วันอังคาร ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / คิดด้วยพลเมือง (See-Think-Cen')
คิดด้วยพลเมือง (See-Think-Cen')

คิดด้วยพลเมือง (See-Think-Cen')

วันพุธ ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567, 02.00 น.
โปรดแต่งเติมสีสันอันงดงามแห่งการปฏิวัติ

ดูทั้งหมด

  •  

ในโลกยุคศตวรรษที่ 21 ที่เต็มไปด้วยการแสวงหาอำนาจอันยิ่งใหญ่ ประเทศมหาอำนาจทั่วโลกต่างพากันขยายอำนาจไปทั่วโลกผ่านรูปแบบที่แตกต่างกันไป ในอดีตประเทศมหาอำนาจต่างพากันขยายดินแดนผ่านการรุกรานประเทศรอบข้าง แต่ในปัจจุบัน วิธีในการขยายอำนาจได้ขยายรูปแบบเพิ่มมากขึ้น เช่น ความพยายามในการเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ หรือความพยายามที่จะเป็นที่รักและได้มาซึ่งอำนาจและความชอบธรรมผ่านการสร้าง Soft Power อย่างไรก็ตาม ประชาชนในฐานะเจ้าของประเทศสามารถกำหนดชะตา(Self-Determination) และเลือกที่จะอยู่อย่างไรในสถานะไหนบนเวทีระหว่างประเทศที่เต็มไปด้วยการแข่งขันกันอย่างชัดเจนระหว่างมหาอำนาจ

แม้ในเวทีระหว่างประเทศ จะเต็มไปด้วยการแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งอภิมหาอำนาจ (Super Power) ระหว่างจีนและสหรัฐฯ และมีหลายประเทศพยายามที่จะคงสถานะของการเป็นประเทศมหาอำนาจ (Great Power) โดยเฉพาะอย่างสหพันธรัฐรัสเซีย (Russian Federation) ประเทศที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหนึ่งในอดีตมหาจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ แม้ในปัจจุบันจะเปลี่ยนสถานะจากอภิมหาอำนาจมาเป็นเพียงมหาอำนาจแล้วก็ตาม แต่จากข่าวการเมืองระหว่างประเทศในปัจจุบันที่รัสเซียได้พยายามเข้าไปแทรกแซงประเทศที่เป็นอดีตสหภาพโซเวียต จนนำมาสู่การรุกรานประเทศยูเครนในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา แต่การขึ้นมาสู่อำนาจของรัสเซียได้พบกับอุปสรรคและความท้าทายมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความท้าทายจากการลุกฮือและการประท้วงจากภาคประชาชน


การลุกฮือของประชาชนที่ต่อต้านการขยายอำนาจของรัสเซียในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในภูมิภาคนี้ ดังนั้น ในบทความนี้ผู้เขียนขอพาผู้อ่านทุกท่านไปรู้จักการปฏิวัติสี (Colour Revolution) ซึ่งเป็นหนึ่งในความท้าทายสำคัญต่อการขยายอำนาจของรัสเซีย อันเป็นการปฏิวัติที่เริ่มต้นจากหนึ่งประเทศในยุโรปและแพร่ขยายไปสู่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคยุโรปและเอเชียกลาง

“จักรวรรดิรัสเซียอันยิ่งใหญ่ในอดีตสู่ความพยายามในการหวนคืนสู่มหาอำนาจ”

จักรวรรดิรัสเซียในอดีตถือว่าเป็นมหาอำนาจอันยิ่งใหญ่ที่ได้ขยายอาณาเขตทางบกไปจนถึงพื้นที่หนึ่งในหกของโลกภายใน ค.ศ. 1990 และเป็นจักรวรรดิที่มีอาณาเขตทางภูมิศาสตร์ครอบคลุมพื้นที่ทั้งสองทวีป ได้แก่ ยุโรปและเอเชีย ซึ่งครอบคลุมถึงความหลากหลายทางชาติพันธุ์เอาไว้หลากหลายมาก การขยายอำนาจในลักษณะนี้ แนวคิดสัจนิยมได้ให้คำอธิบายไว้ว่าเป็น การแสวงหาอำนาจให้อยู่รอดในระบบโลกอันเป็นอนาธิปไตย (Anarchy) ผ่านการรวบอำนาจจากรัฐในบริเวณข้างเคียงเข้าสู่ศูนย์กลางอย่างนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

แม้จักรวรรดิรัสเซียจะล่มสลายไปเมื่อจบสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่รัสเซียยังคงเป็นอภิมหาอำนาจหลังจากนั้นในนามของสหภาพโซเวียต และได้สิ้นสุดการเป็นอภิมหาอำนาจเมื่อสงครามเย็นจบลงใน ค.ศ. 1991 สถานะที่ถูกเปลี่ยนจากอภิมหาอำนาจเป็นมหาอำนาจ เป็นสาเหตุให้ผู้นำรัสเซียในยุคหลังสหภาพโซเวียตตั้งแต่ประธานาธิบดี Boris Yeltsin จนถึงประธานาธิบดี Vladimir Putin (ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีรัสเซียมีประธานาธิบดีเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น) มีความพยายามในการขยายอำนาจของรัสเซียเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านที่เคยเป็นสมาชิกสหภาพโซเวียตเพื่อทำให้สถานะการเป็นอภิมหาอำนาจของรัสเซียกลับมา และทำให้รัสเซียจะสามารถแข่งขันกับสหรัฐหรือจีนในโลกปัจจุบันได้ อย่างไรก็ตามความพยายามในการแทรกแซงเหล่านี้ได้สร้างความไม่พอใจแก่ประชาชนในประเทศที่ถูกรุกรานเป็นอย่างมาก จนนำมาสู่การปฏิวัติสีที่เกิดขึ้นในช่วง ค.ศ. 2003-2005

“Colour Revolution หนึ่งในความท้าทายอันสำคัญต่อการขยายอำนาจของรัสเซีย”

Colour Revolution หรือปฏิวัติสี เป็นคำที่ทางนักรัฐศาสตร์นิยามขึ้นมาภายหลังจากการลุกฮือเพื่อต่อต้านระบอบเก่าในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกันของ 3 ประเทศ โดยมีสีที่เป็นตัวแทนของแต่ละประเทศ ได้แก่ จอร์เจีย (สีของดอกกุหลาบ) ยูเครน (สีส้ม) และคีร์กีซสถาน (สีของดอกทิวลิปหรือสีชมพู) ซึ่งทั้งสามประเทศนั้นมีจุดร่วมกัน 3 ประการ ได้แก่ 1. มีการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบอบประชาธิปไตยในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง 2. มีการต่อต้านการเลือกตั้งทุจริตและการแทรกแซงจากมหาอำนาจอย่างรัสเซียจากฝ่ายค้านในระบบรัฐสภา 3. มีการปลุกระดมพลังประชาชนจากฝ่ายค้านที่เป็นผลสำเร็จและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง

ในระลอกแรกของปฏิวัติที่เกิดขึ้น คือ การปฏิวัติดอกกุหลาบ (Rose Revolution) ที่เกิดขึ้นในจอร์เจียใน ค.ศ. 2003 โดยมีจุดเริ่มมาจากการเลือกตั้งรัฐสภาในช่วงรัฐบาลของประธานาธิบดี Eduard Shevardnadze ซึ่งโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่ามีการทุจริตและคอร์รัปชัน จนนำมาสู่การลงถนนประท้วงการเลือกตั้ง โดยมีผู้นำฝ่ายค้านอย่างนาย Mikheil Saakashivili เป็นผู้นำขบวนและประชาชนที่ร่วมลงถนนนั้นได้ถือ “ดอกกุหลาบ” เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการแสดงให้เห็นถึงความต้องการในการเปลี่ยนแปลงและความต้องการเลือกตั้งใหม่ จนกระทั่งในท้ายที่สุดจอร์เจียได้มีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง และเป็นผลให้นาย Mikheil Saakashvili ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนที่สองของจอร์เจีย

การปฏิวัติดอกกุหลาบนี้ นับเป็นหนึ่งในความท้าทายของรัสเซียที่พยายามต้องการเข้ามาแทรกแซงการปกครองของประเทศที่เคยเป็นอดีตสหภาพโซเวียต เนื่องจากการลุกฮือของภาคประชาสังคมเป็นภาพของการเปลี่ยนแปลงในเชิงความคิดของประชาชนว่า ประชาชนไม่ได้ต้องการการปกครองเผด็จการอย่างที่เคยมีมาในช่วงสงครามเย็น แต่ประชาชนต้องการประชาธิปไตยที่โปร่งใสและเป็นแบบตะวันตก (หรือโลกเสรีนิยมแบบสหรัฐ)

รัสเซียไม่ได้มองว่าการเปลี่ยนแปลงการปกครองของจอร์เจียกระทบต่อการขยายอำนาจของรัสเซียมากนัก เนื่องจากตั้งแต่ที่จอร์เจียได้พ้นสภาพสมาชิกสหภาพโซเวียต จอร์เจียมีนโยบายต่างประเทศที่เข้าหาสหรัฐอย่างชัดเจนและต่อต้านรัสเซียมาตลอด อย่างไรก็ตาม หลังจากการปฏิวัติดอกกุหลาบเกิดขึ้นเพียงหนึ่งปี การลุกฮือของภาคประชาชนก็ได้กลับมาอีกครั้งในภูมิภาคนี้ จนเกิดเป็นการปฏิวัติสีส้มขึ้นในยูเครน

การปฏิวัติสีส้ม (Orange Revolution) ปะทุขึ้นจากความไม่พอใจในการเลือกตั้งรัฐสภาของยูเครนที่ถูกแทรกแซงโดยรัสเซีย จนนำไปสู่การลุกฮือโดยประชาชนและฝ่ายค้านที่ใส่เสื้อสีส้มลงถนน ซึ่งยูเครนถือเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เคยเป็นสมาชิกของสหภาพโซเวียตที่รัสเซียยังคงให้ความสำคัญ และต้องการเข้าไปแทรกแซงและครอบครองจนถึงปัจจุบัน (เห็นได้จากกรณีสงครามยูเครน-รัสเซียในช่วง ค.ศ. 2023 - 2024 ที่ผ่านมา) โดยการปฏิวัติสีส้มครั้งนี้เกิดผลกระทบต่อรัสเซียเป็นอย่างมาก เนื่องจากยูเครนเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางทหารที่ยูเครนได้สร้างฐานทัพในทะเลดำ และใช้พื้นที่บริเวณนี้สำหรับให้ทางกองทัพรัสเซียเช่าจอดเรือรบ อีกทั้ง บริเวณทะเลดำเป็นที่ตั้งฐานทัพกระแสน้ำอุ่นเพียงแห่งเดียวของรัสเซียที่สามารถเดินเรือออกไปยังยุโรปหรือภูมิภาคอื่นๆ ได้ นอกจากนี้ในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ยูเครนยังเป็นพื้นที่ส่งผ่านท่อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียเข้าสู่ประเทศในทวีปยุโรปกว่าร้อยละ 80 ดังนั้น การเข้าไปแทรกแซงในระบบการเลือกตั้งของยูเครนจึงเป็นส่วนหนึ่งของการขยายอำนาจในภูมิภาคยูเรเซียที่รัสเซียให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก

ในช่วงการเลือกตั้ง ค.ศ. 2004 ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่างฝ่ายรัฐบาลเดิมที่ได้รับการสนับสนุนชัดเจนจากรัสเซีย โดยจะเห็นได้จากการมาเยือนยูเครนของประธานาธิบดีรัสเซียกว่า 7 ครั้งในช่วงระหว่างการเลือกตั้ง และการวางยาพิษต่อผู้นำฝ่ายค้านในเวลานั้นอย่างนาย Viktor Yushchenkoในช่วงเวลานั้น และเมื่อผู้นำฝ่ายรัฐบาลเดิมชนะการเลือกตั้ง ประชาชนจึงเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมากจนเกิดเป็นการปฏิวัติสีส้มในที่สุด

แม้จะมีการเลือกตั้งใหม่ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2004 และนาย Viktor Yushchenko จะได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีในเวลานั้น การปฏิวัติสีส้มยังคงส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อความสัมพันธ์ระหว่างยูเครนและรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากในช่วงก่อนเลือกตั้ง รัฐบาลเดิมได้มีนโยบายการต่างประเทศที่เข้าหารัสเซีย ทำให้การซื้อขายก๊าซธรรมชาติเป็นไปในราคามิตรภาพ แต่ในช่วงรัฐบาลของนาย Yushchenko ราคาก๊าซธรรมชาติถูกซื้อขายในราคาตามกลไกตลาด ทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติในยูเครนสูงขึ้น

ความพยายามของรัสเซียในการเข้าแทรกแซงยูเครนยังคงมีให้เห็นโดยตลอด ตั้งแต่การเข้าครอบครองและผนวกเขตไครเมีย (ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของยูเครน) ใน ค.ศ. 2014 และการทำสงครามยูเครนในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามหลังจากจบการปฏิวัติสีส้ม กระแสการลุกฮือของภาคประชาชนเพื่อต่อต้านระบอบการปกครองแบบเผด็จการ และต่อต้านการแทรกแซงจากมหาอำนาจได้ลุกลามไปถึงประเทศในเอเชียกลางอย่างคีร์กีซสถานใน ค.ศ. 2005 ผ่านการปฏิวัติดอกทิวลิป (Tulip Revolution) หรือ ปฏิวัติสีชมพู (PinkRevolution) ที่ประชาชนได้ถือผ้าสีชมพูและออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยเพื่อให้หลุดพ้นจากอำนาจของรัฐบาลภายใต้การปกครองของนาย Askar Akayev ที่ทุจริตและโกงการเลือกตั้ง ซึ่งแม้คีร์กีซสถานจะเป็นเพียงรัฐเล็กๆ ที่ไม่ได้มีผลกระทบโดยตรงต่อการขยายอำนาจของรัสเซีย แต่กระแสประชาธิปไตยแบบเสรีนิยมตะวันตกได้เข้ามาในภูมิภาครอบๆ รัสเซียมากยิ่งขึ้น

“การจุดประกายของปฏิวัติสีและการต่อสู้กับมหาอำนาจ”

การปฏิวัติสีเป็นภาพสะท้อนของอุปสรรคครั้งยิ่งใหญ่ของรัสเซียในช่วงเริ่มแรกของการขึ้นสู่อำนาจของประธานาธิบดี Putin ที่แม้ในบางประเทศจะไม่ได้มีผลกระทบโดยตรงต่อรัสเซีย แต่การเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยแบบเสรีนิยมอย่างสหรัฐของประเทศเหล่านี้ ได้สร้างผลกระทบต่อความมั่นคงทางแนวคิดของรัฐบาลรัสเซียที่ยึดมั่นในประชาธิปไตยแบบมีการจัดการ (Sovereignty Democracy) ที่คำนึงถึงองค์อธิปัตย์ (Sovereign)มากกว่าสิทธิและเสรีภาพของประชาชน และได้กระทบต่อการกลับมาสู่บัลลังก์ในการเป็นอภิมหาอำนาจของรัสเซียในภูมิภาคเช่นเดียวกัน

ท้ายที่สุดนี้ จะเห็นได้ว่า การปฏิวัติสีได้จุดประกายให้คนรุ่นหลังจากนั้นลุกขึ้นมาต่อสู้ และไม่ยอมต่อการขยายอำนาจและการแทรกแซงของประเทศมหาอำนาจ อีกทั้งยังเป็นภาพแสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ทางความคิดระหว่างประชาธิปไตยแบบรัสเซียและประชาธิปไตยแบบเสรีนิยม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการสร้างพลวัตของการขับเคลื่อนทางสังคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ที่จะสามารถกำหนดอนาคตของตนเองได้ในฐานะพลเมืองของรัฐเพื่อให้รัฐของตนรอดพ้นจากการครอบงำโดยมหาอำนาจ

ศรันย์ชนก ลิมวิสิฐธนกร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:48 น. ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ สธ. ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ
22:21 น. 'ปราชญ์ สามสี' วิเคราะห์กำแพงภาษี 36% ทรัมป์ บททดสอบความ'ศิโรราบ'ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจ
22:18 น. 'กินเนสส์ฯ'ประกาศสุดยอดบลูชีสจากสเปน ขึ้นแท่น'ชีสที่แพงที่สุดในโลก'ด้วยราคา1.35ล้าน
22:08 น. (คลิป) เจรจาภาษีอย่าหวังได้อะไรจาก'ทรัมป์' อย่าเสีย 'ฐานทัพเรือพังงา' เป็นพอ
22:05 น. 'สุทิน' จวก 'โฆษกเพื่อไทย' ย้ำรัฐบาล'ชวน หลีกภัย'ไม่เคยปรึกษา'ทักษิณ'
ดูทั้งหมด
อื้อหือ! เพจดังเปิดภาพ 'สีกากอล์ฟ' ย้อนอดีต 10 ปี ไม่แปลกใจทำไมพระหวั่นไหว
วินาที'ในหลวง'ส่งสัญญาณพระหัตถ์ถึง'พระราชินี' ทรงรีบเข้าประคองพระองค์อย่างว่องไว
'สีกากอล์ฟ'ฟาดเรียบ ทั้งเจ้าอาวาส ทั้งคนขับรถ สารภาพถูกชวนมีสัมพันธ์ลึกซึ้ง
‘สม รังสี’แฉเหยื่อกว่า 120,000 คนในกัมพูชา ถูกขังใน 53 ตึก โดนบังคับใช้เป็นทาสมาเฟียจีน
สลดวันพระ! ยิงดับ 2 ศพ คาวัดดัง ย่านเพชรเกษม
ดูทั้งหมด
‘ฮุน เซน’เล่นใหญ่‘ทักษิณขายชาติ’
ซูเปอร์ฮีโร่
สองพ่อลูก
ศึกเขากระโดง ใครจะโดน 157 ? ปรับ ครม. เพื่อชำระแค้นการเมือง
คนไทยส่วนใหญ่เสียอะไร/ได้อะไรจากเจรจาภาษีการค้ากับสหรัฐ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ สธ. ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ

'กินเนสส์ฯ'ประกาศสุดยอดบลูชีสจากสเปน ขึ้นแท่น'ชีสที่แพงที่สุดในโลก'ด้วยราคา1.35ล้าน

(คลิป) เจรจาภาษีอย่าหวังได้อะไรจาก'ทรัมป์' อย่าเสีย 'ฐานทัพเรือพังงา' เป็นพอ

(คลิป) 'ฮุนเซน' พร้อมสวนกลับ ขอเวลา 3 ชม. ซัด 'ทักษิณ'

'มหาเธร์'อดีตนายกฯมาเลเซียออกจากรพ.แล้ว โพสต์คลิปเดินปร๋อขึ้นรถยนต์ส่วนตัว

คู่รักสูงวัยถูกหลอกใน‘มาเลเซีย’ เดินทางไกลไปขึ้นกระเช้าที่ไม่มีอยู่จริง-พบแค่คลิปโปรโมทด้วย‘AI’

  • Breaking News
  • ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ สธ. ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ ราชกิจจาฯ เผยแพร่ ประกาศ สธ. ให้ยาทรามาดอล (Tramadol) เป็นยาควบคุมพิเศษ
  • \'ปราชญ์ สามสี\' วิเคราะห์กำแพงภาษี 36% ทรัมป์ บททดสอบความ\'ศิโรราบ\'ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจ 'ปราชญ์ สามสี' วิเคราะห์กำแพงภาษี 36% ทรัมป์ บททดสอบความ'ศิโรราบ'ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจ
  • \'กินเนสส์ฯ\'ประกาศสุดยอดบลูชีสจากสเปน ขึ้นแท่น\'ชีสที่แพงที่สุดในโลก\'ด้วยราคา1.35ล้าน 'กินเนสส์ฯ'ประกาศสุดยอดบลูชีสจากสเปน ขึ้นแท่น'ชีสที่แพงที่สุดในโลก'ด้วยราคา1.35ล้าน
  • (คลิป) เจรจาภาษีอย่าหวังได้อะไรจาก\'ทรัมป์\' อย่าเสีย \'ฐานทัพเรือพังงา\' เป็นพอ (คลิป) เจรจาภาษีอย่าหวังได้อะไรจาก'ทรัมป์' อย่าเสีย 'ฐานทัพเรือพังงา' เป็นพอ
  • \'สุทิน\' จวก \'โฆษกเพื่อไทย\' ย้ำรัฐบาล\'ชวน หลีกภัย\'ไม่เคยปรึกษา\'ทักษิณ\' 'สุทิน' จวก 'โฆษกเพื่อไทย' ย้ำรัฐบาล'ชวน หลีกภัย'ไม่เคยปรึกษา'ทักษิณ'
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

เราสูญเสียโอกาสทางการศึกษามาแค่ไหน? เมื่อระบบถูกกัดกินด้วยก้อนเนื้อร้ายที่ชื่อว่าคอร์รัปชัน

เราสูญเสียโอกาสทางการศึกษามาแค่ไหน? เมื่อระบบถูกกัดกินด้วยก้อนเนื้อร้ายที่ชื่อว่าคอร์รัปชัน

9 ก.ค. 2568

พัฒนาทักษะการสื่อสารด้านการต่อต้านคอร์รัปชันผ่านการกระทำเชิงสัญลักษณ์

พัฒนาทักษะการสื่อสารด้านการต่อต้านคอร์รัปชันผ่านการกระทำเชิงสัญลักษณ์

25 มิ.ย. 2568

จีนกระจุก เทากระจาย: มอง ‘ทุนจีนเทา’ ที่กลืนกลายอยู่ในสังคมไทยผ่านมุมมองสังคมวิทยา

จีนกระจุก เทากระจาย: มอง ‘ทุนจีนเทา’ ที่กลืนกลายอยู่ในสังคมไทยผ่านมุมมองสังคมวิทยา

18 มิ.ย. 2568

องค์กรย้อนแย้งลักลั่นและเกมผักชีโรยหน้าในดินแดนมัชฌิมา

องค์กรย้อนแย้งลักลั่นและเกมผักชีโรยหน้าในดินแดนมัชฌิมา

11 มิ.ย. 2568

การแจ้งเบาะแส เทคโนโลยี และการแก้คอร์รัปชัน

การแจ้งเบาะแส เทคโนโลยี และการแก้คอร์รัปชัน

28 พ.ค. 2568

เมื่อผู้หญิงเผชิญหน้ากับคอร์รัปชัน : ความไม่เท่าเทียมทางเพศในมิติที่สังคมไทยมองข้าม

เมื่อผู้หญิงเผชิญหน้ากับคอร์รัปชัน : ความไม่เท่าเทียมทางเพศในมิติที่สังคมไทยมองข้าม

21 พ.ค. 2568

เลือกตั้งเทศบาล 68 : ประชาชนร่วมสร้างความโปร่งใสในการเลือกตั้งได้อย่างไรบ้าง

เลือกตั้งเทศบาล 68 : ประชาชนร่วมสร้างความโปร่งใสในการเลือกตั้งได้อย่างไรบ้าง

14 พ.ค. 2568

The Corruption ระบบแท้ คนเก๊: วิเคราะห์ปัญหาคอร์รัปชันที่ประเทศไทยไม่มีทางแก้?

The Corruption ระบบแท้ คนเก๊: วิเคราะห์ปัญหาคอร์รัปชันที่ประเทศไทยไม่มีทางแก้?

30 เม.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved