ดูเหมือนสังคมข่าวสาร จะเห่อ “นายกฯ ใหม่” กับ “นายกฯหนีคุก” กันเสียมาก
นายกฯใหม่ คือ ที่กำลังจะเลือกกันวันนี้ นายเศรษฐา จะสมหวัง หรือแห้ว เดี๋ยวก็รู้กัน
ส่วนนายกฯ หนีคุก ก็คือ นายทักษิณ ชินวัตร ที่บอกจะกลับมาวันนี้เหมือนกัน
เอาเถิด... ทุกอย่างย่อมเป็นไปตามเหตุและปัจจัย
แต่อยากบอกว่า อย่าเพิ่งเห่อโหยหาของใหม่ที่ยังไม่แน่นอน และของเก่าที่สร้างปัญหาไว้มากมาย
จนกระทั่งลืม “ของปัจจุบัน” ที่ช่วยแก้ปัญหาหมักหมม สะสม ช่วยนำพาบ้านเมืองผ่านวิกฤตมาได้ และยังช่วยก่อร่างสร้างบ้านเมืองที่มีอนาคตไว้ให้แก่ลูกหลานกันเสียหมด
นั่นคือ นายกฯ ลุงตู่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
ช่วงนี้ เดินสายเตรียมส่งมอบบ้านเมืองให้รัฐบาลชุดใหม่
ทำให้คนไทยได้เห็นว่า โอ้วววว ประเทศชาติที่ลุงตู่เตรียมส่งมอบต่อนั้น ไม่ขี้เหร่เหมือนที่นักการเมืองมันละเลงด้วยข่าวเท็จ ข่าวโจมตี ใส่ร้าย ดิสเครดิต บูลลี่เอาสนุกปากอย่างคะนองแบบเกรียนคีย์บอร์ด
ตรงกันข้าม คนไทยจำนวนมากที่เคยหลงเชื่อขี้ปากนักการเมืองมา ถึงกับตะลึงงัน!!!
ในช่วงที่นักการเมืองมันปลุกม็อบ ปั่นกระแสโจมตี ด้อยค่า ลุงตู่ทำงานเกิดดอกออกผล มากถึงขนาดนี้เลยหรือ
ไม่เชื่อลองไล่ดู ตามที่รองโฆษกฯ ทิพานันท์ ศิริชนะ สรุปมาบางส่วน
1. ทศวรรษแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน!!
สร้าง #มรดกแห่งความเจริญ ให้ทุกรุ่น-ทุกภาค-ทุกมิติ
สะสม #ความมั่งคั่งที่มั่นคง เพื่อเสถียรภาพการเงินประเทศ
มุ่งสู่ #การพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อพัฒนาคน สร้างสมดุลสิ่งแวดล้อม-สังคม-เศรษฐกิจ
2. ผลลัพธ์ไม่เคยโกหก นี่คือข้อมูลจริง ไม่ใช่คำคุยหรือความเห็น
โครงสร้างพื้นฐานแข็งแกร่ง อยู่ฐานอันดับ 9 ของโลก (คะแนน 3.7) จาก LPI2023 โดยธนาคารโลก (หมวดโครงสร้างพื้นฐาน)
ซื้อสะสมทองคำเข้าทุนสำรองมากอันดับ 1 ในเอเชีย (รอบ10ปีเพิ่มขึ้น 60.20% เป็น 244.16 ตัน)
สะสมเงินสำรองระหว่างประเทศ ปี 2565 อันดับ 12 ของโลก
Fitch Moody’s S&P ให้มุมมองความน่าเชื่อถือไทย #ระดับมีเสถียรภาพ และอันดับความน่าเชื่อถือ #BBB+ (Fitch และ S&P) #Baa1 (Moody’s) ต่อเนื่อง
อันดับ 1 ในอาเซียน 4 ปีซ้อน “ประเทศที่มีประสิทธิภาพเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” (อันดับ 44 โลก)
ระดับ #สูงมาก ของ UNDP ต่อเนื่อง 3 ปี ดัชนีการพัฒนามนุษย์ (Human Development Index-HDI) โดย UNDP
ดันเศรษฐกิจไทยเป็นหนึ่งในอาเซียน การแข่งขันระดับโลก
3. เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง
เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน (SEZ) ตาก มุกดาหาร สระแก้ว ตราด สงขลา เชียงราย หนองคาย นครพนม กาญจนบุรี นราธิวาส
ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค
•ภาคเหนือ : เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง
•ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย
•ภาคกลาง–ตะวันตก : นครปฐม อยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี
•ภาคใต้ : ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช
4. พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทุกมิติ…เชื่อมโยงความเจริญ
อากาศ : พลิกฟื้นการบินไทยสายการบินแห่งชาติ, ปรับปรุงและสร้างสนามบินเพิ่มทั่วประเทศเพื่อส่งเสริมท่องเที่ยวเมืองรอง-หลัก เช่น อาคารเทียบเครื่องบินสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบิน สนามบินเบตง สนามบินกระบี่ สนามบินตรัง สนามบินนครพนม สนามบินสกลนคร สนามบินขอนแก่น
ทางน้ำ : ท่าเรือมาบตาพุด ท่าเรือแหลมฉบัง
ทางบก : ล้อและราง
ทางถนนเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 12,000 กม.
มอเตอร์เวย์ 3 สาย 260 กม. บางปะอิน-โคราช, บางใหญ่-กาญจนบุรี, พัทยา-มาบตาพุด
สะพานข้ามทะเลสาบสงขลา และ สะพานเชื่อมไทย-ประเทศเพื่อนบ้าน
รถไฟฟ้า 12 สาย ทั่วกทม.และวางโครงข่ายต่อยอดไปปริมณฑล
โครงข่ายทางรถไฟ 4,044 กิโลเมตร ครอบคลุม 47 จังหวัด
•ทางคู่ 14 เส้นทาง 2,500 กม.
•ทางสายใหม่ 10 เส้นทาง
•รถไฟความเร็วสูง 8 เส้นทาง 2,507 กม.
•รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินในเขต EEC
ถนนสายเศรษฐกิจเส้นประวัติศาสตร์เชื่อมต่อ 4 ประเทศอาเซียนด้วยทางหลวงหมายเลข 12 รองรับการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ เส้นทางยุทธศาสตร์สายเศรษฐกิจแนวตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor–EWEC)
ล่าสุด ที่นายกฯ ลุงตู่ไปติดตามโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง ระบุว่า
“...ช่วงที่ผมเป็นนายกรัฐมนตรี ผมได้เร่งรัดการขยายโครงข่ายระบบรางให้เป็น “ทางคู่” ทั้งประเทศ
โดยในระยะเร่งด่วน 4 เส้นทาง ระยะทาง 613 กิโลเมตร จะแล้วเสร็จตามแผนภายในปี 2566 นี้
สำหรับทางสายใหม่ (1) สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงบ้านไผ่ - มหาสารคาม - ร้อยเอ็ด - มุกดาหาร - นครพนม ระยะทาง 355 กิโลเมตร จะเปิดให้บริการในปี 2569
(2) สายเหนือ ช่วงเด่นชัย - เชียงราย - เชียงของ ระยะทาง 322 กิโลเมตร จะแล้วเสร็จในปี 2571
ส่วนทางคู่อีก 7 เส้นทางในระยะต่อไป ระยะทางรวม 1,479 กิโลเมตร ก็อยู่ระหว่างขออนุมัติโครงการ
ซึ่งผมคาดหวังว่าหากเราเดินหน้าได้ตามแผน ก็จะช่วยเสริมประสิทธิภาพระบบรางของไทย ให้เชื่อถือได้ สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
รองรับขบวนรถเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อยกว่า 2 เท่าตัว
ทำความเร็วสูงสุดได้เฉลี่ย 100-120 กม./ชม. จากเดิมเพียง 50 กม./ชม.
สำหรับขบวนรถสินค้าก็จะเร็วขึ้น 2 เท่าตัวเช่นกัน คือ จากความเร็วเฉลี่ยสูงสุด 29 กม./ชม. เป็น 60 กม./ชม.
ลดเวลาการเดินทาง และตรงต่อเวลามากขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเวลาในการรอหลีกขบวนรถ ลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเป็นทางเลือกที่ดีให้กับประชาชนในอนาคตด้วย
จากการไปตรวจติดตามการสร้างเส้นทางในจุดที่เป็นไฮไลท์ ของทั้งรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง ทั้งทางยกระดับและการเจาะอุโมงค์ ซึ่งต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูงและเครื่องจักรกลที่ทันสมัย ทำให้ผมมั่นใจว่าเราได้รับการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และการถ่ายทอดเทคโนโลยีกับประเทศจีนอย่างใกล้ชิด โดยสามารถที่จะต่อยอดได้เองในอนาคต ซึ่งจะทำให้การทำงานในระยะต่อไปนั้น เป็นไปอย่างรวดเร็วและพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น โดยจะมีการผลิตบุคลากรในประเทศ ที่เกี่ยวเนื่องกับระบบขนส่งทางราง และรถไฟความเร็วสูงทั้งการก่อสร้างราง-ทางยกระดับ-อุโมงค์ การควบคุมระบบเดินรถ และการซ่อมบำรุงต่างๆ อีกด้วย
ทั้งนี้ ภาพอนาคตที่ผมเห็น คือ ประเทศไทยของเราจะมีระบบขนส่งมวลชนที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างไร้รอยต่อ ทั้งถนน ราง เรือ และสนามบิน ที่ตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน ภาคธุรกิจเอกชน-ผู้ประกอบการ รวมทั้งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งยกระดับความสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์ของไทยให้โดดเด่นในเวทีโลก ส่งเสริมการสร้างรายได้ สร้างโอกาสและอนาคตที่ดีกว่าเดิมด้วยครับ” – นายกฯ ลุงตู่กล่าว
ดาวเทียมสำรวจดวงแรกของไทยในระดับ Industrial Grade เตรียมส่งขึ้นสู่อวกาศ ก.ย.66 #THEOS_2 และ ต.ค.66 #THEOS_2A
ท่าอวกาศยาน spaceport ฐานส่งและรับยานอวกาศ (ศึกษาความเป็นไปได้)
ดวงอาทิตย์ประดิษฐ์ #โทคาแมค เครื่องแรกของไทย แหล่งพลังงานสะอาด ทั่วโลกมี 5 ประเทศ (ไทยเป็น 1 ใน 5)
แลนด์บริดจ์ เปลี่ยนทิศการขนส่งโลกมาไทย
พร้อมเพย์ สังคมไร้เงินสด ฯลฯ
เรียกได้ว่า ทศวรรษแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืน ได้เดินหน้าและพัฒนาความเจริญอย่างมีเสถียรภาพมาเกือบ 10 ปี
สิ่งเหล่านี้ คือ การบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างตรงไปตรงมา เพื่อขยายความเจริญไปทุกภูมิภาค และส่งผลถึงการจ้างงาน การค้าขายทำธุรกิจต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อประเทศไทยของเราทุกคน ทั้งคนรุ่นนี้ และลูกหลานในอนาคต
อย่าให้ผลงานดีๆ ในยุคลุงตู่สูญเปล่า
คนดีไม่มีวันตาย
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี