ไม่รู้เพราะอะไร เรารู้สึกนึกถึงคำสอนจาก “บรรพบุรุษ”ของท่านผู้ทรงเกียรติ/วิโรจน์ ลักขณาอดิสร สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่ว่าเอาชนะความดื้อด้าน “ต้องด้านต้องหนากว่า” เพราะกรณีของ “นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร”ที่ถูกยกให้เป็นเทวดาของ “อภิชาตบุตรี/อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร”
ดูกรบัดเดี๋ยวนี้ “นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร” ยังได้รับอภิสิทธิ์สร้างความเหลื่อมล้ำเหนือประชาชนทั่วไป ต้องคำพิพากษาตามที่รับสารภาพ 8 ปี ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากล้นเกล้าฯพระราชทานอภัยลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี แต่ด้วยบทบาทการละครจึงนอนในฐานะผู้ป่วยบนเตียงนุ่มๆ พร้อมเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ
จะเป็นเพราะสรรพกำลัง ทั้งอิทธิพลทางการเงิน การเมืองและติ่งแดงแฟนคลับหรืออะไรก็ตามทีแต่พฤติการณ์นี้เป็นขบวนการที่รัฐ ต้องเร่งขจัดปัญหารักษาผลประโยชน์ของสังคมไทยและประชาชนจำนวนหนึ่งที่เลือกท่านมาจัดตั้งรัฐบาลบริหารดูแลทุกข์สุขประชาชน (ในกรณีที่รัฐไม่ได้สมคบคิดร่วมอยู่ในกระบวนการร่วมมือช่วยเหลือครั้งนี้)
แน่นอนการเป็นส่วนร่วมส่วนหนึ่งเสี้ยวหนึ่งย่อมมีความจำเป็นที่ต้องยอมถ่มน้ำลายรดฟ้าปล่อยให้ความเหลื่อมล้ำทางสังคมนี้ดำรงอยู่ต่อไป เพื่อบันทึกเป็นประวัติศาสตร์เป็นตำนานเป็นข้อมูลในชีวประวัติและวงศ์ตระกูลท่านสืบไปชั่วลูกชั่วหลาน โดยเฉพาะ “หนูน้อยถุงเท้าหลากสี/เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้บริหารรัฐ -ผู้นำรัฐบาล
แต่อย่างไร “ระยะทาง พิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” ฉันใดก็ฉันนั้น “ภารกิจนี้มีเวลาจำกัดในการพิสูจน์คุณค่า ที่อาจหมายถึงผลงาน ศรัทธา และการยอมรับในวันข้างหน้าผ่านการเดินเข้าคูหากากบาทเลือกตั้งครั้งต่อไป”
ทว่าบุคคลสำคัญในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยในฐานะสายตรงที่มีเลือดมีดีเอ็นเอตรงจาก “นักโทษเด็ดขาดชาย” รายนี้เก็บอาการไม่อยู่จนคล้ายกับว่ารู้ล่วงหน้าว่า “โจรเทวดา” ที่เคารพรักจะได้รับการพักโทษพยากรณ์ล่วงหน้าได้ว่าเส้นทางชะตากรรมของ “นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร” จะดำเนินการอย่างไร
สังคมลองค่อยๆ หลับตาจินตนาการเรื่องราวจากคำสัมภาษณ์ของ “อภิชาตบุตรี” คนนี้เถอะ นางว่า“ยังไม่ได้รับรายงานจากคนกันเอง “พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม” เป็นเรื่องที่คุณพ่อ “ทักษิณ ชินวัตร”ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายเองทางครอบครัวก็แค่เตรียมความพร้อมที่บ้าน (จันทร์ส่องหล้า) เพราะอยากให้ออกมาตลอดอยู่แล้ว ซึ่งเตรียมตั้งแต่คุณพ่อกลับมาถึงเมืองไทยแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเตรียมการ”
คาดการณ์เตรียมการได้อย่างแม่นยำล่วงหน้า จะผิดเพี้ยนก็ตรงที่ไม่สามารถใช้ “บ้านจันทร์ส่องหล้า”เป็นสถานที่คุมขังนักโทษเด็ดขาดชายรายนี้ตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ที่ออกในยุคของ สมศักดิ์เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม รัฐบาล ลุงตู่/พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
ก็คงไม่ต้องแปลกใจดอก หากว่า 18 กุมภาพันธ์2567 นี้ “นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร”จะออกมาสูดกลิ่นความเจริญแบบก้าวไกลที่ “ทัณฑสถานจันทร์ส่องหล้า”
เราขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับความหวังตั้งใจแต่แรกที่ “นักโทษเด็ดขาดชาย ทักษิณ ชินวัตร”
กลับมาตุภูมิ และดีใจกับการเจริญเติบโตสุดประมาณของความเหลื่อมล้ำของสังคมไทยที่เกิดขึ้น
“เราไม่สามารถทำให้คนรวยเหมือนกันหมดแต่เราต้องทำให้ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน” หลักการยังคงอยู่กับบริบทการเมืองไทยยังคงความถูกต้องอยู่ใช่หรือไม่
เราขอแสดงความชื่นชมความวิริยอุตสาหะในความกตัญญู กตเวทิตา ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญยิ่งของมนุษย์
ขณะเดียวกันเราขอแสดงความเสียใจอาลัยต่อการจากไปของกระบวนการยุติธรรม
ท้ายที่สุดเราขอสมเพชกับพฤติกรรมพฤติการณ์ของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ร่วมกันสร้างความอัปยศให้กระบวนการยุติธรรมไทยในครั้งนี้
เราขอให้กระบวนการยุติธรรมไทยไปสู่สัมปรายภพ ภพภูมิที่สงบอย่างแท้จริง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี