วันที่ 30 สิงหาคม ถึงวันที่ 3 กันยายน จีนแผ่นดินใหญ่ แสดงพลังความสามัคคีกลมเกลียวของประเทศโลกใต้ ท่ามกลางความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และสงครามการค้ากับสหรัฐอเมริกา
จีนซึ่งยึดมั่นในหลักการค้าเสรีแบบพหุภาคีตามหลักการองค์การการค้าโลก (WTO) ได้แสดงพลังความสามัคคีกลมเกลียวของชาติโลกใต้ด้วยการประชุมสุดยอดผู้นำ “องค์กรความร่วมมือเซี่ยงไฮ (SCO) วันที่ 30-31 สิงหาคม ที่มีประมุขนายกรัฐมนตรีจาก อินเดีย คาซัคสถาน จีนคีร์กีซ รัสเซีย ปากีสถาน ทาจิกิสถาน และอุซเบกิสถาน เป็นสมาชิกถาวร และอิหร่านในฐานะสมาชิกลำดับที่ 9 เข้าร่วมประชุมถ้วนหน้า
นอกจากนั้น อัฟกานิสถาน เบลารุส และมองโกเลีย ได้รับสถานะผู้สังเกตการณ์ ในขณะที่6 ชาติ ได้แก่ อาเซอร์ไบจาน อาร์เมเนีย กัมพูชา เนปาล ตูรเกียร์ และศรีลังกา เป็นหุ้นส่วนคู่เจรจาจึงถือว่าเป็นประชุม SCO ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง
หลังประชุม SCO จีนจัดพิธีสวนสนามทางทหาร ยิ่งใหญ่อลังการในวันที่ 3 กันยายน เนื่องในวาระครบรอบ 80 ปี ชัยชนะในสงครามประชาชนจีนต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น และ สงครามต่อต้านลัทธิฟาสซิสต์โลก โดยคณะผู้นำต่างประเทศที่ได้รับเชิญเข้าร่วมงานมีดังนี้
1.วลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย2.คิม จอง-อึน เลขาธิการใหญ่พรรคแรงงานเกาหลีและประธานกิจการรัฐแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (DPRK) 3.พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี พระมหากษัตริย์กัมพูชา 4.เลือง กึ๋ง ประธานาธิบดีเวียดนาม5.ทองลุน สีสุลิด เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาว (LPRP) และประธานาธิบดีลาว 6.ปราโบโว ซูบียันโต ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย 7.อันวาร์ อิบราฮิมนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย 8.อุคนา คูเรลซูค ประธานาธิบดีมองโกเลีย 9.ชาห์บาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรีปากีสถาน 10.เค.พี. ชาร์มา โอลินายกรัฐมนตรีเนปาล 11.โมฮาเหม็ด มูอิซซู ประธานาธิบดีมัลดีฟส์
12.คัสซึม โจมาร์ต โตกาเยฟ ประธานาธิบดีคาซัคสถาน 13.ชัฟกัต มีร์ซิโยเยฟ ประธานาธิบดีอุซเบกิสถาน 14.เอโมมาลี ราห์มอน ประธานาธิบดีทาจิกิสถาน 15.ซาดิร์ จาปารอฟประธานาธิบดีคีร์กีซสถาน 16.เซอร์ดาร์ เบร์ดีมูฮาเมโดฟประธานาธิบดีเติร์กเมนิสถาน 17.อาเล็กซานเดอร์ลูกาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุส 18.อิลฮัม อะลีเยฟ ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจาน 19.นีกอล พาชินยันนายกรัฐมนตรีอาร์เมเนีย 20.มัสอูด เปเซชกียาน ประธานาธิบดีอิหร่าน 21.เดอนีส ซาซู อึนแกโซ ประธานาธิบดีสาธารณรัฐคองโก
22.เอ็มเมอร์สัน มนังกากวา ประธานาธิบดีซิมบับเว 23.อเล็กซานดาร์ วูชิช ประธานาธิบดีเซอร์เบีย 24.โรเบิร์ต ฟิโค นายกรัฐมนตรีสโลวาเกีย 25.มิเกล ดิอาซ-กาเนล เลขาธิการคนที่หนึ่งของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์คิวบา และประธานาธิบดีคิวบา 26.มิน อ่อง หล่าย รักษาการประธานาธิบดีเมียนมา
เป็นที่น่าสังเกตว่า ในบรรดาแขกรับเชิญในกลุ่มประเทศอาเซียน ไม่มีฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และประเทศไทย
ประธานาธิบดี ปูติน เข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำ SCO ครั้งสำคัญร่วมกับนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย และเจ้าภาพประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน รวมทั้งตัวแทนและผู้นำจากหลายประเทศเอเชียกลางรวมทั้งปากีสถานและคาซัคสถาน
ปูติน กล่าวว่า การประชุม SCO โฟกัสความมั่นคง และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย และค้ามนุษย์ ค้ายาเสพติด แก้ปัญหาภูมิอากาศ และสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน
นายโมดี กล่าวในที่ประชุมว่า “SCOกลายเป็นเวทีแห่งสันติภาพและความรุ่งโรจน์ตลอดถึงการพัฒนาอย่างมีนัยในภูมิภาคเอเชียโดยรวม”
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าSCO มีนัยสำคัญท่ามกลางความผันผวนเหตุการณ์ ในรัสเซียและสงครามในยูเครนกำลังตึงเครียดมากขึ้น SCO เป็นภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจสำคัญในฐานะที่มีสมาชิกประมาณ30% จีดีพี หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมโลก และมีประชากรประมาณ 40% ของประชากรโลก
SCO ไม่ใช่กลุ่มแอนตี้นาโต ตามที่มีผู้กล่าวหา มันไม่ใช่กลุ่มเศรษฐกิจ เหมือนสหภาพยุโรป หรือ พันธมิตรทางทหารเหมือนนาโต ถึงแม้ประเทศสมาชิกร่วมฝีกซ้อมทางทหารก็ตาม
SCO เป็นองค์กรรัฐบาลหลายประเทศในภูมิภาค ที่ประเทศต่างๆ ในยูเรเซียนเชื่อว่าในภาวะโลกหลายขั้วเป็นโอกาสแห่งความสมดุลผลประโยชน์ของพวกเขา ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และ SCO เป็นเวทีให้รัสเซียกับจีนมีความสัมพันธ์แข็งแกร่งขึ้นพร้อมๆ กับประเทศโลกใต้ ที่ทำธุรกิจกับพวกเขา
รัสเซียกับจีนแสดงให้เห็นว่า พวกเขาต้องการให้ SCO ทำมากกว่านั้น ปูตินเสนอให้บูรณาการทางเศรษฐกิจมากขึ้น ในหมู่ชาติสมาชิก SCO ในเวลาเดียวกัน ก็แนะนำว่าในชาติกลุ่ม SCO จำเป็นต้องเสริมสร้างความร่วมมือทางด้านความมั่นคงมากขึ้น ซึ่งประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และ ประธานาธิบดี อิบราฮิม ของอิหร่านก็ตอกย้ำคำพูดของปูติน
นายแอนโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งอยู่ในเมืองเทียนจิน เพื่อประชุมความร่วมมือองค์กรเซี่ยงไฮ้ ที่ประธานาธิบดีปูติน แห่งรัสเซีย ผู้นำประเทศเอเชียกลางเอเชียตะวันออก เอเชียใต้ และตะวันออกกลาง มาร่วมประชุมกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เพื่อแสดงพลังสามัคคีของโลกใต้
นายกูเตอร์เรส กล่าวกับ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง นอกรอบการประชุมว่า จีนมีบทบาทสำคัญในการยึดมั่นหลักการค้าพหุภาคีปธน.สี ตอบว่า “จีนเป็นหุ้นส่วนที่ยูเอ็นไว้ใจได้เสมอ และจีนจัดการด้านความมั่นคงและเสถียรภาพ”
ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น นายกูเตอร์เรสกล่าวด้วยว่า “เวลานี้ระบบพหุภาคีถูกคุกคาม การสนับสนุนของจีนมีความสำคัญยิ่งยวดบนพื้นฐานของการผดุงไว้ซึ่งระบบพหุภาคี..เราได้เห็นรูปแบบใหม่ของนโยบายที่บางครั้งยากจะเข้าใจ ที่บางครั้งดูเหมือนว่าแสดงออกในความพยายามจริงจังมาก กว่าพิธีทางการทูตซึ่งเป็นทางการเมืองและทางธุรกิจประสมประสานกัน” กูเตอร์เรส กล่าว
และเสริมว่า “บทบาทของสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นเสาหลักสำคัญการต่อต้านระบบสุดขั้วและเราขอบคุณและซึ้งใจเป็นที่สุด” เขากล่าว
ปธน.สี จิ้นผิง ให้คำมั่นในการสนับสนุนสหประชาชาติว่า “ประเทศจีนมีความตั้งใจร่วมมืออย่างล้ำลึกกับสหประชาชาติ สนับสนุนยูเอ็นในความเป็นกลางในกิจการนานาชาติและยืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่ในความรับผิดชอบต่อสันติภาพโลกและคงไว้ซึ่งการพัฒนาและความวัฒนาสถาพร” ประธานาธิบดีสี บอกนายกูเตอร์เรส
จึงถือได้ว่าการประชุมสุดยอดองค์กรความร่วมมือเซียงไฮ้ และขบวนพาเหรดอันยิ่งใหญ่ฉลอง 80 ปีแห่งชัยชนะ จีนจัดได้อย่างยิ่งใหญ่ที่ผู้นำโลกใต้และเลขาธิการสหประชาชาติมาเป็นสักขีพยานกันถ้วนหน้า
อาจมีคำถามว่าประเทศไทยซึ่งเป็นมิตรกับจีนแผ่นดินใหญ่ ทำไมไม่เข้าร่วมเหตุการณ์ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ คำตอบง่ายๆ คือ 1.ไทยอยู่ข้างญี่ปุ่นในสงครามมหาเอเชียบูรพา หากไปร่วมเฉลิมฉลองกับจีนผู้ชนะคงตีสีหน้าไม่ถูก 2.ประเทศไทยไม่มีรัฐบาลเป็นทางการ มีแต่รัฐบาลรักษาการ และ 3.อดีตนายกรัฐมนตรีไทยเคยสร้างความไม่พอใจให้ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ที่แนะนำว่ากาสิโนเป็นภัยทำให้ประเทศชาติฉิบหายได้ แต่นายกรัฐมนตรีผู้ดื้อรั้นตอนนั้นเถียงว่า “กาสิโน” แค่ 10% เองนะคะ
ตั้งแต่นั้นมาแค่หางตาประธานาธิบดีสีก็ไม่มองประเทศไทย บินข้ามหัวไทยไปเวียดนามมาเลเซีย กัมพูชา แต่รัฐบาลไร้เดียงสา ยังไม่เข้าใจว่าจีนรังเกียจไทย เพราะนายกฯไม่มีวุฒิภาวะไม่มีธรรมาภิบาล ดังที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง รับตำแหน่งทางการเมืองไม่ได้อีกต่อไป
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี