ในระหว่างการรณรงค์เลือกตั้งและในช่วงใกล้จะเลือกตั้งได้มีคนสำคัญของรัฐบาลให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยแล้วค่อยๆ ดึงเอา สส.จากพรรคอื่นมาทำให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ซึ่งเป็นท่าทีที่ไม่เป็นประชาธิปไตย และเท่ากับประกาศว่าจะล้มฉันทามติ ของประชาชน แม้ว่าจะไม่เลือกฝ่ายที่มีอำนาจก็ตาม
กล่าวได้ว่าเป็นการเปิดข่าวเปิดตัวที่ลำพองเหลิงระเริงในอำนาจโดยไม่คำนึงถึงอำนาจอธิปไตยของปวงชน ไม่เห็นเสียงของประชาชนทั่วประเทศที่กำลังจะเลือกตั้งว่าเป็นนัยสำคัญ ในการเลือกรัฐบาลมาบริหารประเทศ เห็นผิดเป็นชอบว่าอำนาจที่เกิดจากการวางระบบที่ฉ้อฉลจะสามารถเหยียบย่ำฉันทามติของปวงชนชาวไทยได้
ดังนั้นหลังจากข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปได้เกิดความโกรธแค้นชิงชังแก่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ขนาดลูกเล็กเด็กน้อยก็เคียดแค้นพากันไปหาพ่อแม่ปู่ย่าตายายขอร้องให้เลือกพรรคฝ่ายประชาธิปไตย ขอร้องถึงขั้นว่าคนรุ่นเก่าได้สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติและตกเป็นภาระของคนรุ่นใหม่สุดที่จะแบกจะหามต่อไปแล้ว ขอร้องให้เห็นแก่ลูกหลาน
ดังนั้นนอกจากบรรดาคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศที่ระดมกันไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งแล้ว บรรดาพ่อแม่ปู่ย่าตายายก็เห็นด้วยกับลูกหลาน ชักชวนแห่กันไปลงคะแนนจนเกิดการแลนด์สไลด์ขึ้น นี่ก็เป็นเหตุการณ์ที่ผ่านไปหยกๆ
แต่คนบางพวกก็ยังไม่สำเหนียก ไม่สำนึก ยังหลงใหลได้ปลื้มคิดว่าไสยศาสตร์ทางกฎหมายจะสามารถพลิกธรรมเป็นอธรรม จะสามารถทำให้อธรรมยืนยงคงคู่ฟ้าเป็นนิรันดรได้ จึงปฏิเสธฉันทามติของประชาชนในการเลือกตั้งครั้งนี้ เคลื่อนไหวรัฐประหารโดยไสยศาสตร์ทางกฎหมายอย่างไม่ลืมหูลืมตา
กองร้อง กองหลอน และกองหลอกขับเคลื่อนกันอย่างคึกคักจนราวกับว่าขณะนี้พรรคการเมืองที่กำลังจัดตั้งรัฐบาลตามฉันทามติของประชาชนถูกยุบไปหมดแล้ว ผู้บริหารและผู้สมัครของพรรคเหล่านั้นล้วนเป็นพวกชั่วช้าสารเลวที่ถูกเพิกถอนติดคุกติดตะรางกันไปหมดแล้ว
ปั่นกระแสทุกสื่อมวลชนถึงบทบาทของนักร้องรับจ้าง และ สว. 2-3 คน ที่ขับเคลื่อนการรัฐประหารโดยไสยศาสตร์ทางกฎหมาย แต่ละวันมีแต่เรื่องร้องเรียนสารพัดจนผู้คนก่นด่าสาปแช่งกันทั้งบ้านทั้งเมืองก็มิได้สำนึก
สภาพเช่นนี้เกิดขึ้นในสถานการณ์ที่ประเทศชาติกำลังเผชิญกับวิกฤตทั่วด้าน ผู้คนเดือดร้อนทั้งแผ่นดิน บ้านเมืองเสียหายย่อยยับ ไม่ต้องอื่นไกลขนาดเรือรบหลวงสุโขทัยมูลค่ากว่าหมื่นล้านบาทจมอยู่ใต้ทะเล 7 เดือนแล้ว ผู้รับผิดชอบก็ไม่ทำการกอบกู้เรือ ปล่อยให้ทรัพย์สมบัติของชาติเสียหายยับเยิน ทำให้กองทัพเรือและพี่น้องทหารเรือต้องหลั่งน้ำตาอาลัย
สภาพเช่นนี้เกิดขึ้นโดยทั่วไป แม้กระทั่งในวงการสมาชิกวุฒิสภา ดังนั้นจึงมีสมาชิกวุฒิสภาคนแล้วคนเล่าเปิดตัวออกมาเผยท่าทีสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีตามฉันทามติของประชาชน ในขณะที่มีเสียงกำชับกำกับไปยังคณะ สว. ให้อยู่ในแถว ให้อยู่ในคำสั่งให้อยู่ในโอวาท ประหนึ่งว่าเป็นข้าทาสที่ต้องฟังคำสั่งของนายทาสอยู่ร่ำไป
สภาพเช่นนี้กำลังเกิดขึ้นในหมู่ของ สว. จึงทำให้บางคนทนไม่ไหวต้องเปิดตัวออกมาแสดงท่าทีสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีตามฉันทามติของประชาชน แม้คนระดับอดีตทูตต่างประเทศ อดีตผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ก็เปิดหน้าไม่ยำเกรงแรงกดดันใดๆ กันอีกแล้ว
นั่นคือสภาพที่กำลังก่อตัวและขยายวงในวงการของสมาชิกวุฒิสภา ในขณะที่มี สว. 2-3 คน ได้ประพฤติตนเป็นกระบอกเสียงและขับเคลื่อนเพื่อจะโค่นล้มผู้แทนที่ปวงชนชาวไทยได้มีฉันทามติให้เข้ามาบริหารแผ่นดินอย่างเอาเป็นเอาตายกระทั่งลืมกำพืดของตัวเอง
สภาพเช่นนี้ยังดำเนินต่อไปในท่ามกลางความขัดแย้ง ที่ด้านหนึ่งมีการกดดันบังคับกำชับกำกับไม่ให้ สว. แตกแถว ให้เชื่อฟังคำสั่ง ในขณะที่อีกด้านหนึ่งสำนึกรับผิดชอบต่อชาติบ้านเมืองและเห็นแก่ความร่มเย็นของประเทศ เห็นแก่ความถูกต้อง เคารพต่อฉันทามติของปวงชนชาวไทย ได้เกิดขึ้นในหัวใจของ สว. ทั้งหลาย
ความรู้สึกสองชนิดสองด้านนี้จะยังคงดำเนินไปจนกว่าจะถึงวันเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ท่ามกลางวันเวลาที่ผ่านไปและวิถีดำเนินแห่งสถานการณ์ความขัดแย้งที่แหลมคมและขยายตัวมากขึ้น ทำให้ สว. หลายท่านค่อยๆ เปิดตัวเปิดหน้าประกาศยืนข้างและสนับสนุนฉันทามติของปวงชนชาวไทย
และไม่มีใครรู้ว่ามีอีกเท่าใดที่มีความรู้สึกนึกคิดที่เห็นแก่ชาติบ้านเมืองและสลัดพ้นออกมาจากทัศนะบริษัทบริวาร เพราะต่างคนต่างก็เห็นว่าสภาพวิกฤตที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองและความขัดแย้งรุนแรงที่อาจนำไปสู่การสิ้นชาติหรือกลียุคนั้นย่อมมีผลกระทบต่อทุกคนความรู้สึกนึกคิดที่จะรับผิดชอบต่อบ้านเมืองและราษฎรจึงค่อยๆ โหมประดังขึ้นในใจ
สภาพเช่นนี้จะปรากฏผลให้เห็นชัดเจนในวันเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้นโลกนิติบทที่ว่าในที่สุดแล้วธรรมะย่อมชนะอธรรมจะแสดงผลให้เห็นอีกครั้งหนึ่ง
ให้จับตาดูให้ดี ในเมื่อการเลือกตั้งเกิดเหตุการณ์แลนด์สไลด์พลิกล็อกได้ แล้วการเลือกนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมร่วมสองสภาก็อาจจะพลิกล็อกแลนด์สไลด์ได้เช่นเดียวกัน
ประชาชนคือวีรชนที่แท้จริง อำนาจมีแล้วตั้งอยู่และสิ้นไปเป็นสัจธรรมเสมอ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี