วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / มองอย่างไท
มองอย่างไท

มองอย่างไท

ปิยะ เนตรวิเชียร
วันจันทร์ ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2567, 02.00 น.
ผู้ที่คิดร้ายต่อแผ่นดิน ต้องมีอันเป็นไป

ดูทั้งหมด

  •  

หากจะย้อนไปศึกษาประวัติศาสตร์ของชาติเมื่อประมาณ 300 ปีเศษที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในสมัยอาณาจักรอยุธยานั้น จะมีเรื่องของบุคคลต่างชาติผู้ที่ได้มีโอกาสเข้ามาอยู่ในประเทศไทย และได้เข้ารับราชการแผ่นดินจนมียศในระดับที่สูงมาก คงจะไม่มีใครเทียบได้กับเจ้าพระยาวิไชเยนทร์

ชาวต่างชาติรายนี้มีชื่อจริงว่านายคอนสแตนติน ฟอลคอน มีชื่อเดิมว่า คอนสแตนติโน เยรากี เป็นชาวกรีก ที่เดิมเชื่อกันว่าเป็นพวกร่อนเร่พเนจร แต่ภายหลัง ได้มีการกล่าวอ้างว่าเขามาจากครอบครัวที่มีเชื้อสายกษัตริย์ แต่ที่แน่นอนก็คือ นายคอนสแตนติน ฟอลคอน นี้ได้ออกจากประเทศกรีกมาตั้งแต่อายุยังไม่มากนัก โดยน่าจะติดมากับเรือสำเภาสินค้าของพ่อค้าชาวอังกฤษ และในที่สุดได้มาอยู่ที่ เมืองบันตัม เกาะชวา เข้าทำงานกับบริษัทอินเดียตะวันออกซึ่งเป็นบริษัทค้าไม้สักรายใหญ่มากในอดีต


จากการที่อาศัยเรือสำเภาของพ่อค้า และมีโอกาสเดินทางไปในหลายประเทศ ทำให้บุคคลผู้นี้มีความสามารถในการพูดภาษาได้หลายภาษา นอกจากภาษากรีกซึ่งเป็นภาษาแม่แล้ว ยังสามารถพูดภาษาอิตาลี อังกฤษ โปรตุเกส และมลายู ตลอดจนฟังภาษาฝรั่งเศสเข้าใจได้ และในที่สุดเมื่อมาอาศัยอยู่ในกรุงศรีอยุธยา โดยยังทำงานอยู่กับบริษัทอินเดียตะวันออก ก็สามารถพูดภาษาไทยได้เป็นอย่างดี และได้อาศัยความสามารถพิเศษนี้ ลักลอบทำการค้าแสวงหาประโยชน์เข้าตัวด้วย

การที่ได้อาศัยอยู่ในประเทศไทย และมีความสามารถในการใช้ภาษา จึงได้มีโอกาสในการทำหน้าที่ล่าม และได้เข้ารับราชการในราชสำนักของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชในปีพุทธศักราช ๒๒๒๓ โดยเข้ารับราชการในกรมพระคลังสินค้า นับเป็นชาวตะวันตกคนแรกที่เข้ารับราชการในสมัยอยุธยา เป็นตัวกลางการค้าขายระหว่างอยุธยากับฝรั่งเศส ได้รับความไว้วางใจจากสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเป็นอย่างมาก หลังจากรับราชการไม่นานนักจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นออกหลวงสุรสาคร มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระนารายณ์และกราบบังคมทูลเรื่องวิทยาการ และความเจริญก้าวหน้าของโลกตะวันตกเป็นประจำ

จากการที่มีความสามารถหลายด้าน ในปีพุทธศักราช ๒๒๒๘ จึงได้รับการเลื่อนยศเป็นออกพระฤทธิกำแหงภักดี และจากการแอบแฝงค้าขายเพื่อหาประโยชน์ใส่ตัวดังที่เคยชิน ทำให้มีความมั่งคั่งร่ำรวยมากขึ้นจนสร้างคฤหาสน์ได้ ทั้งที่พระนครศรีอยุธยาและที่เมืองลพบุรี

ในปีเดียวกันนี้ เขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ต้อนรับคณะทูตชุดแรกจากราชสำนักฝรั่งเศส และเป็นผู้แทนฝ่ายไทยในการเจรจาความเมือง จึงเป็นโอกาสทอง ในการฉกฉวยประโยชน์ด้วยการสร้างความสนิทสนมเพื่อให้เกิดความประทับใจ กับคณะทูต รวมทั้งหาช่องทางให้เป็นที่โปรดปรานจากราชสำนักฝรั่งเศส

การที่เป็นผู้มีความทะเยอทะยานสูง จึงมีการวางแผนว่าหากเกิดเคราะห์ร้าย ต้องถูกเนรเทศจากเมืองไทย ก็จะสามารถอาศัยฝรั่งเศสเป็นที่พักพิงได้ แต่ที่ร้ายกว่านั้นก็คือ ในช่วงเวลานั้นสมเด็จพระนารายณ์เริ่มมีพระอาการประชวรในลักษณะที่เรื้อรัง จึงได้วางแผนที่จะให้ฝรั่งเศสมีโอกาสเข้ามายึดครองอาณาจักรอยุธยา ด้วยการส่งกองกำลังทหารเข้ามาเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการยึดอำนาจ ซึ่งสมเด็จพระนารายณ์ทรงยังมิได้ระแคะระคาย และยังทรงแต่งตั้งให้เขาได้รับตำแหน่งสูงสุดฝ่ายพลเรือนเป็นถึงที่สมุหนายก ในราชทินนามว่าเจ้าพระยาวิไชเยนทร์

แต่ความคิดและแผนการดังกล่าว มิได้รอดพ้นไปจากสายตาของกลุ่มขุนนางที่มีพระเพทราชาและออกพระวิสุทธสุนทรหรือโกษาปานซึ่งเป็นเอกอัครราชทูตไทยที่ไปเจริญสัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศสเป็นหลัก โดยเมื่อสมเด็จพระนารายณ์ทรงมีพระอาการประชวรมากขึ้น เจ้าพระยาวิไชเยนทร์ก็เริ่มวางแผนที่จะให้โอรสของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทน และคิดจะกำจัดภายหลัง

ในช่วงนั้นสมเด็จพระนารายณ์มหาราชไม่อาจจะบริหารราชการแผ่นดินได้ จึงโปรดให้พระเพทราชาทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จึงเป็นโอกาสให้ พระเพทราชาและพรรคพวกจับตัวเจ้าพระยาวิไชเยนทร์ และนำตัวไปประหารชีวิตที่วัดซาก ข้างทะเลชุบศรที่อยู่ในเขตเมืองลพบุรี เมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๒๓๑ เป็นการจบชีวิตของนักผจญภัยผู้ยิ่งใหญ่ ที่ได้รับการเลี้ยงดูจากราชอาณาจักรสยาม มีความพรั่งพร้อมด้วยเกียรติยศและเงินตรา แต่ก็คิดคดทรยศต่อแผ่นดิน โดยคิดกระทำการแม้แต่การล้มล้างพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นผู้ที่ทรงอุปถัมภ์ค้ำชูมาโดยตลอด

ข่าวการประหารชีวิตเจ้าพระยาวิไชเยนทร์ได้ไปถึงสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ถึงแม้พระองค์จะทรงกริ้วแต่ก็ไม่สามารถจะกระทำการใดๆ ได้ และในที่สุดพระองค์ก็เสด็จสวรรคต ทำให้พระเพทราชาได้กระทำการปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์ เพื่อปกครองกรุงศรีอยุธยาต่อจากพระองค์

หลังจากสมเด็จพระเพทราชาได้ขึ้นครองราชย์แล้ว เนื่องจากไม่ทรงโปรดต่อการที่มีชาวต่างชาติเข้ามาทำการค้าขายในกรุงศรีอยุธยาเป็นจำนวนมาก ซึ่งในระยะยาวอาจจะเกิดผลเสียด้านความมั่นคงต่อแผ่นดิน รวมทั้งการที่ได้ทราบระแคะระคายว่าฝรั่งเศสได้คิดกำเริบเสิบสานที่จะยึดเอาอาณาจักรกรุงศรีอยุธยาเป็นของตนเอง จึงได้เกิดการต่อสู้กับกองทหารฝรั่งเศสที่มาตั้งอยู่ ณ เมืองบางกอก จนดำเนินการขับไล่ออกไปทั้งหมด รวมทั้งชาวต่างชาติทุกชาติที่มาอาศัยอยู่ และทำการค้าขายในกรุงศรีอยุธยาออกไปทั้งหมด

ประวัติศาสตร์ของชาติไทย ที่ดำรงคงอยู่มานานน่าจะมากกว่า ๘๐๐ ปีแล้วนั้น จะเห็นว่าการปกครองของชาติเรา ผู้ที่ดำรงตำแหน่งสูงสุดคือพระมหากษัตริย์ และถึงแม้จะมีการปรับเปลี่ยนแผ่นดินและปรับเปลี่ยนราชวงศ์ในหลายครั้ง แต่พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ก็ทรงมีความยึดมั่นในการที่จะสร้างความเป็นปึกแผ่นและมั่นคง ตลอดจนความเจริญก้าวหน้าให้กับชาติของเรามาโดยตลอด

รัฐบาลเองก็ควรจะศึกษาและนำบทเรียนในประวัติศาสตร์มาใช้ในการบริหารประเทศชาติเช่นกัน หากการบริหารนั้นไม่ยึดหลักของกฎหมาย ระเบียบและความถูกต้องยุติธรรมที่มีอยู่  ก็ย่อมจะก่อให้เกิดปัญหาในทุกๆด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากการบริหารนั้นเป็นไปเพื่อประโยชน์ของส่วนตนหรือพรรคพวก ไม่ว่าจะเพราะสายสัมพันธ์หรืออำนาจทรัพย์สินเงินตรา ที่เป็นเครื่องยั่วเย้าให้หลงกระทำผิดได้ ย่อมก่อให้เกิดปัญหาอย่างแน่นอน

การที่รัฐบาลพยายามอุ้มคนที่ถูกศาลพิจารณาตัดสินว่ามีความผิดแล้วในหลายกระทง  ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของการปฏิบัติราชการโดยมิชอบ คดโกง และขณะนี้ก็มิได้ถือสัญชาติไทยแล้ว ให้กลับเข้ามายังประเทศไทย และได้รับสิทธิพิเศษ หลายประการ ตลอดจนการเอื้ออำนวยให้เกิดการขอพระราชทานอภัยโทษ โดยมากล่าวในภายหลังว่าถูกยัดข้อหา ทั้งๆ ที่ ในคำขอพระราชทานอภัยโทษ ได้เขียนไว้ชัดเจนว่า เคารพในกระบวนการยุติธรรม ยอมรับผิดในการกระทำ มีความสำนึกในความผิด จึงขอรับโทษตามคำพิพากษาคดี แต่เมื่อได้รับพระราชทานอภัยลดโทษแล้ว กลับมิได้กระทำการเพื่อที่จะสนองพระบรมราชโองการที่ให้อภัยลดโทษจาก ๘ ปีเหลือ ๑ ปี ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้แล้ว รัฐบาล โดยผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง ก็ยังคงใช้ระเบียบต่างๆ ในการจัดการให้มีการลดโทษ บรรเทาโทษ โดยอ้างเหตุต่างๆ จนทำให้นักโทษผู้นี้ไม่ได้อยู่ในคุกหรือถูกจองจำ ในทัณฑสถานแม้แต่เพียงวันเดียว อันเป็นเรื่องที่ขัดต่อความรู้สึกของประชาชนทั่วไปและสังคมเป็นอย่างยิ่ง จนมีความรู้สึกเหมือนกับว่ากระบวนการยุติธรรมได้ถูกเหยียบย่ำไปหมดแล้ว

เพราะแม้แต่คำตัดสินของศาลสถิตยุติธรรม ซึ่งมีการกำหนดโทษไว้ชัดเจน โดยพระมหากษัตริย์มีพระราชอำนาจในการที่จะพระราชทานอภัยโทษหรือลดโทษให้ได้ เมื่อพระองค์ได้ทรงมีพระวินิจฉัยแล้วก็ยังมีการใช้ระเบียบและตัวบทกฎหมาย ซึ่งถูกเขียนขึ้นในหลายรูปแบบ ในการลบล้างอำนาจคำสั่งทั้งของศาล และพระบรมราชโองการได้ เป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นในแผ่นดินไทยเป็นอันขาด

และหากรัฐบาลยังคงบริหารชาติบ้านเมืองโดยไม่ยึดหลักกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมไว้ให้มั่นคง ละเลยต่อกฎระเบียบ หรือเลี่ยงในการใช้กฎระเบียบในการดำเนินการเรื่องใดๆ ก็แล้วแต่ ก็คาดหวังได้เลยว่าในที่สุดถึงแม้จะใช้การบริหารแบบประชานิยม แต่ก็จะเกิดความเสื่อมศรัทธามากขึ้นและมากขึ้น อันอาจจะเป็นเหตุให้ต้องพ้นจากหน้าที่ ไปในระยะเวลาอีกไม่นานจากนี้

และใครก็ตามที่คิดคดทรยศต่อประเทศชาติ ก็จะต้องถูกกำจัดไป

ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
15:41 น. แอดมิทด่วน! 'เอ๊ะ จิรากร'เล่าประสบการณ์หัวใจเต้นผิดปกติ
15:40 น. 'อนุสรณ์'แนะเปิดใจรับฟังเหตุผลงบรีโนเวตสภาฯ ไม่ใช่ตัดสินไปก่อน
15:35 น. สองผัวเมียอารมณ์ดี! ‘ขายหอยครก 6 ราง’ ทำขายแทบไม่ทัน-ลูกค้าเพียบ
15:20 น. ป่วนใต้หลายจุด! จุดไฟเผากล้อง-แขวนป้าย-วางวัตถุต้องสงสัย 3 อำเภอในยะลา
15:14 น. 'ทวี'เผย'กกต.'ประสาน'ดีเอสไอ'แปะหมายเรียกหน้าบ้าน 6 สว. คดีฮั้ว
ดูทั้งหมด
ภาพอบอุ่นใจความรักที่งดงามของ 'กษัตริย์จิกมี-สมเด็จพระราชินี-เจ้าชาย-พระธิดา' ในยามค่ำคืนของทะเลทรายโกบี
(คลิป) 'ฐปณีย์' เละคาบ้าน! ด้อยค่าคนไม่เห็นด้วย 'เมียจ่าปืน' ออกโรงตอกกลับไม่ใช่ IO
‘ลาออก’ไปเถอะ! ฉะ‘นายกฯ’มีสติปัญญาแค่นี้ แผ่นเสียงตกร่องชู‘กาสิโน’แก้เศรษฐกิจ
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 4-10 พ.ค.68
หยามเกียรติธงชาติไทย! ทนายแจ้งเอาผิด โพสต์เฟสบุ๊คดูหมิ่น'ธงคือผ้าเช็ดเท้า'
ดูทั้งหมด
อวสาน‘ทักษิณ’คุกรออยู่
ความต่างของ สิงคโปร์ กับ ไทย
คุกนรก (1)
นักการเมือง ‘ส้มสารพิษ’
บุคคลแนวหน้า : 9 พฤษภาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'อนุสรณ์'แนะเปิดใจรับฟังเหตุผลงบรีโนเวตสภาฯ ไม่ใช่ตัดสินไปก่อน

แอดมิทด่วน! 'เอ๊ะ จิรากร'เล่าประสบการณ์หัวใจเต้นผิดปกติ

เศร้า! ช้างป่ากุยบุรีขาเจ็บล้มแล้ว สะเทือนใจผลชันสูตร

ปตท. ลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติส่วนเพิ่มแหล่งอาทิตย์เสริมความมั่นคงพลังงานไทย

'ทวี'เผย'กกต.'ประสาน'ดีเอสไอ'แปะหมายเรียกหน้าบ้าน 6 สว. คดีฮั้ว

วัฒนธรรมโบราณ! พิธีล้างพระธาตุศรีสองรัก สักขีพยานสัมพันธไมตรีสองแผ่นดิน 465 ปี

  • Breaking News
  • แอดมิทด่วน! \'เอ๊ะ จิรากร\'เล่าประสบการณ์หัวใจเต้นผิดปกติ แอดมิทด่วน! 'เอ๊ะ จิรากร'เล่าประสบการณ์หัวใจเต้นผิดปกติ
  • \'อนุสรณ์\'แนะเปิดใจรับฟังเหตุผลงบรีโนเวตสภาฯ ไม่ใช่ตัดสินไปก่อน 'อนุสรณ์'แนะเปิดใจรับฟังเหตุผลงบรีโนเวตสภาฯ ไม่ใช่ตัดสินไปก่อน
  • สองผัวเมียอารมณ์ดี! ‘ขายหอยครก 6 ราง’ ทำขายแทบไม่ทัน-ลูกค้าเพียบ สองผัวเมียอารมณ์ดี! ‘ขายหอยครก 6 ราง’ ทำขายแทบไม่ทัน-ลูกค้าเพียบ
  • ป่วนใต้หลายจุด! จุดไฟเผากล้อง-แขวนป้าย-วางวัตถุต้องสงสัย  3 อำเภอในยะลา ป่วนใต้หลายจุด! จุดไฟเผากล้อง-แขวนป้าย-วางวัตถุต้องสงสัย 3 อำเภอในยะลา
  • \'ทวี\'เผย\'กกต.\'ประสาน\'ดีเอสไอ\'แปะหมายเรียกหน้าบ้าน 6 สว. คดีฮั้ว 'ทวี'เผย'กกต.'ประสาน'ดีเอสไอ'แปะหมายเรียกหน้าบ้าน 6 สว. คดีฮั้ว
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

เศรษฐกิจไทย จะล่มสลายหรือไม่

เศรษฐกิจไทย จะล่มสลายหรือไม่

5 พ.ค. 2568

รัฐบาลที่รุกรบไม่เป็น ก็ยอมแพ้เถอะ

รัฐบาลที่รุกรบไม่เป็น ก็ยอมแพ้เถอะ

28 เม.ย. 2568

ไทย ต้องไม่ทำตัวเป็นประเทศราช

ไทย ต้องไม่ทำตัวเป็นประเทศราช

21 เม.ย. 2568

ของขวัญปีใหม่ไทย ต้องไม่ใช่บ่อนกาสิโน

ของขวัญปีใหม่ไทย ต้องไม่ใช่บ่อนกาสิโน

13 เม.ย. 2568

แผ่นดินไหว ลางร้ายของรัฐบาลหรือ

แผ่นดินไหว ลางร้ายของรัฐบาลหรือ

7 เม.ย. 2568

รัฐบาลที่ดี ต้องสร้างความไว้วางใจให้ประชาชน

รัฐบาลที่ดี ต้องสร้างความไว้วางใจให้ประชาชน

31 มี.ค. 2568

คนไหนสร้างหนี้ คนนั้นก็ต้องใช้หนี้

คนไหนสร้างหนี้ คนนั้นก็ต้องใช้หนี้

24 มี.ค. 2568

โปรยทาน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของชาติหรือ

โปรยทาน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของชาติหรือ

17 มี.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved