การเลือกตั้ง 2566 ได้ประกาศผลเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการแล้ว ในสภาพที่สังคมกดดันจนไม่อาจกระทำเป็นอย่างอื่นได้ และผลการเลือกตั้งนั้นพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติพรรคไทยสร้างไทยและพรรคเสรีรวมไทยพรรคเป็นธรรมมีคะแนนเสียงรวมกันเกินกว่า 309 เสียง สามารถรวมกันเลือกนายกรัฐมนตรีได้ตามบทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญ
ผลการเลือกตั้งเบื้องต้นพรรคก้าวไกลชนะเป็นลำดับที่ 1 ชนิดพลิกล็อก และดับกระแสแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยได้สนิท ซึ่งเป็นผลมาจากกองเชียร์ของฝ่ายรัฐบาลที่ต้องการดับกระแสเพื่อไทยและดันกระแสก้าวไกลให้มาช่วงชิงคะแนนเสียง แต่ในที่สุดก็ถลำลึกปลุกกระแสก้าวไกลให้ลุกฮือขึ้นทั้งแผ่นดิน
โดยเฉพาะการแสดงท่าทีวิปริตจะตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยแล้วค่อยดึง สส. จากพรรคอื่นให้ขายตัวทรยศพรรค ให้ทรยศประชาชนที่เลือกตั้งมาเข้าร่วมเป็นรัฐบาล ได้สร้างความโกรธแค้นเกลียดชังครั้งใหญ่ที่สุด ทำให้คนที่มีความคิดเห็นทางการเมืองแบบกลางๆ ก็ทนไม่ไหว ต้องลุกฮือกันขึ้นเพื่อต่อต้านการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่วิปริตดังกล่าว อันควรเป็นบทเรียนว่าการใช้ไสยศาสตร์ทางกฎหมายนั้นถึงวาระต้องปิดฉากอย่างสิ้นเชิงแล้ว ดีไม่ดีก็จะต้องรอรับการตรวจสอบถึงความเสียหายทั้งหลายที่ผ่านมาด้วย
นอกจากนั้นมีการปลุกกระแสขวาจัดเพื่อใช้ความรุนแรงกับเด็กและเยาวชนที่เริ่มต้นจากการสร้างเฟคนิวส์ เอาบทเพลงเลือดต้องล้างด้วยเลือดมาปลุกกระแส เพื่อให้ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐเกลียดชังเด็กและเยาวชนว่าพวกเขาจ้องล้างแค้นล้างผลาญเจ้าหน้าที่ของรัฐ และมีการปลุกกระแสเผยแพร่บทเพลงดังกล่าวอย่างกว้างขวาง โดยใช้หน่วยงานของรัฐบางหน่วยเป็นหน่วยแพร่ข่าว
สร้างความโกรธแค้นเกลียดชังให้แก่เด็กเยาวชนและพ่อแม่ผู้ปกครอง จนสื่อมวลชนก็ทนไม่ไหว เป็นเหตุให้ผู้บังคับหน่วยทราบเรื่องนี้ว่ามีมือดีแอบสั่งการปั่นกระแสดังกล่าว จึงมีคำสั่งให้หยุดกระทำการดังกล่าวนั้นโดยพลัน
ความจริงบทเพลงเลือดต้องล้างด้วยเลือดประพันธ์โดย จิตร ภูมิศักดิ์ วีรชนของประชาชนในยุคสงครามกลางเมืองกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่ประพันธ์ขึ้นในปี 2508 ก่อนเกิดพรรคก้าวไกลเกือบ 60 ปี ต่อมาในปี พ.ศ. 2545 มหาวิทยาลัยและหลายสถาบันได้ร่วมกันอนุรักษ์บทเพลงประวัติศาสตร์ ซึ่งรวมทั้งบทเพลงเลือดต้องล้างด้วยเลือดด้วย โดยจัดทำในรูปแบบการบรรเลงของวงซิมโฟนีที่มีชื่อเสียงที่สุดวงหนึ่งของประเทศไทย และเป็นการจัดทำก่อนกำเนิดพรรค
ก้าวไกลถึง 21 ปี ยังอุตส่าห์เอามายัดเยียดโกหกปลุกกระแสและใส่ร้ายเด็กและเยาวชน
เมื่อปลุกกระแสสร้างความเกลียดชังแบบ 6 ตุลาแล้ว ก็เริ่มปลุกกระแสขวาจัดแบบ 6 ตุลา กระทำกันอย่างกว้างขวางไม่ต่างกับยุคกระทิงแดงครองเมือง บทเพลงหนักแผ่นดินก้องกระหึ่มไปตามทุกช่องทางของโซเชียลมีเดีย จนกระทั่งผู้บังคับหน่วยต่างๆ ตรวจพบว่ามีมือดีแอบสั่งการยืมมือหน่วยงานของรัฐให้ปลุกระดมดังกล่าว จึงสั่งให้หยุดกระทำการนั้นในทันที
หลังจากนั้นก็มีการโหมกระแสโหนเจ้าอวดอ้างแอบอ้างเจ้า เกี่ยวกับการได้รับมอบหมายให้ทำนุบำรุงแผ่นดิน ทำราวกับเหตุการณ์ในสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงสั่งเสียข้าราชการขุนนางในยามใกล้จะเสด็จสวรรคต ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในช่วงที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ หรือรัชกาลที่ 5 ยังทรงพระเยาว์มาก ซึ่งบรรดาขุนนางทั้งหลายต้องกระทำสัตย์ปฏิญาณและร่วมกันทำนุบำรุงแผ่นดินสืบมา
ต่างกับช่วงปลายสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงพระชนมพรรษาถึง 60 พรรษาแล้วทรงมีพระสติปัญญาความสามารถสูงยิ่ง ทรงรอบรู้การแผ่นดินทั้งปวง เพราะทรงศึกษาการแผ่นดินทั้งหลายจากสมเด็จพระราชบิดาโดยตรงมาเป็นเวลายาวนาน ทรงมีประสบการณ์และรอบรู้การแผ่นดินยิ่งกว่าใคร
ที่สำคัญคือการทุจริต การฉ้อฉล การบิดเบือนการใช้อำนาจ การไม่นำพาต่อความเดือดร้อนของราษฎร ตามบทพระราชปรารภในรัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ได้รับการปฏิบัติเลย เหตุการณ์กลับหนักหนาสาหัสมากขึ้น ความเดือดร้อนเต็มไปทั้งแผ่นดินยกระดับเป็นความเกลียดชัง
สารพัดเรื่องราวเหล่านี้จึงทำให้ประชาชนหันไปเทคะแนนเสียงให้กับพรรคฝ่ายค้าน ไม่ว่าพรรคก้าวไกลหรือพรรคเพื่อไทย ซึ่งผลคะแนนสองพรรคนี้ก็ร่วม 292 เสียง เป็นเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร และอยู่ในวิสัยที่จะได้รับเสียงสนับสนุนอื่นจนมีคะแนนเสียงเกินกว่า 376 เสียงในการเลือกนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญบทเฉพาะกาลแล้ว
ดังนั้นเราทั้งหลายจึงควรทำความเข้าใจถึงสถานการณ์ทางการเมืองและฉันทามติของประชาชาติไทยทั้งผองและย่อมเป็นเครื่องเตือนสติบรรดานักไสยศาสตร์ทางกฎหมายว่าอย่าริอ่านทำการวิปริตเพื่อล้มล้างฉันทามติของประชาชนอีก มิฉะนั้นอาจไม่มีแผ่นดินอยู่กันก็ได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี