วันอาทิตย์ ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ระบอบประชาธิปไตยนั้นมีหลักการของหลักประชาธิปไตยที่แน่นอนชัดเจน คงมีแตกต่างกันบ้างในรายละเอียดซึ่งเป็นไปตามสภาพของแต่ละประเทศที่ต้องสอดคล้องกับประวัติศาสตร์ความเป็นมาและสภาพสังคมการเมืองของประเทศนั้นๆ
แต่ถ้าเป็นประชาธิปไตยแล้วก็ต้องมีหลักประชาธิปไตยเหมือนกัน ถ้าไม่มีหลักประชาธิปไตยที่ว่านี้แล้ว ไม่ว่าจะใช้ชื่อว่าประชาธิปไตยหรือใช้ชื่ออื่นใดเพื่อลวงโลกหรือลวงผู้คนว่าเป็นประชาธิปไตยก็หาใช่ประชาธิปไตยไม่
หลักประชาธิปไตยที่สำคัญก็ตรงตัวถ้อยคำที่ว่าประชาธิปไตย คือประชาชนเป็นใหญ่ ซึ่งมีความหมายว่าผลประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ดังนั้นหลักประชาธิปไตยจึงต้องถือหลักว่าประชาชนเป็นใหญ่ ผลประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ หากไม่มีสองหลักนี้แล้วก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย
แต่เพราะประชาชนมีจำนวนมาก ไม่อาจใช้อำนาจอธิปไตยโดยตรงได้ จึงต้องใช้อำนาจอธิปไตยโดยอ้อม นั่นคือผ่านผู้แทนราษฎรที่ราษฎรได้เลือกผู้แทนฯของตนเองขึ้นเพื่อใช้อำนาจอธิปไตยแทนประชาชน แต่ทว่าประชาชนไม่สามารถใช้อำนาจอธิปไตยในลักษณะประจำได้
ดังนั้นสำหรับประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อำนาจอธิปไตยของปวงชนจึงได้รับการวางหลักว่าพระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจนั้น โดยผ่านทางรัฐสภาคณะรัฐมนตรี และศาล ซึ่งเป็นหลักการที่ยอมรับนับถือกันโดยทั่วไป และประเทศไทยก็ได้ถือหลักการนี้ตลอดมา
ประชาชนไม่เคยยินยอมและไม่เคยสมรู้เห็นด้วยใดๆให้มีการเปลี่ยนหลักการที่ว่านี้เลยแม้แต่สักครั้งเดียว ดังนั้นในกรณีที่มีการยึดอำนาจใดๆ ก็ตาม และไม่ว่าจะอ้างเหตุผลใดๆ ก็ตาม ผลแท้จริงก็คือการยึดอำนาจประชาชนจากพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นผู้ทรงใช้อำนาจอธิปไตยของปวงชน
ประชาชนชาวไทยจะต้องทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้ชัดเจนเพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาหลอกลวงฉ้อฉลอำนาจของประชาชนไปใช้ตามอำเภอใจอีก จะต้องเข้าใจให้ถ่องแท้ว่าการยึดอำนาจทั้งหลายไม่ได้ยึดอำนาจจากรัฐบาลหรือนักการเมือง แต่เป็นการยึดอำนาจของประชาชนจากพระมหากษัตริย์
และเมื่อยึดแล้วก็จะยึดอำนาจหลักในการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาล และใช้อำนาจในทางนิติบัญญัติไปบังคับเปลี่ยนแปลงหลักการทั้งหลายที่ศาลใช้ในการพิจารณาพิพากษาคดี ทำให้สิทธิเสรีภาพของประชาชนถูกละเมิด ไม่เป็นไปตามหลักการประชาธิปไตย
หลายครั้งหลายหนที่ประเทศไทยเดินวนในเรื่องประชาธิปไตยอยู่ในอ่าง นับแต่ พ.ศ. 2475 ถึงวันนี้ก็เกือบ 30 หนแล้ว และได้บทพิสูจน์ที่แน่นอนชัดเจนแล้วว่าไม่ได้ก่อให้เกิดผลดีต่อประชาชนและประเทศชาติเป็นส่วนรวมเลย กรณีเป็นเรื่องผลประโยชน์ของคนหยิบมือเดียวที่ยึดและครองอำนาจนั้น
และยิ่งนานวันก็มีการใช้อภินิหารทางกฎหมายปลุกเสกด้วยเล่ห์กลจนประชาธิปไตยตายไปจากประเทศไทย เพราะทุกวันนี้หลักประชาธิปไตยได้ถูกทำลายไปหมดสิ้นแล้ว ที่สำคัญชัดเจนก็คือ
ประการแรก สมาชิกวุฒิสภาซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ปกครองสูงสุดของประเทศคือพระมหากษัตริย์ก็ถูกยึดไปเป็นของผู้ยึดอำนาจ ในการแต่งตั้งบริษัทบริวารหรือผู้อยู่ใต้อาณัติให้เป็น สว. ดังนั้น สว. จึงไม่ใช่ตัวแทนของปวงชนในระบอบประชาธิปไตย แต่เป็นบริษัทบริวารในอาณัติของผู้มีอำนาจที่ไม่เคารพหรือฟังเสียงประชาชน และไม่ได้รับใช้ผลประโยชน์ของประชาชน
นอกจากนั้นยังมีการใช้วิชาไสยศาสตร์ทางกฎหมายปลุกเสกอำนาจใหม่ไว้ที่ สว. ให้มีอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรี ทำให้การเลือกตั้งของประเทศและทำให้การใช้สิทธิ์เลือกผู้แทนของปวงชนถูกบิดเบือนอย่างถึงราก เพราะมีการกำหนดจำนวน สว. ไว้ถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สภาพเช่นนี้รัฐสภาจึงกลายเป็นสภาของผู้มีอำนาจถึง 1 ใน 3 และทำให้ประชาธิปไตยถูกบิดเบือนและเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกมาจนถึงทุกวันนี้
ประการที่สอง สว. ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้มีอำนาจถูกมอบอำนาจในการให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระและองค์กรตรวจสอบทั้งหมด และภายใต้ระบบอุปถัมภ์ จึงทำให้องค์กรอิสระและองค์กรตรวจสอบทั้งหลายไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่โดยอิสระ โดยถือเอาประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้งได้ ดังนั้นเรื่องราววิปริตวิปลาสต่างๆ ที่ท้าทายอำนาจของประชาชน ทำลายผลประโยชน์ของชาติจึงปรากฏให้เห็นเนืองๆ
ประการที่สาม เพราะองค์ประกอบขององค์กรอิสระและองค์กรตรวจสอบถูกบิดเบือนให้กลายเป็นผู้คนในอาณัติของผู้คนมีอำนาจ ดังนั้น ความดี ความชั่ว ความถูก ความผิดในบ้านเมืองจึงถูกบิดเบือนและท้าทายความรู้สึกของประชาชนครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั่งหมดความเชื่อถือในขื่อแปของบ้านเมือง
ประการที่สี่ เพราะความดี ความชั่ว ถูกบิดเบือน ดังนั้นผิดก็ไม่ผิด ถูกก็กลายเป็นผิด จึงทำให้คนไม่ดีเข้าสู่อำนาจและฮึกเหิมลำพองก่อกรรมทำเข็ญต่อประเทศชาติและราษฎร แม้กระทั่งข้าราชการโดยทั่วไป
มาถึงวันนี้ประชาธิปไตยจำแลงได้ถูกความจริงกระชากหน้ากากให้เห็นอย่างล่อนจ้อนแล้ว ดังนั้นกระแสประชาธิปไตยจึงเกิดเป็นประกายไฟที่กำลังลุกลามไปทั่วประเทศ เป็นประกายไฟน้อยที่กำลังไหม้ลามทุ่ง ในขณะที่มีเชื้อเพลิงเป็นหย่อมเป็นกองอยู่ในทั่วประเทศ หากไม่เห็นถึงอันตรายในข้อนี้ อีกไม่นานการปฏิวัติประชาชาติหรือการปฏิวัติสีก็จะเกิดขึ้นโดยไม่ต้องสงสัย

'อ.เจษฎ์'มาเอง! เปิด7ข้อเคลียร์ความเชื่อผิดๆปมดื่มนมไทย เปิดวาร์ปนมไทยที่เป็นนมโคแท้
'ปราชญ์ สามสี'ฟาด! 'พรรคส้ม' ใช้ 'สองมาตรฐาน' โจมตีกองทัพ แต่ปัดรับผิดคดีในพรรค
ผีตายยาก!เดอ ลิกต์ โขกทดเจ็บบุกแบ่งแต้มไก่
'กัน จอมพลัง' ควงลูกเมียเปิดใจน้ำตาซึม เผยความผิดพลาด เอาเวลาครอบครัวไปช่วยคนอื่น
'กัมพูชา'ขยับแรง! บุกทลาย2รังใหญ่แก๊งสแกมเมอร์ รวบผู้ต้องหากว่า600คนส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี