วันเสาร์ ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 เวลาช่วงบ่าย กกต. ได้ประกาศรับรองผลการเลือก สว. ครบทั้ง 200 คน รวมทั้งบัญชีสำรองอีก 100 คนพร้อมกันทั้งนี้โดยมีการประสานงานแจ้งสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเพื่อเตรียมรับการรายงานตัวในช่วงเช้าของวันเดียวกัน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวหลายกระแสไปในทางเดียวกันว่า กกต. จะยังไม่รับรองผลการเลือก สว. โดยจะทำการสืบสวนสอบสวนพิจารณาเรื่องร้องเรียนทั้งหลายก่อน ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ
สถานการณ์พลิกผันเช่นนี้ไม่มีใครทราบว่าเกิดจากเหตุใด เพราะไม่มีการแถลงถึงต้นเหตุที่ไปที่มา แต่ก็มีคนบางพวกคาดหมายว่าเป็นผลสืบเนื่องมาจาก สว. ชุด คสช. ประชุมกันล่าสุดและลงมติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาการเลือก สว. ชุดนี้ ในท่ามกลางเสียงคัดค้านของว่าที่ สว. รุ่นใหม่ และผู้ที่หมั่นไส้บางจำพวก
ก็เป็นที่เข้าใจกันดีว่า การตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญดังกล่าวนั้น แม้จะขึ้นชื่อว่าเพื่อการศึกษา แต่นัยที่แท้จริงก็คือเพื่อตรวจสอบจับผิดการจัดการเลือก สว. นั่นเอง ว่าได้เป็นไปโดยสุจริต โดยเที่ยงธรรม และโดยรวดเร็วหรือไม่
ซึ่งสอดคล้องกับการรายงานข่าวของสื่อมวลชนอย่างหนาหูถึงการจัดระบบอย่างเป็นล่ำเป็นสันในการเลือกครั้งนี้ มีการจัดตั้งบุคลากรเข้าไปสมัครรับเลือก มีการจัดบล็อกโหวตจึงเป็นผลให้ผู้สมัครรับเลือกที่มีข่าวคราวว่าใกล้ชิดกับกลุ่มการเมืองเขากระโดงได้รับเลือกเป็นจำนวนมาก ถึงขนาดคนขับรถของอดีตนักการเมืองใหญ่ก็ได้รับเลือกและทำให้จังหวัดบุรีรัมย์ซึ่งเป็นจังหวัดไม่ใหญ่มากมี สว. มากกว่ากรุงเทพมหานครถึงสองเท่า และมากกว่าหลายจังหวัดหลายเท่า
ที่สำคัญคือมีหลักฐานเกี่ยวกับการจัดทำโพยที่กำหนดนัดหมายให้มีการเลือกผู้สมัครบางหมายเลขที่อยู่ในเครือข่ายการจัดตั้ง นอกจากนั้นยังมีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการขนผู้สมัครไปประชุมพบปะกัน กระทั่งไปประชุมเพื่อแจกจ่ายเงินกัน และยังมีข้อเท็จจริงว่ามีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก จึงมีการร้องเรียนกันถึง 600 คดี
ในบรรดาการร้องเรียนดังกล่าวนั้นจำแนกได้เป็นสองประเภท คือ ประเภทที่จะส่งผลให้การเลือกเป็นโมฆะทั้งประเทศ โดยต้องจัดเลือกกันใหม่ทั้งประเทศ และประเภทที่ส่งผลเฉพาะตัวให้ต้องเพิกถอนการเลือกของผู้สมัครคนใดคนหนึ่งหรือหลายคน
เมื่อมีการร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกทั้งสองประเภทนี้กฎหมายบัญญัติให้ กกต. ต้องทำการสืบสวนสอบสวนและมีคำสั่งโดยเร็ว นั่นคือถ้าเป็นประเภทที่การเลือกเป็นโมฆะก็ต้องสั่งให้เลือกใหม่ทั้งประเทศโดยเร็วที่สุด ถ้าเป็นประเภทเฉพาะตัวก็แจกใบแดงเฉพาะตัวที่จะมีผลให้ต้องเลือกเฉพาะตัวกันใหม่ แต่โดยรวมก็คือเป็นหน้าที่ของ กกต. ต้องสืบสวนและมีคำสั่งโดยเร็ว
การละเว้นหรือการไม่ทำหน้าที่สืบสวนสอบสวนหรือมีคำสั่งโดยเร็วเป็นความผิดตามกฎหมาย และยังเป็นความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบด้วย แต่ละกระทงหรือกรรมความผิดจะมีโทษจำคุกถึง 10 ปี
ปรากฏว่า กกต. ยังไม่ได้มีคำสั่งเกี่ยวกับการร้องเรียนเลยแม้แต่เรื่องเดียว และจู่ๆ ก็ประกาศรับรองผลการเลือกทั้ง 200 คน ซึ่งหมายความว่า กกต. ได้รับรองผลการเลือกประเภทแรกคือการเลือกทั้งประเทศว่าชอบด้วยกฎหมาย และยังรับรองผลการเลือก ประเภทที่สอง คือทุกคนได้รับเลือก โดยสุจริต โดยเที่ยงธรรม เพียงแต่อ้างว่าจะมีการสืบสวนสอบสวนและสอยทีหลัง ซึ่งไม่เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ
ดังนั้นการประกาศรับรองผลดังกล่าวจึงเท่ากับเป็นการลุยไฟ และทำให้เกิดความห่วงใยว่าอนาคตของ กกต. ชุดนี้ชะดีชะร้ายอาจตามรอยสามหนาห้าห่วง คืออดีต กกต. รุ่นพี่ที่ถูกศาลจำคุกร้ายแรง เพราะเหตุจัดการเลือกตั้งโดยไม่สุจริต ไม่เที่ยงธรรม และเนื่องจากมีคดีร้องเรียนจำนวนมาก ก็อาจถูกกล่าวหาหลายบทหลายกระทง แม้นพลาดพลั้งขึ้นมาก็จะต้องโทษสถานหนักอาจต้องตายในคุก
ผลของการรับรองผลการเลือกสว.ทำให้ สว.สาย คสช. สิ้นสุดลง การตั้งคณะกรรมาธิการก็ต้องค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น ซึ่งคงสมใจคนบางพวกที่อยากให้ สว.สาย คสช. หมดบทบาทโดยเร็วที่สุด เพราะถือว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่ตัวแทนของปวงชน แต่เป็นกาฝากของโรคแทรกซ้อนในระบอบเผด็จการ ที่มีผลงานประการใดก็รู้กันทั่วไป ไม่จำเป็นต้องกล่าวอีก
นับจากนี้ไป สว. ชุดใหม่ก็จะเข้ารายงานตัวต่อสำนักเลขาธิการวุฒิสภา และเมื่อครบถ้วนแล้วและอยู่ในสมัยเปิดประชุมก็จะมีการเรียกประชุม สว. ชุดนี้เป็นครั้งแรกซึ่งน่าจะไม่เกินปลายเดือนกรกฎาคมนี้ เว้นแต่จะมีคำสั่งต้องห้ามตามคำสั่งศาลอันเกิดจากการถูกฟ้องคดี
ถ้าข่าวคราวเรื่องความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่าง สว. จำนวนมากในชุดนี้กับกลุ่มการเมืองเขากระโดงเป็นความจริง ก็หมายความว่าฐานะและพลังทางการเมืองของกลุ่มการเมืองเขากระโดงก็จะพุ่งทะยานขึ้นอยู่ในระดับทัดเทียมกันกับพรรคเพื่อไทย และจะกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของพรรคเพื่อไทยในทันที
จะมีบทบาทในการให้ความเห็นชอบข้าราชการระดับสูงในการเข้าดำรงตำแหน่ง รวมทั้งในการเลือกกรรมการองค์กรอิสระเกือบทั้งหมด รวมทั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญด้วย
ข่าวคราวการวิ่งเต้นคณะ คสช. เพื่อเป็นกรรมการองค์กรอิสระ และการวางคนของตัวเองเข้าไปคุมองค์กรอิสระเคยมีมาแล้วอย่างไรก็อาจมีขึ้นใหม่อย่างนั้นก็ได้ และอาจจะมีอานุภาพมากกว่าเก่าก็ได้ใครจะไปรู้

ช่างทำผ้าบาติก ปรับสีผ้าขาวดำ'ลายช่อดอกศรีตรัง' ถวายความอาลัย'พระพันปีหลวง'
อยากอวดแฟนสาว! เช่าชุดตำรวจเต็มยศ เซอร์ไพรส์งานรับปริญญา สุดท้ายเจอข้อหา
'ไอซ์ รักชนก'ฉะกลับ'แขก คำผกา' บอกสงสาร เป็นคนมีความสามารถ อยู่ที่อื่นคงก้าวหน้ากว่านี้
พสกนิกรในโครงการศิลปาชีพ'นาตาดนาโปร่ง' จัดพิธีอาลัยสมเด็จพระพันปีหลวง
ของขวัญล้ำค่า! 'เจมส์ เรืองศักดิ์'ประกาศข่าวดีภรรยาตั้งท้องลูกคนที่ 2

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี