประกาศว่าหน้าที่เดียวของเขาคือ ล้มรัฐบาลในขณะนั้นลง ส่วนนายฮาร์เหม็ดกล่าวว่า “ผมหวังว่านี้ไม่ใช่เป็นเพียงการแสดง ผมคิดว่าเป็นเรื่องจริงจัง อย่างน้อยที่สุดเพื่อแก้ไขในสิ่งผิดของห้าปีที่ล้มเหลว”
ห้าปีผ่านมารัฐบาลมาเลเซียไร้เสถียรภาพเนื่องจากความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคร่วมฝ่ายค้าน มูลเหตุมาจากประธานพรรคอัมโน และนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมีปัญหารุมเร้าเรื่องยักยอกเงินกองทุนพัฒนามาเลเซียหรือ 1MDB หลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และพรรคอัมโนซึ่งครอบงำการปกครองมาเลเซียมานานกว่าครึ่งศตวรรษพยายามปกป้องนายนาจิบ จน ดร.มหาเธ์โมฮัมหมัด ผู้เคยเป็นนายกฯในนามพรรคอัมโนมานาน 22 ปี ประท้วงด้วยการลาออกจากพรรคอัมโนและตั้งพรรคแนวร่วมพันธมิตรเฉพาะกิจขึ้นมาเพื่อโค่นนายนาจิบลงได้ในการเลือกตั้งปี 2561
แต่พรรคแนวร่วมเฉพาะกิจของรัฐบาลมหาเธร์ก็ล้มเหลว ถูกพรรคอัมโนแย่งการเป็นแกนนำรัฐบาลผสมกลับมาได้ เป็นให้เหตุมาเลเซียมีนายกรัฐมนตรีถึงสามคนในระยะเวลาไม่ถึงสี่ปีปรากฏการณ์นี้น่าจะเป็นบทเรียนกับการเมืองไทยที่มักเห่อพรรคเฉพาะกิจตอนตั้งขึ้นมาใหม่ๆ ประชาชนและนักการเมืองในมาเลเซียคงสำเหนียกว่าหากทำงานการเมืองแบบพรรคเฉพาะกิจต่อไปจะนำความหายนะมาสู่ประเทศชาติ
“มันเป็นการดีที่พวกเขาร่วมมือทำงาน นี่คือสิ่งที่ประชาชนต้องการ นักการเมืองของเราทำงานเพื่อประชาชนร่วมกันเพื่อประชาชน” ฟาซิดา โอมาร์แม่บ้านกล่าว อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังคงจับตาดูเสถียรภาพของรัฐบาลที่จัดตั้งโดยพรรคที่เคยเป็นคู่แข่งกันมาว่า จะใช้เล่ห์เพทุบาย และแทงข้างหลังกันอีกเหมือนห้าปีที่ผ่านมาหรือไม่ และหวังว่าประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอย
ในการแถลงข่าวหลังจากลงนามเอ็มโอยูร่วมกันนายอันวาร์ แถลงว่า “เราได้ฉันทามติร่วมกันซึ่งมีเป้าหมายชัดเจนเพื่อพัฒนาประเทศ และมั่นใจว่าระบบการเมืองของเราต้องมีเสถียรภาพ เราเน้นที่รัฐบาลธรรมาภิบาลและผลักดันกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น...การตั้งรัฐบาลสามัคคีแห่งชาติไม่มีทางสำเร็จได้โดยปราศจากความร่วมมือของหัวหน้าพรรคจากคาบสมุทร (แผ่นดินใหญ่มาเลเซียเป็นคาบสมุทร) ซาบาห์ และ ซาราวัก”
อันวาร์ซึ่งเป็นประธานพรรคแนวร่วมแห่งความหวังหรือพีเอช กล่าวเสริมว่า “เอ็มโอยูอยู่บนพื้นฐานของความต้องการมีรัฐบาลธรรมาภิบาล และความเติบโตทางเศรษฐกิจไม่เกี่ยวกับเรื่องตบรางวัลและอวยตำแหน่งให้ เป็นหลักการนโยบายธรรมาภิบาลและพลวัตทางเศรษฐกิจ..ผมหวังว่ารัฐบาลสามัคคีแห่งชาติสามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และเราจะพูดเป็นเสียงเดียวกัน” นายอันวาร์แถลงข่าวขณะที่นั่งขนาบข้างด้วยนายฮาร์เหม็ด ซาอิด ฮาบิดี ประธานพรรคปาร์ตีซาราวัก นายอาบัง โจฮารี โอเปง พรรคกาบุงกัน รักยาต ซาบาห์ (GRS) นายฮาร์จิ นูร์ ประธานพรรคซาฟี อับดอล
นายอันวาร์ สาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 24 พ.ย. และเป็นแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลสามัคคีแห่งชาติ รวมทั้งอดีตพรรครัฐบาล “บีเอ็น”ในบรรดาพรรคจากรัฐหมู่เกาะสนใจ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับรัฐบอร์เนียว นายซาฟี อับดอล กล่าวว่า “สิ่งหนึ่งที่ผมสนใจมากที่สุดคือเนื้อหาของข้อตกลงมาเลเซียปี 1963 (M63X) ซึ่งบัญญัติว่า นี้เป็นการจัดตั้งรัฐบาลสามัคคีแห่งชาติในมาตรา 2.9 ของเอ็มโอยู เขียนว่า เป็นความยุติธรรมทางการเมือง และสถานะทางเศรษฐกิจระหว่างแผ่นดินใหญ่กับรัฐบอร์เนียวจะปฏิบัติตามกรอบข้อตกลงกับ MA63A”
การตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ที่รวมพรรคการเมืองพหุวัฒนธรรม และเศรษฐกิจสังคมเข้าด้วยกัน กับข้อตกลงร่วมกันว่า เป็นรัฐบาลธรรมาภิบาล ที่ต้องการปราบปรามทุจริตทุกรูปแบบ หวังเป็นอย่างยิ่งว่านายอันวาร์ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นนักปฏิรูปจะทำให้รัฐบาลมาเลเซีย มีเสถียรภาพและเศรษฐกิจดีขึ้นกว่าห้าปีที่ผ่านมา
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี