คุณเคยอ่านหนังสือชื่อ Animal Farm ของ George Orwell หรือไม่ หากไม่เคยอ่านฉบับภาษาอังกฤษ ก็น่าจะเคยอ่านฉบับแปลเป็นภาษาไทยมาบ้างแล้ว
หนังสือเล่มนี้ถูกกำหนดให้นิสิต นักศึกษาที่เรียนด้านการเมืองการปกครอง และการระหว่างประเทศต้องอ่าน เพราะสามารถทำให้ผู้อ่านเห็นและเข้าใจได้โดยง่ายว่า เมื่อสิ่งมีชีวิตชนิดใดก็ตามได้เสพอำนาจแล้ว สิ่งมีชีวิตที่ได้ครองอำนาจก็มักจะเสพติดอำนาจ และไม่ยอมอยู่โดยปราศจากอำนาจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอำนาจรัฐ เพราะเป็นอำนาจที่หอมหวานและให้ผลประโยชน์สูงสุดในบรรดาอำนาจทั้งปวงบนโลกใบนี้
ในยามนี้ หากเปรียบประเทศไทยตามแนวหนังสือ Animal Farm ก็พอจะเปรียบได้ว่า กำลังจะมีหัวหน้าฝูงสัตว์ตัวใหม่ เพราะเพิ่งผ่านพ้นการเลือกหัวหน้าฝูงสัตว์มาสดๆ ร้อนๆ
สิ่งมีชีวิตในฟาร์ม โดยเฉพาะสัตว์ที่เพิ่งเกิดได้ไม่นานต่างก็หวังว่าหัวหน้าสัตว์ตัวใหม่ของฟาร์มจะทำให้สัตว์ทุกตัวในฟาร์มมีความเสมอภาค เท่าเทียมกินดี อยู่ดี มีความสุขกันทั่วหน้า ไม่มีการกดขี่ข่มเหง สัตว์ทุกตัวจะสุขสบายมากกว่าในยุคก่อนๆ
แล้วสุดท้าย สัตว์ทุกตัวในฟาร์มก็พบความจริงว่า เมื่อเปลี่ยนจากคนปกครอง แล้วให้สัตว์ปกครอง ก็ปรากฏว่าเหล่าสรรพสัตว์มิได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มิหนำซ้ำยังตกระกำลำบากหนักหนาสาหัสกว่าเดิมอีก เพราะไม่ว่าสัตว์ที่ชื่อว่าคน กับสัตว์สี่ขา เมื่อมันได้ครอบครองอำนาจแล้ว มันก็มีพฤติกรรมไม่ต่างกัน คือเอารัดเอาเปรียบ กดขี่ข่มเหง เล่นพรรคเล่นพวก และคดโกง
ในวันที่สัตว์วางแผนล้มคน สัตว์ก็บอกกันเองว่า เราเป็นสัตว์ เราต้องปกครองกันเอง อย่าปล่อยให้คนปกครองเรา อย่าปล่อยให้คนเอาเปรียบเรา แล้วสัตว์ก็หลงเชื่อว่าผู้ปกครองใหม่จะไม่เลวทรามเหมือนผู้ปกครองเดิม แต่ทว่ามันไม่เป็นความจริง เพราะผู้ปกครองใหม่สามานย์ยิ่งกว่าผู้ปกครองรายเดิม ส่วนคำสัญญาแบบลมลวงที่ว่าจะทำให้สัตว์เท่าเทียมกันทุกตัว ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง ส่วนข้ออ้างเรื่องตกลงมติก่อนจะทำการใดๆ ก็เป็นเพียงลมปากเท่านั้น เพราะไม่เคยมีอยู่จริง
จนกระทั่งวันหนึ่งหัวหน้าสัตว์ตัวใหม่สามารถคุมอำนาจได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด หลังจากทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างรุนแรงกับแกนนำสัตว์ที่เคยร่วมมือกันมาก่อน จนสุดท้ายสัตว์ตัวหนึ่งก็ยึดกุมอำนาจทั้งหมดไว้ในกำมือได้ ก็จึงจัดการขั้นเด็ดขาดกับสัตว์อีกตัวที่เคยเป็นเพื่อนร่วมแนวคิดกันมาก่อน
บัดนี้ ฟาร์มแห่งนี้เหลือสัตว์ที่เป็นหัวหน้าเพียงตัวเดียว จากนั้นกฎระเบียบลมๆ แล้งๆที่หัวหน้าสัตว์เคยสัญญาไว้ ก็ถูกยกเลิกทั้งหมด การประชุมหารือเพื่อร่วมกันตัดสินใจก็ไม่มีอีกต่อไป ผู้นำสัตว์ตัวใหม่ ประกาศว่าจะตัดสินใจเพียงผู้เดียวโดยไม่จำเป็นต้องมีการประชุมใดๆ แล้วอ้างว่าจะคิดเอง และทำเองทั้งหมด โดยมีคำโฆษณาชวนเชื่อคือ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของสัตว์ทุกตัวภายในฟาร์ม
สิ่งที่หัวหน้าสัตว์ตัวใหม่ทำคือ ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง และโฆษณาชวนเชื่อเพื่อสร้างภาพให้ตัวเองดูดี ทั้งๆ ที่ตัวเองเลว แต่สัตว์จำนวนมากก็ยังหลงเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อ ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีเรื่องใดเกิดขึ้นจริง เพราะทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องโกหก แต่ทว่าสัตว์ในฟาร์มดันหลงเชื่อ
จนสุดท้าย สัตว์ในฟาร์มก็เห็นชัดว่าหัวหน้าสัตว์ตัวใหม่ไปร่วมมือกับคนแล้วกลับมากดขี่ข่มเหงรีดนาทาเร้นพวกสัตว์ไม่ต่างไปจากเดิม แต่ที่ต่างอย่างชัดเจนคือหัวหน้าสัตว์ได้ทำตัวเสมือนเป็นคนไปแล้ว ทั้งๆ ที่มันบอกว่าคนกดขี่ข่มเหงสัตว์ในฟาร์ม แต่มันก็ทำพฤติกรรมต่างๆ ไม่ผิดไปจากคน และที่สำคัญคือมันมีพฤติกรรมข่มเหงสัตว์ไม่ต่างไปจากคน
เมืองไทยมีสภาพเป็นเหมือนเรื่องราวใน Animal Farm หรือไม่ คุณๆ ที่มีสติปัญญาและไม่หลงเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อใดๆ ต้องตอบคำถามนี้ได้ดี เพราะคุณตกอยู่ในสภาพไม่ต่างจากสัตว์ในฟาร์ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี