ความเป็นพี่เป็นน้องจากสถาบันการศึกษาเป็นแค่เพียงภาพลวงตาเท่านั้น เพราะในความเป็นจริงไม่เคยมีใครยืนยันได้ว่าความสัมพันธ์ดังกล่าวจะไม่ขาดสะบั้นลง เมื่อถึงวันที่พี่กับน้องร่วมสถาบันการศึกษาต้องแย่งชิงตำแหน่งสำคัญที่มีเพียงตำแหน่งเดียว
เรื่องทำนองนี้มีให้เห็นมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ที่ขาดสะบั้นลงระหว่างพี่น้องจาก จปร. (โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า) เมื่อคราวต้องแย่งตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก และล่าสุดก็กำลังเกิดขึ้นในกรณีการแย่งชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่จะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า
อันที่จริงความรักของพี่น้องร่วมสถาบันการศึกษาเป็นเพียงภาพที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้นักเรียนที่กำลังเรียนอยู่ในสถานศึกษาต่างๆ เกิดความรักกันและกันในระหว่างการเรียนเท่านั้น แต่เมื่อจบการศึกษาไปแล้ว หากพี่น้อง หรือแม้แต่กระทั่งเพื่อนร่วมสถานศึกษาไม่ต้องแย่งชิงสิ่งใดระหว่างกัน เขาเหล่านั้นก็อาจจะยังคงระดับความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันไว้ได้ แต่ถ้าหากถึงคราวต้องแย่งชิงตำแหน่งสำคัญแล้ว ก็ไม่เคยปรากฏว่าสายสัมพันธ์น้องพี่ร่วมสถาบันการศึกษาจะช่วยยุติศึกแย่งตำแหน่งได้
สำหรับผู้ที่ติดตามพฤติกรรมการเมืองในช่วงปัจจุบัน ระหว่างบิ๊กป้อม-ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับ บิ๊กตู่-ประยุทธ์ จันทร์โอชา พี่น้องจากรั้ว จปร. พี่น้องจากบูรพาพยัคฆ์จะพบว่าพี่น้องคู่นี้แสดงพฤติกรรมการแย่งชิงความได้เปรียบทางการเมืองกันอย่างถึงพริกถึงขิง จนกระทั่งมีการกล่าวว่า ทั้งคู่ต่างพยายามแสวงหาความได้เปรียบทางการเมืองตลอดเวลา เสมือนว่าทั้งคู่คือคู่แข่งทางการเมืองแม้ว่าปัจจุบันทั้งคู่จะยังอยู่ร่วมรัฐบาลด้วยกันก็ตาม
ภาพการปาดหน้าเพื่อชิงความได้เปรียบทางการเมืองที่แสดงออกโดย บิ๊กป้อม ในระยะนี้ คือภาพชัดเจนที่บอกให้สาธารณชนรับรู้ว่า บิ๊กป้อม จะไม่ยอมให้ บิ๊กตู่ ได้เปรียบทางการเมืองอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ยังพบอีกว่าบิ๊กป้อมพยายามสื่อสารกับสังคมให้เห็นว่านโยบายประชานิยมต่างๆ ที่รัฐบาลชุดนี้ใช้เพื่อดึงคะแนนนิยมจากประชาชนนั้น ล้วนมาจากความคิดของบิ๊กป้อม ในขณะที่บิ๊กตู่ก็พยายามอ้างกลับเพื่อตอบโต้ว่านโยบายประชานิยมสารพัดชนิดที่รัฐบาลประยุทธ์ใช้นั้น มาจากมันสมองของตนเอง เนื่องจากตนเองคือ นายกรัฐมนตรี
แต่สำหรับคอการเมืองตัวจริงแล้ว ไม่มีใครประหลาดใจในพฤติกรรมช่วงชิงอำนาจการเมืองระหว่างบิ๊กทหารพี่น้องคู่นี้ เนื่องจากทุกคนรู้ว่านี่คือสัจธรรมของการนำพาตัวเองขึ้นไปสู่ยอดพีระมิดของอำนาจการเมือง เมื่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทยมีเพียงตำแหน่งเดียว และไม่สามารถแบ่งอำนาจให้กันและกันได้ ยกเว้นในกรณีที่จะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมเป็นหุ่นเชิดทางการเมืองให้อีกฝ่ายหนึ่ง หรือมิฉะนั้นก็ต้องมีปรากฏการณ์ซูสีไทเฮาทางการเมืองโดยนายกรัฐมนตรีจำต้องยอมให้มีผู้บัญชาการอยู่หลังม่าน
แต่สำหรับบิ๊กตู่นั้น เมื่อเขาได้ลิ้มรสของผู้มีอำนาจรัฐ มาตั้งแต่ปี 2557 แล้ว เขาไม่มีวันยินยอมจะอยู่ใต้อำนาจสั่งการของพี่คนไหนอีกต่อไป และเขาจะต้องพยายามยื้ออำนาจรัฐไว้ในกำมือให้จงได้ แม้จะต้องตัดพี่ตัดน้องก็ตาม
ส่วนบิ๊กป้อมนั้น เมื่อได้ลิ้มรสของการเป็นผู้รักษาการตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาระยะหนึ่ง แม้จะเป็นเวลาเพียงสั้นๆ แต่เขาก็รับรู้ถึงความหอมหวานแห่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้เป็นอย่างดี ดังนั้น เขาจึงคิดว่า เขาสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงได้ เพราะเคยทดลองเป็นนายกรัฐมนตรีเสมือนจริงมาแล้ว ดังนั้นจึงมีคนกล่าวทำนองเย้ยเยาะว่า ลองนายกฯ ซึ่งหมายความว่าทดลองเป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว เพราะฉะนั้นจึงไม่ประสงค์จะเป็นแค่เพียงรองนายกรัฐมนตรีเท่านั้น
ย้อนภาพไปหลายปีพอประมาณ เมื่อวันที่บิ๊กตู่ขึ้นมามีอำนาจรัฐใหม่ๆ นั้น หลายคนที่ติดตามข่าวการเมืองยังจดจำภาพและคำพูดของบิ๊กตู่ที่กล่าวต่อหน้าบิ๊กป้อมได้ดี โดยเฉพาะคำที่กล่าวทำนองว่า ผมมีวันนี้ได้ก็เพราะพี่ป้อม แล้วก็ยังมีอีกหลายครั้งที่บิ๊กตู่บอกว่าผมมีวันนี้ได้เพราะพี่ป้อม เพราะฉะนั้นไม่มีวันทะเลาะกัน แค่มองหน้าก็เข้าใจกันแล้ว
แต่คำพูดในวันวาน ก็เป็นเพียงลมปากเท่านั้น เพราะวันนี้หากใครไปถามบิ๊กตู่เรื่องที่ถูกบิ๊กป้อมปาดหน้าทางการเมืองติดๆ กันหลายครั้ง ก็จะประสบกับความหัวเสียและอารมณ์บูดบึ้ง โกรธเกรี้ยวจากบิ๊กตู่โดยพลัน ซึ่งคอการเมืองบอกว่าการประสบกับอารมณ์บูดของบิ๊กตู่นั้นเป็นเรื่องปกติวิสัยของบิ๊กตู่ แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ก็ยังต้องยืนยันว่า เมื่อนักข่าวการเมืองคนไหนถามเรื่องการปาดหน้าโดยบิ๊กป้อมคราวใด ก็ต้องประสบกับความเกรี้ยวกราดจากบิ๊กตู่อย่างทันควัน
พฤติกรรมกราดเกรี้ยวจากบิ๊กตู่ที่แสดงปฏิกิริยาต่อคำถามของนักข่าวในเรื่องนี้ บ่งบอกชัดเจนว่าความสัมพันธ์ฉันพี่น้องร่วมรั้ว จปร. ระหว่างบิ๊กตู่กับบิ๊กป้อมไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี