ปัจจุบัน การซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล มีการซื้อขายผ่านแอปเป๋าตัง– ถูกกฎหมาย ขาย 80 บาทต่อใบจริงๆ
และซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มเอกชน ในราคาแพงกว่า80 บาทต่อใบ แต่ใช้กลวิธีการตลาด การโฆษณาชวนเชื่อ ชักจูงให้คนมาซื้อของตัวเอง
ทั้งๆ ที่ เรื่องนี้น่าจะชัดเจนไปแล้วว่า ผิดกฎหมายไม่สามารถกระทำได้
แต่ยังทำการค้าขายอย่างอุกอาจ เงินหมุนเวียนงวดละหลายร้อยล้านบาท ไม่ยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง
1. ความจริง สลากกินแบ่งรัฐบาลราคา 80 บาท มีจำหน่ายผ่านทางมือถือ แอปเป๋าตัง อย่างถูกกฎหมาย
ไม่ว่าจะซื้อกี่ใบ เลขสวยหรือไม่สวย ก็ซื้อในราคาใบละ80 บาท
ไม่มีค่าบริการเพิ่มเติมใดๆ ทั้งสิ้น
งวดล่าสุด 16 พ.ค. นี้ จะมีจำหน่ายผ่านแอปเป๋าตังเพิ่มเป็น 24 ล้านใบ
เพียงแต่ไม่มีการทำการตลาด โฆษณาชวนเชื่อ ประชาสัมพันธ์ เหมือนแพลตฟอร์มขายสลากเอกชน
2. สมัยรัฐบาลลุงตู่ เคยมีการตรวจสอบดำเนินคดีแพลตฟอร์มขายสลากเอกชนไปแล้ว
บางราย อาทิ “กองสลากพลัส” มีข่าวคราวยอดขายปีละเกือบสองหมื่นล้านบาท, เคยขายสลากวันเดียวมากกว่า 4 ล้านฉบับ, อ้างว่าสามารถจ่ายเงินปันผล 1.25% ต่อเดือน หรือ 15% ต่อปี ปันผลได้ทุกเดือน, ทุ่มซื้อสื่อโฆษณา ทั้งในทีวี สื่อออนไลน์ ป้ายบิลบอร์ดโฆษณา จัดอีเว้นท์ มีดารา นักร้อง คนดัง เพจดังอินฟลูฯ สนับสนุนสร้างภาพลักษณ์มากมาย เอิกเกริก ฯลฯ
ขณะนั้น สถานีข่าวท็อปนิวส์นั่นเองที่ลุยตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง
“กองสลากพลัส” ขายสลากในราคาบวกค่าบริการเพิ่มอีกประมาณ 22 บาทต่อฉบับ และบวกภาษีมูลค่าเพิ่มอีก ทำให้ผู้ซื้อต้องจ่ายเฉลี่ยประมาณ 103 บาทต่อฉบับ
ในที่สุด ศาลตัดสินชี้ขาดไปแล้วว่า เป็นการขายสลากเกินราคาตามกฎหมาย และสั่งปิดแพลตฟอร์มถาวร
3. หลัง “กองสลากพลัส” ปิดฉากไป
ปัจจุบัน กลับมีแพลตฟอร์มขายสลากอย่าง “ลอตเตอรี่พลัส” โตวันโตคืน
ยอดขายหลายล้านใบต่องวด ประกาศระดมทุนผ่านเฟซบุ๊ก ทุ่มเงินทำโฆษณาประชาสัมพันธ์การตลาดครึกโครม มีคนดังมาช่วยประชาสัมพันธ์จูงใจให้คนมาซื้อลอตเตอรี่ผ่านแพลตฟอร์ม ฯลฯ
3.1 แพลตฟอร์มชื่อ “ลอตเตอรี่พลัส” ทำการจำหน่ายลอตเตอรี่ผ่านช่องทาง https://lotteryplus.co.th
แถมยังมีระบบชำระเงินของตนเอง โดยให้ผู้ซื้อเติมเงินเข้านกแคช มีระบบจองสลากได้ด้วย (ทั้งๆ ที่ตนเองไม่ได้เป็นคู่สัญญาซื้อสลากจาก สนง.สลากกินแบ่งรัฐบาล)
อ้างว่า ขายสลากในราคา 80 บาท ตามกฎหมาย แต่มีค่าบริการอีก ได้แก่ ค่าเช่าเซฟเก็บสลาก 25 บาทต่อใบ หรือไม่ ก็ต้องมีค่าจัดส่ง 50 บาทต่อใบ
มิฉะนั้น ก็ไม่สามารถซื้อสลากในราคา 80 บาทได้
ถ้าซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกับลอตเตอรี่พลัส 1 ใบจะต้องจำยอมเสียค่าเช่าพื้นที่จัดเก็บ 25 บาท รวมเป็น 105บาท
ถ้าซื้อสลาก 7 ใบ ก็ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่จัดเก็บอีกใบละ25 บาท รวมเป็น 735 บาท
ถ้าไม่ยอมจายค่าเช่าพื้นที่เก็บ ก็ต้องเสียค่าจัดส่งใบละ50 บาท
มิฉะนั้น ก็ไม่สามารถซื้อสลากในราคา 80 บาทได้ จึงไม่ใช่บริการทางเลือก แต่เป็นกึ่งบังคับ
เท่ากับว่า ในความเป็นจริง ผู้ซื้อจะต้องจ่ายเฉลี่ย 105 บาท
น่าคิดว่า กรณี “ลอตเตอรี่พลัส” แทบไม่ต่างจากแนวทางที่ศาลชี้ขาดในกรณี “กองสลากพลัส” แล้ว ว่าเป็นการขายเกินกว่าราคาที่กฎหมายกำหนด และมีคำสั่งปิดแพลตฟอร์มไปก่อนหน้านี้
3.2 ในความเป็นจริง ประเด็นการขายเกินราคาบนแพลตฟอร์ม มีกรณีศึกษาปิดแพลตฟอร์มกองสลากพลัส มีคำสั่งศาลชี้ขาดไว้ชัดเจนแล้ว
จากกรณีที่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลาย หรือลบแพลตฟอร์มกองสลากพลัสออกจากระบบคอมพิวเตอร์ เนื่องจากได้รับแจ้งว่ามีการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา และความผิดอื่นๆ รวมถึงการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลให้เด็กและเยาวชนซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปีซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและอาจเข้าข่ายขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน โดยศาลอาญาได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านแพลตฟอร์มกองสลากพลัส และปิดเว็บไซต์ชั่วคราว เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 จนกว่าศาลจะพิจารณาคดีแล้วเสร็จหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นนั้น
ศาลได้พิจารณาคดีเสร็จสิ้นและมีคำสั่งให้ปิดเว็บไซต์กองสลากพลัส โดยศาลเห็นว่า ข้ออ้างของบริษัทที่อ้างว่าส่วนเกินจากราคาสลากกินแบ่งรัฐบาล คือ ค่าบริการต่างๆ นั้น ฟังไม่ขึ้น การขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดไว้ในสลากฯ เป็นการขัดต่อกฎหมาย และเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงมีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกล่าวออกจากระบบคอมพิวเตอร์
พูดง่ายๆ ศาลอาญาชี้ขาดว่า เป็นการขายสลากเกินราคา สั่งปิดแพลตฟอร์ม (โดยยังไม่ต้องพูดถึงประเด็นขายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 หรือไม่)
รายละเอียดน่าสนใจ ถือเป็นบรรทัดฐานสำคัญ ระบุว่า
ศาลอาญาได้มีคำสั่งปิดเว็บไซต์กองสลากพลัส ตามคำร้องของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เมื่อวันที่ 11 พ.ค.2566
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า
...ส่วนที่ผู้คัดค้านอ้างว่า เงินที่เกินเป็นเงินค่าสนับสนุนเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มอันเป็นค่าใช้จ่ายปกติในการดำเนินการทั่วไปนั้น
เห็นว่า ผู้คัดค้านคิดค่าใช้จ่าย ในการดำเนินงานจากสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นรายฉบับ ฉบับละ 95 บาท หาใช่คิดค่าบริการเป็นรายครั้งไม่
เงินส่วนที่เกิน จึงไม่ใช่เป็นค่าบริการในการดำเนินการในแต่ละครั้ง หากแต่เป็นส่วนหนึ่งของราคาสลากกินแบ่งรัฐบาล
เมื่อรวมกันแล้วเกินกว่าที่กำหนดไว้ อันเป็นการต้องห้ามตามกฎหมาย และเป็นการกระทำความผิดทางอาญา
ส่วนที่ผู้คัดค้านอ้างว่าผู้ซื้อยินยอมและสมัครใจนั้น ว่า หากผู้ซื้อไม่กดในช่องยินยอม และสมัครใจก็ไม่อาจเข้าใช้บริการได้ การยินยอมและสมัครใจเช่นนี้ไม่ถือเป็นการยินยอมและสมัครใจอย่างแท้จริง
เมื่อพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 มาตรา 39 บัญญัติว่า “ผู้ใดเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ออก ตามพระราชบัญญัตินี้ และยังไม่ได้ออกรางวัลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท” แสดงให้เห็นว่าการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินกว่าที่กำหนดเป็นการต้องห้ามตามกฎหมายและเป็นการกระทำความผิดทางอาญา เมื่อผู้คัดค้านจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีราคาเกินไป กว่าความเป็นจริง อันมีลักษณะเป็นการกระทำความผิดซ้ำๆ โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ดังนั้น ข้อมูลที่ปรากฏ เว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น หรือแพลตฟอร์ม http:// facebook.com/kongsalakplus ดังกล่าวจึงมีเนื้อหาเป็นการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านสื่อออนไลน์สาธารณะที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้โดยง่าย
การนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ดังกล่าว จึงเข้าข่ายการมอมเมาและส่งเสริมการละเล่นพนันให้แพร่หลายโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี ของประชาชน ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 14(1) แห่งพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
จึงมีคำสั่งให้ระงับ การทำให้แพร่หลาย หรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีเนื้อหาอันมีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน จำนวน 3 URLS ออกจากระบบคอมพิวเตอร์
3.3 สถานีข่าวท็อปนิวส์ ได้ตรวจสอบการดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย พบว่า สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ดำเนินการเอาผิดแล้ว
แต่ทำไมลอตเตอรี่พลัสยังค้าขายอย่างอุกอาจ โตวันโตคืนอยู่ได้ เพราะอะไร?
เรื่องนี้มีไทม์ไลน์ ดังนี้
-5 กรกฎาคม 2566 สำนักงานสลากฯ ได้มีหนังสือไปถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ดำเนินคดีแพลตฟอร์มลอตเตอรี่พลัส.COM และขอให้ดำเนินการปิดเว็บไซต์ของแพลตฟอร์มดังกล่าว
-17 ตุลาคม 2566 สำนักงานสลากฯ มีหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอสอบถามความคืบหน้าในการดำเนินคดีแพลตฟอร์มลอตเตอรี่พลัส.COM ในความผิดขายเกินราคา การละเมิดลิขสิทธิ์ และการปิดเว็บไซต์ของแพลตฟอร์มดังกล่าว
-15 ธันวาคม 2566 กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ตำรวจ ปคบ. มีหนังสือแจ้งความคืบหน้าการดำเนินคดี มีสาระสำคัญ 3 ประเด็นด้วยกัน
(1) ตามที่สำนักงานสลากฯได้ดำเนินคดีผู้กระทำผิดแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งจำหน่ายสลากแก่ผู้บริโภคโดยตรงหรือผ่านตัวแทนจำหน่ายของแพลตฟอร์ม ซึ่งกำหนดให้ผู้บริโภคต้องชำระค่าเช่าตู้เซฟหรือเช่าพื้นที่ เพื่อจัดเก็บลอตเตอรี่ตามจำนวนที่ต้องการซื้อก่อน จึงจะสามารถชำระค่าลอตเตอรี่ได้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมหลีกเลี่ยงความผิดฐานขายสลากเกินราคา, พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ และหากพบการทำผิดอื่นก็ให้ดำเนินคดีต่อไปนั้น พนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้ตามคดีอาญาที่ 50-112/2566 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ไว้แล้ว
(2) ส่วนความผิดตามพ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทนั้น ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการปรับเป็นพินัย ต้องส่งเรื่องกลับไปให้สำนักงานสลากฯ ดำเนินการเปรียบเทียบปรับ
(3) พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 1 ตำรวจ ปคบ. ได้ส่งเรื่องให้ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อพิจารณาดำเนินการระงับหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์บนแพลตฟอร์มหรือเว็บไซต์ลอตเตอรี่พลัสออกจากระบบคอมพิวเตอร์ โดยพิจารณาอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และดำเนินการระงับหรืออายัดบัญชีธนาคารที่ใช้ในการรับเงินของผู้กระทำความผิดดังกล่าว
โดยเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2566 ส่งให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ดำเนินการจำนวน 13 เว็บไซต์
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2566 ส่งให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ดำเนินการ จำนวน 33 เว็บไซต์
และวันที่ 13 ธันวาคม 2566 ส่งให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ดำเนินการจำนวน 17 เว็บไซต์
-22 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักงานสลากฯ ได้มีหนังสือสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินการกับแพลตฟอร์มหรือเว็บไซต์ ถึงปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
4. ชัดเจนว่า สนง.สลากกินแบ่งรัฐบาล และตำรวจ บก.ปคบ. ได้ดำเนินการไปในทางเดียวกัน คือ เห็นว่า การขายสลากของลอตเตอรี่พลัส เข้าลักษณะขายเกินราคาตามที่กฎหมายกำหนด
และส่งเรื่องไปให้ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อดำเนินการปิดแพลตฟอร์มและระงับบัญชีธนาคารที่ใช้รับเงิน
แต่จนบัดนี้ “ลอตเตอรี่พลัส” ยังสามารถทำธุรกิจค้าขายสลากผ่านแพลตฟอร์ม ยังใช้บัญชีรับโอนเงิน ธุรกิจขยายตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ยอดขายแต่ละเดือนหลายร้อยล้านบาท ฯลฯ
กระทรวงดิจิทัลฯ ดำเนินการอะไรแล้วบ้าง เหตุใดจึงไม่ปรากฏความคืบหน้า?
5. น่าแปลกใจว่า การขายสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดละหลายล้านใบนั้น แพลตฟอร์มนำมาจากไหน? ซื้อมาจากใคร? เพราะไม่ได้เป็นคู่สัญญาซื้อสลากจาก สนง.สลากกินแบ่งรัฐบาล
ผู้ได้สลากมาจากสำนักงานสลากกินแบ่งฯ แล้วนำมาขายต่อ ย่อมผิดเงื่อนไข ผู้นั้นจะต้องถูกเพิกถอนสิทธิที่จะได้รับการจัดสรรสลาก เพื่อนำสิทธินั้นไปจัดสรรให้ประชาชนที่พร้อมเคารพกฎกติกา
น่าคิดว่า แพลตฟอร์มใดก็ตาม (ไม่เฉพาะลอตเตอรี่พลัส) หากทำธุรกิจนำลอตเตอรี่มาขายต่อ โดยกว้านซื้อมาในราคาสูงกว่ากฎหมายกำหนด ก็ยิ่งสะท้อนเจตนาว่า ต้องการกว้านซื้อมาในราคาแพงกว่ากฎหมายกำหนดตั้งแต่ต้น เพื่อมาขายผู้บริโภคในราคาแพงกว่าที่ซื้อมาและแพงกว่ากฎหมายกำหนด โดยพลิกแพลงอำพรางการกระทำผิด ด้วยการขายผ่านแพลตฟอร์ม ใช้กลวิธีการตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์ อ้างค่าบริการ ค่าฝาก ค่าจัดส่ง (เป็นบริการกึ่งบังคับ) การกระทำเช่นนี้ อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายร้ายแรงประการใดอีก หรือไม่?
เชื่อแน่ว่า หากยังมีเจ้าหน้าที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เกิดความเสียหายแก่ สนง.สลากฯ เกิดผลประโยชน์แก่ผู้หน่ึงผู้ใด ย่อมจะต้องมีคนถูกดำเนินคดี 157 แน่นอน
สันติสุข มะโรงศรี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี