วันพุธ ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / ทวนกระแสข่าว
ทวนกระแสข่าว

ทวนกระแสข่าว

สุทิน วรรณบวร
วันเสาร์ ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2566, 02.00 น.
หนุ่มสาวพม่าพบชะตากรรมเลวร้าย ฝันสลายการลี้ภัยในต่างประเทศ

ดูทั้งหมด

  •  

ในประเทศไทยเรา มีคนหนุ่มสาวเยาวชนคนรุ่นใหม่ ถูกครูอาจารย์ในสถาบันศึกษาและนักการเมืองปลุกระดมล้างสมอง จนถูกดำเนินคดีติดคุกติดตะรางเสียอนาคตเสียคนมาแล้ว นับร้อยๆ ราย เหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นแล้วเช่นกันกับคนรุ่นใหม่ในสหภาพพม่าที่คนหนุ่มสาวถูกปลุกระดมล้างสมองให้จับอาวุธขึ้นมาต่อสู้กับทหารที่ยึดอำนาจ โดยใช้คัมภีร์เสรีประชาธิปไตยและความเท่าเทียมกัน ปั่นหัวจนคนหนุ่มสาวให้เพ้อฝันไปว่าจะโค่นล้มรัฐบาลทหารลงได้และสถาปนาประชาธิปไตยขึ้นมาใหม่ในเร็ววัน

เป็นเวลาสิบกว่าปี ตั้งแต่ประธานาธิบดี เต็ง เส่ง เริ่มเปิดประเทศให้คนต่างชาติเข้าไปทำกิจกรรมด้านมนุษยธรรมในพม่า จนมาถึงยุครัฐบาลประชาธิปไตยที่ฝักใฝ่ตะวันตก นำโดย นางออง ซาน ซู จี เป็นนาทีทองที่เอ็นจีโอฝรั่งนับร้อยองค์กรหลั่งไหลเข้าไปตั้งสำนักงานในพม่า นอกจากฝรั่ง ที่มีวาระซ่อนเร้นเข้าไเคลื่อนไหวในพม่าแล้ว ยังมีนักการทูตตะวันตกบางประเทศที่มีเป้าหมายทำลายความมั่นคงภายในประเทศพม่า อดีตทูตอังกฤษ ทำตัวเป็นอีแอบอยู่หลายปี พอหมดวาระอดีตทูตก็แต่งงานกับนักเคลื่อนไหวทางการเมืองชาวพม่าแล้วสถาปนาตัวเอง เป็นเอ็นจีโอเคลื่อนไหวเพื่อชีวิตที่ดีกว่าของชาวพม่า ผลพวงที่เอ็นจีโอ และซีไอเอฝรั่งฝังตัวในพม่าล้างสมองคนรุ่นใหม่อยู่หลายปี


เมื่อมีการยึดอำนาจปี 2564 จึงเป็นโอกาสทองของซีไอเอกับเอ็นจีโอฝรั่งได้ปลุกระดมปั่นกระแสให้คนรุ่นใหม่พม่าออกมาต่อต้านต่อสู้กับรัฐบาลทหาร โดยที่คนรุ่นใหม่ไม่ยั้งคิดว่ากองทัพพม่าที่ปกครองประเทศมากว่า 50 ปี มีแสนยานุภาพสูงอย่างไร ผลสุดท้ายคนรุ่นใหม่พม่าต้องพบชะตากรรมอันเลวร้ายเหมือนกับนักศึกษาไทยนับพันคนหนีเข้าป่าจับปืนในปี 2520-2522ที่หลายคนตายในป่าและหลายคนพบกับชะตากรรมอันเลวร้าย

ยกเรื่องนักศึกษาไทยหนีเข้าป่ามาเป็นตัวอย่าง หลังจากอ่านรายงานพิเศษบีบีซีเวิลด์ที่พาดหัวว่า“คนหนุ่มสาวพม่าฝันสลายในการลี้ภัย”

บีบีซี ยกเอาสาวพม่าที่ใช้นามว่า ปัน ปัน เป็นตัวเดินเรื่องว่า “ปี 2562 ปัน ปัน เป็นเจ้าหน้าที่เวชทะเบียนโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ในเมืองพะโค เธอใฝ่ฝันจะเป็นหัวหน้าแผนกเวชทะเบียนของโรงพยาบาล

แต่สี่ปีให้หลัง หญิงสาววัย 25 ปี มาเป็นเด็กเสิร์ฟอาหารในกรุงเทพฯ ความฝันจะกลับบ้านในเร็ววันถูกเผาผลาญ เพราะทหารที่โหดร้ายยังคงปกครองพม่า

“ถ้าทหารไม่ยึดอำนาจฉันไม่มีวันทิ้งงานที่ฉันรัก แต่ไม่มีที่ปลอดภัยในประเทศของฉันอีกต่อไป” ตอนที่ปัน ปัน เรียนจบวิทยาลัยประเทศพม่า ยังคงเปี่ยมไปด้วยเสรีภาพและประชาธิปไตย เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวนักท่องเที่ยวนักลงทุนต่างชาติหลั่งไหลเข้ามา และแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ทหารจับนางออง ซาน ซู จี ผู้นำที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นจุดเริ่มสงครามกลางเมืองที่นองเลือด และส่งผลให้เศรษฐกิจดิ่งลงเหว

ยึดอำนาจใหม่ๆ การประท้วงต่อต้าน นำโดย เยาวชนคนหนุ่มสาว แต่นานเข้าการประท้วงเริ่มซบเซา แต่กลับมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงมากขึ้น สำหรับคนอย่างปัน ปัน ซึ่งเข้าร่วมกับขบวนการอารยะขัดขืน ที่เริ่มต้นจากการประท้วงของข้าราชการ พนักงานและลูกจ้างของรัฐต่อต้านการยึดอำนาจโดยการปฏิเสธเข้าทำงาน โดยหวังว่าเมื่อโรงพยาบาล โรงเรียน ธนาคารและหน่วยงานราชการไม่มีคนงาน รัฐบาลทหารบริหารประเทศต่อไปไม่ได้ แต่ทหารพม่า ซึ่งปกครองประเทศมานานกว่าห้าสิบปี มีบุคลากรส่งเข้าไปทำงานแทนเจ้าหน้าที่ได้บางส่วนและส่งทหารออกติดตาม เจ้าหน้าที่ให้กลับเข้าทำงาน

สำหรับ ปัน ปัน เมื่อเข้าร่วมกับขบวนการอารยะขัดขืนแล้ว ต้องต่อสู้อย่างจริงจัง ยากที่จะกลับมาทำงานได้เธอเลยกลายเป็นคนหนึ่งในหลายร้อยคนที่ถูกตามล่าหาตัว ปัน ปัน เล่าว่า เธอต้องหลบหนีเจ้าหน้าที่โดยการหลบซ่อนตัวเปลี่ยนที่นอนตามบ้านญาติ หลังโน้นคืนหลังนี้คืน ในขณะที่เพื่อนๆ เธอหลายคนถูกฆ่าตาย

ปัน ปัน ยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ได้ ในเมืองพะโค เธอเล่าว่า “ในที่สุดเพื่อนที่อยู่ในอเมริการะดมทุนหาเงินซื้อตั๋วเครื่องบินเที่ยวเดียวให้ฉันบินมาเชียงใหม่” ถึงตอนนี้
มีข้อสังเกตว่า ในเมื่อเธอหลบหนีการจับกุมของตำรวจ ทหาร ที่ระดมคนตามล่าฝ่ายต่อต้าน เป็นพันๆ นายแล้ว ปัน ปัน เดินลอยหน้าขึ้นเครื่องบินมาเชียงใหม่ได้อย่างไร

บีบีซีรายงานต่อไปว่า หน่วยงานสหประชาชาติประมาณการว่า มีชาวพม่ากว่า 70,000 คน หนีออกจากประเทศเหมือน ปัน ปัน การทะลักออกนอกประเทศด้วยใจสลายของหนุ่มสาวพม่าที่ต้องหางานทำเพื่อเลี้ยงครอบครัว ข้อมูลองค์การแรงงานนานาชาติ บ่งชี้ว่า ในพม่าคนทำงานน้อยลงกว่า 1.1 ล้านคน ในไตรมาสแรกปี 2565 เปรียบเทียบกับในห้วงเวลาเดียวกันในปี 2563

เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่ชนกลุ่มน้อยหรือ กลุ่มชาติพันธ์ุหลบหนีการกดขี่ข่มเหงจากทหารพม่าและชาวโรฮีนจาหลายแสนคน ร่วมหลบหนีกับพวกเขาด้วยในขณะที่ทหารถูกกล่าวหาว่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮีนจา ภายใต้การยึดอำนาจผู้ไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจก็ต่อต้าน นักกิจกรรมนักการเมืองตลอดถึงชาวบ้านธรรมดาพากันเบื่อหน่ายสงครามกลางเมือง อยากออกไปจากประเทศพม่า

ส่วน ปัน ปัน เมื่อหางานทำที่เชียงใหม่ไม่ได้ เธอย้ายมากรุงเทพฯในปีแรกเธอต้องเปลี่ยนงานเจ็ดครั้ง ตั้งแต่เป็นคนเลี้ยงเด็ก เป็นคนรับใช้ เป็นคนเสิร์ฟอาหาร และเป็นคนงานก่อสร้าง

ด้วยบุคลิกหน้าตาและความสามารถ ปัจจุบันเธอเป็นพนักงานเสิร์ฟอาหาร มีรายได้เดือนละ 12,000 บาท มากพอที่จะซื้ออาหารและเช่าห้องพักเล็กๆ ใกล้ที่ทำงาน

“ชีวิตในประเทศไทยลำบากมาก เพราะฉันพูดภาษาไทยไม่ได้และไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดีพอ ฉันยังไม่สามารถอยู่อย่างถูกกฎหมาย...แต่มันก็ปลอดภัยกว่า”เธอกล่าว

ปัน ปัน เชื่อว่าชื่อของเธออยู่ในแบล็คลิสต์ ทำให้เธอกลัวที่จะกลับบ้าน“แต่ฉันคิดว่าเป็นการตัดสินใจถูกต้องฉันไม่ได้มาประเทศไทย เพราะมันสะดวกสบายกว่า ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าประเทศไทยเป็นอย่างไรแต่ตอนที่อยู่พม่าฉันคิดอยู่อย่างเดียว ต้องไปจากที่นี่ให้ได้..” และด้วยความกลัวเช่นกันผลักดันให้ อูกัสติน ตั๋ง ปั่นจักรยานข้ามชายแดนจากรัฐชินไปยังเมืองมิโซรัมทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศอินเดีย กับภรรยาและลูกเล็กๆ สองคนเมื่อต้นปี 2565 เขาไม่เคยกลับไปพม่าถึงแม้สวดมนต์ภาวนาให้มีโอกาสกลับบ้าน

ตั๋ง วัย 34 ปี เป็นรองผู้อำนวยการหน่วยงานสังคมสงเคราะห์ของรัฐชิน เมื่อทหารยึดอำนาจเขาเข้าร่วมประท้วงกับขบวนการอารยะขัดขืน ด้วยความกลัวว่าอาจถูกแก้แค้นจากทหารและแรงกดดันจากการหาเลี้ยงครอบครัวทำให้เขาหนีออกจากพม่า “เป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก ผมรักประเทศของผม ผมอยากทำงานเพื่อประชาชน แต่ผมเลือกจากมาเพราะว่าชีวิตของพวกเรามีค่ากว่า” ตั๋ง กล่าวกับบีบีซี บัดนี้ตั๋งเป็นคนงานก่อสร้างรายวัน “ตอนนี้ผมไม่มีงานประจำ ผมช่วยเพื่อนๆ ทำงานและแบ่งปันรายได้กันมันก็พออยู่ได้”ตั๋งกล่าวและเสริมว่า “ผมยังมีความหวังว่าประเทศพม่าจะได้ประชาธิปไตยคืนมาด้วยการสนับสนุนจากองค์กรนานาชาติเช่นยูเอ็น...”

ไม่ใช่ทุกคนที่ออกจากพม่า เพราะความกลัว ตัวอย่าง เช่น จูเลีย ไคน์ นักศึกษาชาวพม่าที่มาศึกษาต่อในฮ่องกง และได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศพม่า ทำให้เธอไม่อยากกลับบ้าน...“ฉันอยากช่วยเหลือประเทศและเพื่อนร่วมชาติของฉันไปจากนอกประเทศพม่า” นักศึกษาวัย 21 ปี ผู้กลับบ้านครั้งสุดท้ายเมื่อสิงหาคม 2565 จูเลีย กล่าวว่า หลังจากเรียนจบ เธอจะเดินทางไปทั่วโลก “เพื่อไปพูดเรื่องความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในพม่า”ฉันรู้สึกกระอักกระอ่วนใจที่ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในขณะที่เพื่อนๆ และครอบครัวทางบ้านกำลังเผชิญกับความไร้เสถียรภาพลงทุกวัน”

จูเลียรำพึงว่ามันยากมากที่จะมีเพื่อนสนิทในฮ่องกงเพราะคนที่นี่ไม่มีความผูกพันไม่เข้าใจในความกังวลของเธอ“ฉันสยองมากที่ทหารทิ้งระเบิดจากเครื่องบินโจมตีพลเรือนพม่า แต่ฉันรู้สึกได้ว่าคนฮ่องกงไม่เข้าใจความรู้สึกของฉัน ฉันเลยต้องแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น” จูเลีย กล่าวกับบีบีซี

การโจมตีจากเครื่องบินเธอคงพูดถึงการสังหารหมู่พลเรือนกว่าร้อยคนในหมู่บ้านทางตะวันตกเฉียงเหนือของพม่า เพราะชาวฮ่องกงไม่เข้าใจสถานการณ์ในพม่าจูเลียก็เลยไม่พูดเรื่องที่บ้านเกิดของเธอกับชาวฮ่องกง

ปัน ปัน ในเวลาเดียวกันก็คิดถึงครอบครัวและเพื่อนๆ มาก แต่เธอเฝ้าบอกตัวเองว่า ฉันเป็นคนโชคดีที่สุดคนหนึ่ง “เพื่อนๆ ของฉันหลายคนยังคงหลบซ่อนตัวย้ายที่นอนบ้านโน้นทีบ้านนี้ที บางคนถูกฆ่าตาย...ฉันเตือนสติตัวเองเสมอว่า ชีวิตของพวกเขาลำบากกว่าฉันมาก ฉันต้องเข้มแข็งเข้าไว้” ปัน ปัน กล่าวสรุป

ปัน ปัน จูเลีย และ ตั๋ง คือ ตัวอย่างเพียงน้อยนิดของหนุ่มสาวชาวพม่า เชื่อว่ามีคนรุ่นใหม่พม่าหลายพันคนตกเป็นเหยื่อการล้างสมองของชาวตะวันตก ทั้งจากเอ็นจีโอ ซีไอเอ ตลอดถึงนักการทูตประเทศมหาอำนาจที่ดราม่าให้หนุ่มสาวพม่าคลั่งประชาธิปไตยและหลงเชื่ออย่างสนิทใจว่าประเทศมหาอำนาจและชาติตะวันตกต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับชาวพม่าผู้รักประชาธิปไตย ปัน ปัน และตั๋งถึงได้ทิ้งหน้าที่การงานที่กำลังก้าวหน้า ลงถนนและเข้าป่าเพื่อต่อสู้กับกองทัพอันเกรียงไกรของสหภาพพม่า

ยังมีคนรุ่นใหม่ในพม่าอีกนับพันนับหมื่นที่หลงเชื่อแผนการชั่วร้ายของชาติตะวันตกเข้าป่าจับปืนร่วมมือกับกองกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์ต่อสู้กับทหารพม่าซึ่งมีรายงานว่าพวกที่เข้าป่าจำนวนมากหนีมาอยู่ในเมืองชายแดนประเทศอินเดียและประเทศไทย ในอนาคตอันใกล้นี้หนุ่มสาวพม่าจะพบกับชะตากรรมเดียวกับหนุ่มสาวไทยที่เข้าป่าจับปืนในทศวรรษที่ 2520-2522 ส่วนเหตุการณ์เฉพาะหน้าคนรุ่นใหม่พม่าได้พบชะตาอันเลวร้ายเหมือนที่คนรุ่นใหม่ไทยกำลังเผชิญอยู่ จะแตกต่างกันอยู่บ้างตรงที่คนรุ่นใหม่ไทยเสี่ยงติดคุกติดตะราง ส่วนคนรุ่นใหม่พม่าอาจเสี่ยงกับความตาย และลี้ภัยอย่างฝันสลายเหมือน ปัน ปัน และกับ ตั๋ง ที่บีบีซีใช้เป็นชื่อจัดตั้งในรายงานพิเศษ

 

สุทิน วรรณบวร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
19:02 น. 'บิ๊กเต่า'ยันไม่ใช่การเตะตัดขา มองโทษคดี 'ศรีสุวรรณ' กับพวกยังน้อยเกินไป
18:53 น. แรงมาก!!! 'นิพิฏฐ์'บอก'ภูมิใจไทย'ดูด ส.ส. จนมีเสียงข้างมาก ส่วน ปชน. ยังกอด MOA อยู่
18:51 น. แก้ปีภาษีด้วยปากกา! หนุ่มกระบะไม่รอดด่าน ถูกแจ้งข้อหาหนัก'ใช้เอกสารราชการปลอม'
18:48 น. ทบ.แจงไทยใช้ 'แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง' ตามหลักสากล ป้องกันลุกลามจลาจล
18:47 น. 'ลิซ่า ลลิษา'สวยหวานละมุน! ปรากฎตัวสุดเซอร์ไพรส์ในงาน'Busan Film Festival'
ดูทั้งหมด
ออกครบแล้ว! ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 กันยายน 2568
'เพลง ชนม์ทิดา'ร่ายความในใจ หลังถูกจับตาความสัมพันธ์'เป๊ก เศรณี'
น้ำตาคลอทั้งโซเชียล! 'เกลือ'ตั้งคำถาม'ทำไมทหารพรานต้องใส่ชุดดำ' ได้คำตอบสุดสะเทือนใจ
‘ในหลวง-พระราชินี’ เสด็จฯทอดพระเนตรการแสดงกายกรรมจากจีน
'มล.รจนาธร'โพสต์ขอบคุณ'ลิซ่า ลลิษา' สวมจิวเวลรีแบรนด์ไทยในลุค After party Emmy Awards
ดูทั้งหมด
ทหารมีไว้‘กรี๊ด’ปรากฏการณ์‘ลุงแม่ทัพ’
เยาวชนกับการต่อต้านคอร์รัปชัน : เราจะปลูกฝังคนรุ่นใหม่ให้โตมาโดยไม่ยอมรับความผิดปกติได้อย่างไร
แดงและฟ้าฝ่าวิกฤต?
โอกาสคืนชีพของพรรคประชาธิปัตย์ ตัดสินใจเพื่ออนาคต
บุคคลแนวหน้า : 17 กันยายน 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'บิ๊กเต่า'ยันไม่ใช่การเตะตัดขา มองโทษคดี 'ศรีสุวรรณ' กับพวกยังน้อยเกินไป

'ลิซ่า ลลิษา'สวยหวานละมุน! ปรากฎตัวสุดเซอร์ไพรส์ในงาน'Busan Film Festival'

แก้ปีภาษีด้วยปากกา! หนุ่มกระบะไม่รอดด่าน ถูกแจ้งข้อหาหนัก'ใช้เอกสารราชการปลอม'

เปิดผลชันสูตร ด.ญ. 2 เดือน ถูกพิตบูลขย้ำ แม่ใจสลายรับศพร่ำไห้ระงม

รับจ้างรายวันไม่พอกิน!!! หันมาขายปูนาสด ฟันรายได้วันละ 2 พัน

'อรรถวิชช์'แก้เก้อ อวยฉ่ำ'พีระพันธุ์'ทำแต่งานไม่ได้หวังนั่งนายกฯ

  • Breaking News
  • \'บิ๊กเต่า\'ยันไม่ใช่การเตะตัดขา มองโทษคดี \'ศรีสุวรรณ\' กับพวกยังน้อยเกินไป 'บิ๊กเต่า'ยันไม่ใช่การเตะตัดขา มองโทษคดี 'ศรีสุวรรณ' กับพวกยังน้อยเกินไป
  • แรงมาก!!! \'นิพิฏฐ์\'บอก\'ภูมิใจไทย\'ดูด ส.ส. จนมีเสียงข้างมาก ส่วน ปชน. ยังกอด MOA อยู่ แรงมาก!!! 'นิพิฏฐ์'บอก'ภูมิใจไทย'ดูด ส.ส. จนมีเสียงข้างมาก ส่วน ปชน. ยังกอด MOA อยู่
  • แก้ปีภาษีด้วยปากกา! หนุ่มกระบะไม่รอดด่าน ถูกแจ้งข้อหาหนัก\'ใช้เอกสารราชการปลอม\' แก้ปีภาษีด้วยปากกา! หนุ่มกระบะไม่รอดด่าน ถูกแจ้งข้อหาหนัก'ใช้เอกสารราชการปลอม'
  • ทบ.แจงไทยใช้ \'แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง\' ตามหลักสากล ป้องกันลุกลามจลาจล ทบ.แจงไทยใช้ 'แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง' ตามหลักสากล ป้องกันลุกลามจลาจล
  • \'ลิซ่า ลลิษา\'สวยหวานละมุน! ปรากฎตัวสุดเซอร์ไพรส์ในงาน\'Busan Film Festival\' 'ลิซ่า ลลิษา'สวยหวานละมุน! ปรากฎตัวสุดเซอร์ไพรส์ในงาน'Busan Film Festival'
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

เนปาลได้นายกฯเฉพาะกิจที่ผู้ประท้วงคนรุ่นใหม่หรือ Gen Z จัดให้

เนปาลได้นายกฯเฉพาะกิจที่ผู้ประท้วงคนรุ่นใหม่หรือ Gen Z จัดให้

16 ก.ย. 2568

จีนจัดระเบียบกัมพูชา ก่อนอาเซียนซัมมิตเดือนตุลาคม

จีนจัดระเบียบกัมพูชา ก่อนอาเซียนซัมมิตเดือนตุลาคม

13 ก.ย. 2568

จีนแสดงพลังยิ่งใหญ่ของโลกใต้ท่ามกลางสงครามการค้ากับสหรัฐ

จีนแสดงพลังยิ่งใหญ่ของโลกใต้ท่ามกลางสงครามการค้ากับสหรัฐ

12 ก.ย. 2568

วันที่ 9 เดือน 9 ขอให้เสนียดจัญไร สิ่งชั่วร้ายออกไปไกลแสนไกล

วันที่ 9 เดือน 9 ขอให้เสนียดจัญไร สิ่งชั่วร้ายออกไปไกลแสนไกล

9 ก.ย. 2568

แผนการหนีศาลของทักษิณ ชินวัตร

แผนการหนีศาลของทักษิณ ชินวัตร

6 ก.ย. 2568

อย่าทำให้ทหารเสียน้ำตามากกว่านี้

อย่าทำให้ทหารเสียน้ำตามากกว่านี้

5 ก.ย. 2568

ค่ายแดงร่วงค่ายน้ำเงินรุ่ง

ค่ายแดงร่วงค่ายน้ำเงินรุ่ง

2 ก.ย. 2568

ประชุมสันติภาพยูเครนที่สหรัฐอเมริกามีแต่ได้กับได้

ประชุมสันติภาพยูเครนที่สหรัฐอเมริกามีแต่ได้กับได้

30 ส.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved