วันจันทร์ ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันพฤหัสบดี ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2567, 02.00 น.
แจกเงินหมื่น ไม่ใช่ยาวิเศษ หรือแก้วสารพัดนึก

ดูทั้งหมด

  •  

เมื่อวานนี้ (25 กันยายน 2567) รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์โอนเงิน 10,000 บาท สำเร็จแล้วกว่า 3.16 ล้านราย


ประชาชนที่ได้รับเงินพากันไปต่อแถวกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม และถอนเงินตามสาขาธนาคารต่างๆ อย่างคึกคัก

1. เมื่อวานนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ

ยืนยันว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ระบบเศรษฐกิจได้เติมเงินหมุนเวียนกว่า 145,552 ล้านบาท เป็นการสร้างเศรษฐกิจลูกใหม่ลูกใหญ่ครั้งแรก ทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง และเงินก้อนนี้จะสามารถต่อลมหายใจให้กับพี่น้องประชาชนที่กำลังเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้

“นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจรอบนี้ จะถึงมือประชาชนกลุ่มเปราะบางจำนวน 14.55 ล้านคน ทุกคนจะได้รับเงินสด 10,000 บาท ผ่านช่องทางบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ไว้กับเลขบัตรประชาชนและช่องทางรับเงินเบี้ยคนพิการ โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ เมื่อเงินถึงมือประชาชนแล้วสามารถใช้จ่ายได้ทันที ซึ่งจะทยอยโอนเงินจนครบ

...นโยบายนี้จะช่วยกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประชาชน สร้างความหวังและนำคุณภาพชีวิตที่ดีมาให้กับประชาชน ทำให้ประชาชนมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ตามที่เคยได้กล่าวไว้

ขณะเดียวกัน รัฐบาลมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของพี่น้องประชาชนว่าจะมีการใช้เงินนี้อย่างมีประโยชน์

หรือบางครอบครัวที่ได้มากกว่าหนึ่งคน สามารถนำเงินมารวมกันเพื่อต่อยอดธุรกิจหรือสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับครอบครัวได้” – นางสาวแพทองธารกล่าว

2. สิ่งที่รัฐบาลควรสำเหนียก คือ การแจกเงินไม่ใช่ยาวิเศษ หรือแก้วสารพัดนึกในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ

ถ้ามันง่ายแค่แจกเงิน ป่านนี้ ทุกประเทศในโลก (แม้แต่ประเทศที่รวยกว่าไทย)เขาก็คงใช้วิธีแจกเงินกันหมด ก็คงรวยกันทั้งโลกหมดแล้ว

ตรงกันข้าม การแจกเงินแต่ละครั้ง ล้วนมีภาระต้นทุนที่ต้องใช้หนี้คืน

และยังมีค่าเสียโอกาสจากการนำเงินนั้นไปพัฒนาประเทศด้านต่างๆ ที่จำเป็นขาดแคลนด้วย

3. เศรษฐกิจของประเทศ ไม่ได้วิกฤตทุกภาคส่วน แต่มีบางส่วนที่อ่อนแอ จำเป็นต้องเข้าไปช่วยเหลือจริง

สำคัญ คือ รัฐบาลจะต้องลงมือแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างจริงจัง

ซึ่งจะต้องกึ่งบังคับให้ “กินยาขม” บ้าง

ไม่ใช่จะป้อนแต่ขนมหวาน ลดแลกแจกแถม ตามสันดานนักการเมืองสายพันธุ์นักเลือกตั้งอย่างเดียว

4. โจทย์ใหญ่ทางเศรษฐกิจหลายด้าน ที่ต้องติดตามแก้ไข และนับมือ อาทิ

4.1 แจกเงินหมื่นกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เจอผลลบจากอุทกภัย

วิจัยกรุงศรี ประมาณการ GDP ปี 2567 เติบโตที่ 2.4% ระบุว่า แม้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มเปราะบางจะช่วยหนุนการบริโภคช่วงปลายปีนี้ แต่ความเสียหายจากน้ำท่วมอาจจำกัดผลบวกต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ล่าสุด วิจัยกรุงศรียังคงประมาณการอัตราการเติบโตของ GDP ในปี 2567ไว้ที่ 2.4%

เพราะแรงสนับสนุนจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มเปราะบาง ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อและกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ

แต่ผลบวกดังกล่าว อาจถูกลดทอนด้วยผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยที่สร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

เบื้องต้นจากการคาดการณ์ในกรณีฐาน (Base Case) วิจัยกรุงศรีคาดว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมจะอยู่ที่ประมาณ 8.6 ล้านไร่ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายทางทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 3.1 พันล้านบาท และผลผลิตทางการเกษตรเสียหายมูลค่ารวม 43.4 พันล้านบาท

เมื่อรวมความเสียหายทั้งหมด คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 46.5 พันล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ -0.27% ของ GDP

4.2 การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาททั่วประเทศ ยังต้องรอ

วิจัยกรุงศรี มองว่ายังต้องติดตามการประชุมบอร์ดค่าจ้างครั้งถัดไป

จากกำหนดการประชุมคณะกรรมการค่าจ้างเพื่อพิจารณาถึงการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 400 บาททั่วประเทศ ทั้งในวันที่ 16 และ 20 กันยายน พบว่ายังไม่มีมติใดๆเนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ จึงทำให้ต้องขยับเลื่อนออกไปอีก

ทั้งนี้ ในปี 2567 ประเทศไทยมีการปรับขึ้นค่าจ้างสองครั้งคือเมื่อวันที่ 1 มกราคม ปรับขึ้นทั่วประเทศแบ่งออกเป็น 17 อัตรา โดยอยู่ในช่วง 330-370 บาทต่อวัน หรือเฉลี่ยปรับขึ้น 2.37%

และต่อมาวันที่ 12 เมษายน ปรับค่าจ้างเป็น 400 บาทต่อวัน เฉพาะโรงแรมที่มีลูกจ้างไม่เกิน 50 คนขึ้นไปใน 10 จังหวัดท่องเที่ยวและปรับบางเฉพาะพื้นที่

ปัจจุบัน แรงงานที่ได้ค่าจ้างน้อยกว่าค่าจ้างขั้นต่ำมีสัดส่วนอยู่เพียง 16% ของแรงงานทั้งหมด (เทียบกับ 38.8% ในปี 2557)

อย่างไรก็ตาม ยังมีธุรกิจที่มีการขยายตัวของผลิตภาพแรงงานในปัจจุบันต่ำกว่าการเติบโตของค่าจ้างที่แท้จริง (Negative productivity-wage gap) อาจเผชิญแรงกดดันมากขึ้นต่อผลกำไรและความสามารถในการแข่งขัน

เนื่องจากต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้นอาจไม่สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของผลิตภาพแรงงาน

โดยกลุ่มธุรกิจที่มีความเสี่ยงมากขึ้นจากการปรับขึ้นค่าจ้าง ได้แก่ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อิเล็กทรอนิกส์ ยางและพลาสติก อาหารและเครื่องดื่ม และยานยนต์และอุปกรณ์ขนส่ง รวมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ขณะที่ธุรกิจบริการอื่นๆ ส่วนใหญ่มีช่องว่างผลิตภาพแรงงานและค่าจ้างเป็นบวก อาทิ การเงิน และการค้า

ซึ่งสะท้อนว่าผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำต่อธุรกิจโดยภาพรวมอาจจำกัด

4.3 โอกาสจากภาคท่องเที่ยว

ไตรมาสสุดท้าย คือ เป็นช่วงที่ไทยมีโอกาสทองสำหรับเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ล่าสุด อโกด้า แพลตฟอร์มดิจิทัลสำหรับการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลวันชาติจีนที่กำลังจะมาถึง ซึ่งเป็นวันหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 1-7 ตุลาคม

โดย 5 อันดับจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีนในช่วงโกลเด้นวีค ได้แก่

1.โซล, ประเทศเกาหลีใต้

2.โตเกียว, ประเทศญี่ปุ่น

3.บาหลี, ประเทศอินโดนีเซีย

4.กรุงเทพฯ, ประเทศไทย

5.โอซาก้า, ประเทศญี่ปุ่น

การที่นักท่องเที่ยวจีนค้นหาที่พักในต่างประเทศเพิ่มขึ้นในปีนี้ เป็นสัญญาณดีที่จะมีการเดินทางออกมาเที่ยวมากกว่าปีที่แล้ว

และดีกว่านั้น คือ ประเทศไทยยังติดท็อป 5

4.4 ค่าเงินบาทแข็ง ส่งผลลบต่อการส่งออก และอาจรวมถึงการท่องเที่ยวไทย

ล่าสุด ค่าเงินบาทแข็งค่าถึงระดับ 32.60 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

น.ส.พิมพ์พันธ์ เจริญขวัญ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมา เงินบาทผันผวนมากขึ้น โดยปรับแข็งค่าขึ้น 3.8% ตั้งแต่ต้นปี และปรับแข็งค่าเร็วอยู่ในกลุ่มนำสกุลภูมิภาคในไตรมาส 3 จากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากกว่าการคาดการณ์ของตลาด ประกอบกับการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการจีนที่ส่งผลเชิงบวกต่อทิศทางเงินสกุลภูมิภาค

ยืนยันว่า ธปท. ติดตามสถานการณ์การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด และพร้อมเข้าดูแลเมื่อเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนมากผิดปกติ เพื่อลดผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของภาคเศรษฐกิจจริง

5. ประการสำคัญ การขับเคลื่อนโครงการงทุนของภาครัฐ และที่ภาครัฐร่วมกับเอกชนที่ยังล่าช้า อืออาด ยืดยาด อีกหลายโครงการ

ทั้งหมด ล้วนเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำหน้าที่รับผิดชอบในการขับเคลื่อนทั้งนั้น

แต่ดูเหมือนฝ่ายการเมืองในรัฐบาล แสดงอาการพุ่งเป้าไปที่แบงก์ชาติ

อ้างว่าต้องการให้ลดดอกเบี้ยนโยบาย

ซึ่งแน่นอน การลดดอกเบี้ย คือ การเหยียบคันเร่งการลงทุน ลดต้นทุนการผลิตภาคเอกชน และฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น

แต่ถ้าเมื่อไหร่ ฝ่ายการเมืองกุมอำนาจเหนือแบงก์ชาติได้ จะทำลายความน่าเชื่อถือของนโยบายการเงินตลอดจนระบบกำกับดูแลสถาบันการเงินทั้งระบบ

ยังไม่นับว่า รัฐบาลอาจจะล้วงไปเอาทุนสำรองมาใช้ สุ่มเสี่ยงต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจในระยะต่อไปหรือไม่

ฝ่ายการเมืองในรัฐบาลจะต้องหยุด ก่อนที่จะสายเกินไป

หันมามุ่งเน้นบริหารจัดการสิ่งที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของตนเอง โดยสุจริตเพื่อประเทศชาติและประชาชน

ไม่ใช่มุ่งแต่จะสนองตอบนโยบายทางการเมือง เพื่อพวกพ้องที่เคยมีคดีทุจริตประพฤติมิชอบ

การแจกเงินหมื่น ไม่ใช่ยาวิเศษ หรือแก้วสารพัดนึกในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

การพยายามตีแบงก์ชาติเป็นเมืองขึ้น ก็มีแต่จะพาประเทศชาติลงเหวไปด้วยกัน

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
15:10 น. 'อนุทิน'ลั่นเลือกตั้งหน้า ภท.พร้อมเป็นพรรคอันดับหนึ่ง แบะท่าจับมือได้ทุกพรรค หากทำเพื่อบ้านเมือง
15:01 น. ภท.แน่นไปด้วยบ้านใหญ่! ‘นายกเบี้ยว’ควงลูกชาย-‘อดีต สส.พท.-รทสช.-ปชป.’มาพรึ่บ
15:01 น. เช็กบิล‘พ่อลูกฮุน’! อสส.รับคดียิงระเบิดโจมตีพลเรือนไทยเป็น‘คดีนอกราชอาณาจักร’
15:00 น. สวยสะกดทุกสายตา! 'เมษา เพ็ชรคราม' คว้ามง 'Miss Trans Thailand 2025' ส่องประกายพลังแห่งความงาม
14:59 น. ป๋าเต็ดฟาดตรง ไม่เห็นด้วยหลังมีดรามารีเซลบัตรคอนเสิร์ต
ดูทั้งหมด
มาแล้ว! กรมอุตุฯคาดหมายอากาศ 7 วันข้างหน้า ตั้งแต่ 12-18 ธ.ค.68
หนาวมาแน่! มวลอากาศเย็นระลอกใหม่จ่อถล่มอีสาน เหนือ-ใต้รับมือฝนตก-คลื่นสูง
(คลิป) สีหศักดิ์ย้ำ! กัมพูชา มีทางเลือกแค่ 2 ทาง
ในหลวง พระราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายกฯ-นายกสภาจุฬาฯ นำ คณะผู้บริหารเฝ้าฯ
เขมรหน้าแหกคาบ้าน! โพสต์ชวน'ลาว-เมียนมา-มาเลย์'มาสู้ไทย แต่เจอคอมเมนต์สวนกลับหงายเงิบ
ดูทั้งหมด
ขณะที่มีศึกนอก อย่าให้ศึกในทำร้ายประเทศ
‘ธนาธร-พิธา’กับสงครามเขมร
การสร้างสังคมไทยให้เป็นประชาธิปไตย โดยผ่านการปฏิรูประบบและกระบวนการกฎหมาย 5 อวสาน
จบเมื่อไร?
ตอบโต้ป้องกันตนเอง อย่างได้สัดส่วน ไม่ใช่มัดมือ-มัดเท้าตัวเองแบบโง่ๆ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'อนุทิน'ลั่นเลือกตั้งหน้า ภท.พร้อมเป็นพรรคอันดับหนึ่ง แบะท่าจับมือได้ทุกพรรค หากทำเพื่อบ้านเมือง

ป๋าเต็ดฟาดตรง ไม่เห็นด้วยหลังมีดรามารีเซลบัตรคอนเสิร์ต

กอล์ฟไทยสุดยอด!กวาดเรียบ4ทองซีเกมส์รอบ10ปี

‘เพื่อไทย’เลือดไหลอีก! ‘อดีต สส.ปทุมธานี’โบกมือลา แจงขอเดินบนเส้นทางใหม่

ทบ.เตือนภัย กัมพูชาล็อกเป้า 'กันทรลักษ์' สั่งประชาชนห้ามเข้าพื้นที่

บ้านใหญ่ไหลซบ'ภท.' 'แป๊ะ-เฮ้ง-ขิง-นิพนธ์'ยกก๊วนซบสู้ศึกเลือกตั้ง

  • Breaking News
  • \'อนุทิน\'ลั่นเลือกตั้งหน้า ภท.พร้อมเป็นพรรคอันดับหนึ่ง แบะท่าจับมือได้ทุกพรรค หากทำเพื่อบ้านเมือง 'อนุทิน'ลั่นเลือกตั้งหน้า ภท.พร้อมเป็นพรรคอันดับหนึ่ง แบะท่าจับมือได้ทุกพรรค หากทำเพื่อบ้านเมือง
  • ภท.แน่นไปด้วยบ้านใหญ่! ‘นายกเบี้ยว’ควงลูกชาย-‘อดีต สส.พท.-รทสช.-ปชป.’มาพรึ่บ ภท.แน่นไปด้วยบ้านใหญ่! ‘นายกเบี้ยว’ควงลูกชาย-‘อดีต สส.พท.-รทสช.-ปชป.’มาพรึ่บ
  • เช็กบิล‘พ่อลูกฮุน’! อสส.รับคดียิงระเบิดโจมตีพลเรือนไทยเป็น‘คดีนอกราชอาณาจักร’ เช็กบิล‘พ่อลูกฮุน’! อสส.รับคดียิงระเบิดโจมตีพลเรือนไทยเป็น‘คดีนอกราชอาณาจักร’
  • สวยสะกดทุกสายตา! \'เมษา เพ็ชรคราม\' คว้ามง \'Miss Trans Thailand 2025\' ส่องประกายพลังแห่งความงาม สวยสะกดทุกสายตา! 'เมษา เพ็ชรคราม' คว้ามง 'Miss Trans Thailand 2025' ส่องประกายพลังแห่งความงาม
  • ป๋าเต็ดฟาดตรง ไม่เห็นด้วยหลังมีดรามารีเซลบัตรคอนเสิร์ต ป๋าเต็ดฟาดตรง ไม่เห็นด้วยหลังมีดรามารีเซลบัตรคอนเสิร์ต
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ตอบโต้ป้องกันตนเอง อย่างได้สัดส่วน  ไม่ใช่มัดมือ-มัดเท้าตัวเองแบบโง่ๆ

ตอบโต้ป้องกันตนเอง อย่างได้สัดส่วน ไม่ใช่มัดมือ-มัดเท้าตัวเองแบบโง่ๆ

15 ธ.ค. 2568

เมื่อกัมพูชาทำให้โบราณสถาน-กาสิโน เป็นฐานทหาร

เมื่อกัมพูชาทำให้โบราณสถาน-กาสิโน เป็นฐานทหาร

12 ธ.ค. 2568

การค้าขาย การบริโภค และการออม

การค้าขาย การบริโภค และการออม

11 ธ.ค. 2568

ไทยป้องกันตนเอง

ไทยป้องกันตนเอง

10 ธ.ค. 2568

ป่วนไทยเมื่อไหร่ มึงต้องเจออย่างนี้

ป่วนไทยเมื่อไหร่ มึงต้องเจออย่างนี้

9 ธ.ค. 2568

รัฐอันธพาลวางทุ่นระเบิดใหม่ ดื้อด้าน ปากแข็ง  รัฐผู้เสียหายมีความชอบธรรมที่จะใช้อาวุธโต้ตอบ

รัฐอันธพาลวางทุ่นระเบิดใหม่ ดื้อด้าน ปากแข็ง รัฐผู้เสียหายมีความชอบธรรมที่จะใช้อาวุธโต้ตอบ

8 ธ.ค. 2568

รูปถ่ายเก่า ไม่ชัดเท่าการกระทำ และเส้นเงิน

รูปถ่ายเก่า ไม่ชัดเท่าการกระทำ และเส้นเงิน

5 ธ.ค. 2568

พูดแล้วทำ  กล้าทำกับสายการบิน หรือไม่?

พูดแล้วทำ กล้าทำกับสายการบิน หรือไม่?

4 ธ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved