วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / มองอย่างไท
มองอย่างไท

มองอย่างไท

ปิยะ เนตรวิเชียร
วันจันทร์ ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2567, 02.00 น.
แจกทาน จากเงินภาษีของประชาชน

ดูทั้งหมด

  •  

ทาน แปลว่าการให้ หมายถึงการสละสิ่งของของตน เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นด้วยความเต็มใจ ขจัดความโลภ เป็นหนึ่งในบุญกิริยาวัตถุ ๓ ที่ประกอบไปด้วย ทาน ศีล และภาวนา

การให้ทาน เป็นการให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ โดยไม่หวังผลตอบแทน มี ๒ อย่าง ได้แก่ อามิสทาน คือการให้วัตถุสิ่งของต่างๆ เป็นทาน และธรรมทาน คือการให้ธรรมะ ให้ความรู้ความถูกต้องดีงามเป็นทาน  เชื่อกันว่าอานิสงส์ของการทำทาน จะทำให้เป็นที่รักของผู้คน ผู้คนอยากคบหา มีชื่อเสียงดีไม่เก้อเขินในที่ชุมชน และเมื่อตายแล้วย่อมไปสู่สุคติ


การให้ทานแบบอามิสทานที่กลายเป็นธรรมเนียมในสังคมของพุทธศาสนา ถูกเรียกว่าการโปรยทาน โดยเป็นความเชื่อที่มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล ครั้งตั้งแต่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จออกผนวชเพื่อละทิ้งทางโลก พระองค์ทรงสละราชสมบัติทรัพย์สินทุกอย่าง จึงมีความเชื่อต่อๆ กันมาว่าในพิธีอุปสมบทนาคจะต้องโปรยทาน

การโปรยทานในงานบวชจึงเป็นธรรมเนียมต่อมา เพื่อแสดงถึงการละทิ้ง การสละทุกสิ่งดังเช่นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเพื่อแสดงให้เห็นว่านาคได้สละสมบัติทุกอย่างแล้ว เพื่อดำเนินชีวิตตามรอยพระองค์พระสัมมาฯ  และเชื่อกันว่าเงินที่นาคโปรยนั้นเป็นเงินที่มีความบริสุทธิ์ ใครเก็บเงินโปรยทานที่นาคโปรยได้ ถือว่าได้บุญ และเมื่อเก็บเหรียญโปรยทานไว้ได้ก็ให้เก็บไว้ที่บ้านเพื่อความเป็นสิริมงคลและเจริญรุ่งเรือง เงินทองไหลมา ค้าขายร่ำรวย มีทรัพย์สินเพิ่มพูน

จากการโปรยทานในงานบวช ทำให้มีธรรมเนียมของการโปรยทานเกิดขึ้นในงานอื่นด้วย ได้แก่ การโปรยทานในงานศพ การโปรยทานในงานแต่งงานและอื่นๆ

การโปรยทานในงานศพ จะเป็นการโปรยเพื่อเป็นการนำทางให้แก่ผู้ที่เสียชีวิต ได้กลับไปยังบ้านของตน หรือที่ที่ญาติของผู้เสียชีวิตต้องการให้มาสถิตอยู่ ไม่เป็นวิญญาณที่ต้องเร่ร่อน เป็นการซื้อทางให้ดวงวิญญาณผ่านไปได้ไม่ติดขัด ผู้ที่มาร่วมงานสามารถเก็บเหรียญที่โปรยได้ แต่จะไม่นิยมเก็บไว้กับตัว ส่วนใหญ่จะนำไปทำบุญถวายให้วัด

การโปรยทานในงานแต่งงาน หลายคนอาจจะไม่คุ้นกับการใช้เหรียญเพื่อโปรยในงาน  ปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลงจากการใช้เหรียญโปรยทาน มาเป็นการกั้นประตูเงินประตูทอง ก่อนที่ฝ่ายเจ้าบ่าวจะเข้าไปรับตัวเจ้าสาว จะต้องมี การนำเงินใส่ซองเพื่อให้กับคนที่ยืนกั้นประตูเงินประตูทอง เงินที่ใส่ซองเรียกว่า ซองมงคล

เจตนาที่เป็นเหตุให้เกิดการให้ทานนั้น แบ่งตามกาลเวลาได้ ๓ กาลคือ ปุพพเจตนา เป็นเจตนาที่เกิดขึ้นก่อน เมื่อนึกจะให้ก็แสวงหาตระเตรียมสิ่งที่จะให้นั้นให้พร้อม มุญจนเจตนาเป็นเจตนาที่เกิดขึ้นในขณะกำลังให้ของเหล่านั้น และอปรเจตนาเป็นเจตนาที่เกิดขึ้นหลังจากได้ให้เรียบร้อยแล้ว เกิดความปีติยินดีในการให้  บุคคลใดทำได้ครบทั้ง ๓ กาลด้วยจิตโสมนัสและปัญญาที่เชื่อผลแห่งกรรม  บุคคลนั้นย่อมได้รับผลดีมาก

เมื่อหันกลับมาดูเหตุการณ์บ้านเมืองที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ ต้องขอย้ำว่า รัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศในระยะหลังๆ นี้ จะยึดถือนโยบายที่เรียกว่า ประชานิยมเป็นหลัก เพื่อหวังเสียงจากประชาชนที่อาจจะได้ในการเลือกตั้งครั้งต่อๆ ไป ซึ่งคำว่าประชานิยมก็น่าจะแปลตรงตัวว่าทำอะไรก็ได้ที่ทำให้ประชาชนชื่นชม มีความนิยมในรัฐบาลนั้นๆ  โดยการทำอะไรก็ได้คงหนีไม่พ้นไปจากคำว่า ให้ ซึ่งก็คือ ทานนั่นเอง

การเข้ามาบริหารประเทศแล้วมุ่งแต่การ“ให้”เพียงอย่างเดียว ไม่น่าจะเป็นเรื่อง ที่ถูกต้อง ควรจะมุ่งในเรื่องของการ“สร้าง” โดยเฉพาะการทำให้ประชาชนรู้จักสร้างด้วยตัวของตัวเองน่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า เพราะเป็นเรื่องที่คงทนยั่งยืน ต่างจากการให้หรือการทำทาน ซึ่งทำแล้วก็ย่อมจะหมดไป ผลลัพธ์ที่จะเห็นเป็นรูปธรรมนั้นมีไม่มาก

นโยบายการแจกเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ที่เรียกว่าดิจิทัล วอลเล็ตให้กับประชาชน ส่วนใหญ่ยกเว้นบางกลุ่มเป็นเรื่องที่รัฐบาลได้ใช้ในการหาเสียงเพื่อหวังจะได้คะแนนนิยม และก็น่าจะมีผลมากพอควรที่ทำให้รัฐบาลชุดนี้ได้มีโอกาสเข้ามาบริหารประเทศ แต่เมื่อเข้ามาแล้วเรื่องที่เคยกล่าวไว้ว่าจะแจกเงินซึ่งขออนุญาตเทียบว่าทานให้กับประชาชนในเวลาไม่เกิน ๓ เดือนก็ไม่เป็นจริง  เพราะมีประเด็นที่เป็นข้อติดขัดและมีความเห็นขัดแย้งไม่ใช่เฉพาะจากนักวิชาการและครูบาอาจารย์ ทางด้านเศรษฐศาสตร์หรือการเงินเท่านั้น แม้แต่ผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทยก็ไม่เห็นด้วยในโครงการดังกล่าว ไม่ใช่เฉพาะแค่เรื่องของงบประมาณซึ่งเดิมตั้งไว้ ๕๖๐,๐๐๐ ล้านบาท แต่ปรับลดลงมาเหลือ ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาทเท่านั้น ว่าจะมีที่มาที่ไปจากไหนบ้าง แต่เรื่องเทคนิควิธีการในการแจกและการให้ผู้รับแจกนำเงินดังกล่าวซึ่งความจริงไม่ใช่เป็นตัวเงิน แต่เป็นลักษณะของสิทธิในการใช้เงินไปใช้จับจ่ายนั้น ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะใช้ได้ในขอบเขตสถานที่รวมทั้งสินค้า ประเภทใดอย่างไรบ้าง และไม่เชื่อว่าจะมีผลดีต่อการแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่รัฐบาลกล่าวอ้างถึง

จนถึงขณะนี้รัฐบาลนี้ได้บริหารประเทศมาแล้วประมาณ ๑๐ เดือน โครงการดังกล่าวก็ยังไม่สามารถจะดำเนินการได้ด้วยเหตุหลายอย่าง แต่ถึงอย่างไรผู้นำรัฐบาลและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็ยังคงยืนยันว่าจะต้องทำโครงการนี้ซึ่งถือเป็นนโยบายของพรรคให้สำเร็จ โดยจะพยายามให้ประชาชนที่มีสิทธิ์ตามที่กำหนดไว้ คืออายุมากกว่า ๑๖ ปี มีเงินฝากต่ำกว่า ๕๐๐,๐๐๐ บาท มีรายได้ต่อเดือนไม่ถึง ๗๐,๐๐๐ บาท ได้ลงทะเบียนเพื่อแสดงความจำนงในเดือนสิงหาคมนี้ โดยคาดว่าจะเริ่มให้ใช้สิทธิ์ในเงินดังกล่าวได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมหรือไตรมาสที่ ๔ของปีนี้เป็นต้นไป

ขณะนี้ก็มีข่าวออกมาทางสื่อต่างๆ แล้วว่า รัฐบาลจะปรับลดวงเงินที่จะแจกหรือให้ทานนี้จาก ๕๐๐,๐๐๐ ล้านบาทเหลือเพียง ๔๕๐,๐๐๐ล้านบาท โดยอ้างว่าที่เคยคาดไว้ว่าจะมีผู้ลงทะเบียนประมาณ ๕๐ ล้านคนนั้น เมื่อถึงเวลาจริงน่าจะมีผู้ที่สละสิทธิ์  ซึ่งหากคำนวณจากวงเงินที่จะใช้ใหม่ ก็หมายความว่าจะมีผู้สละสิทธิ์ ประมาณ ๑๐% ทำให้ลดวงเงินที่จะใช้ไปได้ ๕๐,๐๐๐ ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าจากเดิมที่จะต้องนำเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรซึ่งความจริงก็คือการกู้เงิน ซึ่งแน่นอนย่อมต้องมีดอกเบี้ยตามมาเป็นส่วนหนึ่งของเงินที่จะใช้ในโครงการนี้ ประมาณ ๑๗๒,๓๐๐ ล้านบาท ก็จะไม่นำมาใช้แล้ว จึงมีคำถามว่าเงินที่จะนำมาใช้ทั้งหมดจะนำมาจากไหนบ้าง  ซึ่งคาดว่าก็ต้องมาจากงบประมาณแผ่นดินของปี ๒๕๖๗ ซึ่งถูกปรับออกมาจากงบรายจ่ายหลายโครงการที่ได้รับอนุมัติไว้จำนวน ๑๒๒,๐๐๐ ล้านบาท นำมารวมกับงบกลางซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรือภาวะฉุกเฉินจำเป็นเร่งด่วนของประเทศอีก ๔๓,๐๐๐  ล้านบาท โดยเงินส่วนที่เหลืออีกประมาณ ๒๘๕,๐๐๐ ล้านบาทนั้น จะเป็นงบประมาณแผ่นดินของปี ๒๕๖๘ ทั้งงบรายจ่ายและงบกลาง ซึ่งได้ถูกจัดตั้งไว้แล้ว ซึ่งแน่นอนย่อมทำให้งบประมาณแผ่นดินปี ๒๕๖๘ เป็นงบประมาณติดลบมากขึ้นกว่าเดิม

การจะนำงบประมาณก้อนไหนมาใช้ก็ตามย่อมเป็นภาระของประเทศทั้งสิ้น และที่สำคัญยิ่งเงินที่นำมาใช้นั้นจะทำให้เศรษฐกิจภาพรวมที่รัฐบาลอ้างว่าอยู่ในภาวะวิกฤตฟื้นคืนขึ้นมาได้จริงหรือไม่ ซึ่งนักวิชาการส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้น โดยไม่เชื่อตามทฤษฎีที่ว่าเงินที่ทุ่มลงไปนั้น จะถูกหมุนไปใช้จ่าย ๒-๓-๔ รอบแล้วแต่จะคิด และโดยปกติก่อนที่ยังไม่เกิดเหตุการณ์จริงผู้คิดก็จะต้องบอกว่ามีจำนวนรอบที่หมุนมากที่สุดเสมอ  ซึ่งถึงจะหมุนอย่างไรก็ไม่น่าจะทำให้ GDP ของประเทศดีขึ้นกว่าเดิม เป็นค่าบวกมากกว่า ๑.๕%

ตัวเลข GDP หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศนั้น เป็นผลรวมของหลายรายการ ได้แก่ รายจ่ายเพื่อการบริโภค บวกกับรายจ่ายเพื่อการลงทุน บวกกับรายจ่ายของรัฐบาล บวกกับรายจ่ายสุทธิของต่างประเทศที่ซื้อสินค้าผลิตในประเทศ นั่นก็คือสินค้าส่งออก เมื่อเป็นดังนั้นการหว่านเงินก้อนนี้ลงไป น่าจะมีผลเฉพาะในการกระตุ้นรายจ่ายเพื่อการบริโภค ซึ่งความจริงขณะนี้อัตราการเจริญเติบโตของผู้บริโภคก็ยังสูงอยู่พอสมควร เงินที่จะหว่านลงไปจึงไม่น่าจะมีผลต่อการทำให้เศรษฐกิจของชาติดีขึ้น ยกเว้นเสียแต่ว่าจะมีการดำเนินการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเรื่องที่ให้มีการลงทุนเพิ่มมากขึ้น การขายสินค้าส่งออกไปต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น การใช้งบประมาณของรัฐเพื่อจัดทำและสร้างโครงการต่างๆ ให้สำเร็จ ลุล่วงโดยเร็ว

การให้หรือการทำทาน จะเกิดผลบุญหรือผลดีก็ขึ้นอยู่กับเจตนาในการกระทำว่า บริสุทธิ์หรือไม่ ด้วยสติปัญญาหรือไม่  หากไม่เป็นเช่นนั้นก็ไม่ต้องคาดหวังว่า ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นไปตามที่รัฐบาลได้คาดไว้  ซึ่งเงินที่นำมาแจกนั้นก็มาจากภาษีของประชาชน แต่สิ่งที่ต้องพึงระวังก็คือหากการกระทำดังกล่าวมีผลสะท้อนกลับที่จะทำให้เศรษฐกิจของชาติแย่ลง ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องพิจารณาตัวเองและแสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่

ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
13:42 น. ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
13:22 น. ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้
13:14 น. รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.
13:08 น. 'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'
12:24 น. ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ
ดูทั้งหมด
โปรดเกล้าฯ 'พล.อ.' พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ นายทหารราชองครักษ์พิเศษ
พอที'เพื่อไทย'!! อดีตเด็ก พท.หอบผ้าซบพรรคลุงป้อมพรึ่บ อีสานมาเพียบ! (คลิป)
'หมอวรงค์'บอกหนาวเลย! หลังฟังการไต่สวนคดี'ทักษิณ'ชั้น 14 รพ.ตร. ครั้งที่ 3
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 8 ต่อ 1 หญิงหย่าสามีต้องกลับไปใช้นามสกุลเดิม
'ดุ๊ก ภาณุเดช'วอนหยุดบุกรุกบ้านส่วนตัวที่เขาใหญ่ สุดทนคนแห่ถ่ายรูป-เดินชิลเหมือนอยู่คาเฟ่
ดูทั้งหมด
จีนยกระดับปราบ Cyber Scam ฉ้อโกงออนไลน์ให้เป็นวาระแห่งชาติ
ฝนตก-น้ำท่วม-ก่อสร้าง พึงระมัดระวังไฟดูด-ไฟรั่ว
ฮุนเซน-ทักษิณ (แพทองธาร) มิตรหรือศัตรู
บุคคลแนวหน้า วันที่ 12 ก.ค. 2568
ทักษิณยังคงคุยโวเหมือนเดิม
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก

‘พัทลุง’สลด! พบศพผัวเมียรับซื้อน้ำยาง ถูกยิงดับคู่ในบ้าน ตร.คาดทะเลาะกัน

‘ทนายวันชัย’มองเรื่อง‘สีกากอล์ฟ’ เปรียบฆาตกามต่อเนื่อง กระชากหน้ากาก‘คนห่มเหลือง’

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันเสาร์ที่ 12 ก.ค.68

สุดทน!‘สุทิน’จี้ผู้รักษากฎหมายต้องขยับ ปล่อยให้‘สทร.’ย่ำยีประเทศไม่ได้อีกแล้ว

‘นักเขียนซีไรต์’ฟาดนักการเมืองขี้ขลาด มุ่งแก้ ม.112 นิรโทษกรรมตัวเอง

  • Breaking News
  • ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ‘ทักษิณ’เตรียมทอดผ้าป่า‘วัดบ้านไร่’ 19 ก.ค. สร้าง‘หลวงพ่อคูณ’องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
  • ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้ ‘อนุสรณ์’แนะ‘ภราดร’ตรวจสอบคนในก่อนโวยวายคนนอกปมคุมเสียงไม่ได้
  • รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม. รัฐบาลเปิดระบบ‘มอก.วอทช์’ ดึง AI ล่าล้างบางของเถื่อน ผ่านทางออนไลน์ 24 ชม.
  • \'ตะไลชนโคม\' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน\'งานบุญวันเข้าพรรษา\' 'ตะไลชนโคม' สีสันกีฬาพื้นบ้าน-สร้างความสนุกสนาน'งานบุญวันเข้าพรรษา'
  • ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ ฝนตกหนักถนนลื่น! เก๋งเสียหลักตกถนนสายน่าน-ร้องกวางบาดเจ็บ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

นักการเมิอง มนุษย์ประเภทไหน

นักการเมิอง มนุษย์ประเภทไหน

7 ก.ค. 2568

อย่าอยู่ต่อไปให้หนักแผ่นดิน

อย่าอยู่ต่อไปให้หนักแผ่นดิน

30 มิ.ย. 2568

ผู้นำอัปยศ กรรมของชาติ คนไทยยังทนได้หรือ

ผู้นำอัปยศ กรรมของชาติ คนไทยยังทนได้หรือ

23 มิ.ย. 2568

ทหาร จะปกป้องรักษาชาติ

ทหาร จะปกป้องรักษาชาติ

16 มิ.ย. 2568

แพทยสภา ต้องดำรงเกียรติ ศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

แพทยสภา ต้องดำรงเกียรติ ศักดิ์ศรีและจริยธรรมแห่งวิชาชีพ

9 มิ.ย. 2568

แผ่นดินไทย ต้องเป็นของไทย

แผ่นดินไทย ต้องเป็นของไทย

2 มิ.ย. 2568

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

อย่ายอมให้เขมรรุกรานแผ่นดินไทย

26 พ.ค. 2568

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

ชาติจะเสียหาย หากยังฝืนทำต่อไป

19 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved