วันพุธ ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เขียนให้คิด
เขียนให้คิด

เขียนให้คิด

เฉลิมชัย ยอดมาลัย
วันอาทิตย์ ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2567, 02.00 น.
พระเกี้ยวองค์ไหนคือตราสัญลักษณ์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ดูทั้งหมด

  •  

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย เป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ 26 มีนาคม 2459 และเป็นมหาวิทยาลัยที่มีรากเหง้ามาจากโรงเรียนสำหรับฝึกหัดวิชาข้าราชการฝ่ายพลเรือน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2442 โดยแรกเริ่มอยู่ในเขตพระบรมมหาราชวัง โดยต่อมา 1 เมษายน 2445 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนมหาดเล็ก

ตราสัญลักษณ์ประจำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคือพระเกี้ยว ซึ่งมีประวัติว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ กำหนดให้พระเกี้ยว
เป็นพิจิตรเรขาประจำรัชกาลของพระองค์ ครั้นเมื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งโรงเรียนสำหรับฝึกหัดข้าราชการฝ่ายพลเรือน ต่อมาคือโรงเรียนมหาดเล็ก
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระเกี้ยวเป็นเครื่องหมายหน้าหมวกของนักเรียน และมีพระบรมราชานุญาตให้ใช้ตราพระเกี้ยวเป็นเครื่องหมายของโรงเรียน ครั้นต่อมาเมื่อสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็ได้อัญเชิญพระเกี้ยวเป็นตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยมาตั้งแต่ต้นจนปัจจุบัน


พระเกี้ยว ตราสัญลักษณ์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีความเป็นมาตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ดังนี้ 

ปี 2459 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยใช้สัญลักษณ์พระเกี้ยวอยู่บนเบาะรอง เป็นเครื่องหมายประจำมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นรูปแบบตามที่โรงเรียนสำหรับฝึกหัดข้าราชการฝ่ายพลเรือนเคยใช้มาก่อนแล้ว เพราะตราพระเกี้ยวเป็นตราพระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ 5 มูลเหตุที่รัชกาลที่ 5 ทรงใช้ตราพระเกี้ยวเป็นพระราชลัญจกรประจำพระองค์ เพราะว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชบิดาในรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระเกี้ยวแด่รัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งยังทรงดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ เพื่อทรงใช้ในพระราชพิธีโสกันต์ เมื่อพ.ศ. 2408 ซึ่งพระเกี้ยวก็คือ จุลมงกุฎ ดังนั้น รัชกาลที่ 5จึงทรงใช้ตราพระเกี้ยว หรือจุลมงกุฎเป็นพระราชลัญจกรประจำพระองค์ และทรงใช้พระราชลัญจกรพระเกี้ยวประทับกำกับพระปรมาภิไธย

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีพระราชบัญญัติของมหาวิทยาลัยที่ว่าด้วยเครื่องหมายราชการ พ.ศ. 2482 ระบุให้ ตราพระเกี้ยววางบนหมอน เป็นเครื่องหมายราชการของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (หมายเหตุในครั้งนั้นยังสะกดคำว่า จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย)

ในอดีตนั้น พบว่าหน่วยงานต่างๆ ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยใช้ตราสัญลักษณ์พระเกี้ยวต่างกันไปตามแต่จะสรรคิดสรรค์สร้าง โดยเฉพาะในแต่ละคณะวิชา จนทำให้เกิดความสับสนว่าตกลงแล้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะใช้ตราสัญลักษณ์ใดกันแน่ เพราะตรามหาวิทยาลัยไม่มีเอกภาพ จนกระทั่งในปี 2531 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีมติให้ใช้ตราพระเกี้ยวที่เขียนแบบโดย ภิญโญ สุวรรณคีรี จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เป็นตราประจำมหาวิทยาลัยเพียงแบบเดียวเหมือนกันทั้งมหาวิทยาลัย เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพของการใช้ตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็ใช้ตราพระเกี้ยวที่เป็นเอกลักษณ์มาโดยตลอด จนมาถึงยุคบัญฑิต เอื้ออาภรณ์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ได้มีผู้บริหารรายหนึ่งของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเสนอแนวคิด rebrand จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งทุกคนในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยระบุชื่อคนคนนั้นได้ตรงกันคือ

เอกก์ ภทรธนกุล จากภาควิชาการตลาดคณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี 

การ rebrand จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโดยเอกก์คือการเปลี่ยนตราสัญลักษณ์พระเกี้ยวแบบเดิมเป็นแบบ minimalism คือการลดความวิจิตรบรรจงของตราพระเกี้ยวเดิมลงให้เหลือแบบง่ายๆ ที่ดูแล้วก็พอจะเข้าใจได้ว่าคือพระเกี้ยว แต่สำหรับคนจำนวนหนึ่งก็วิพากษ์ว่าไม่ใช่พระเกี้ยวแต่มันคือสถูป ก็แล้วแต่จะวิจารณ์กันไปเพราะเป็นสิทธิที่สามารถวิจารณ์ได้ แต่คำถามสำคัญอยู่ที่การเปลี่ยนแปลงตราประจำมหาวิทยาลัย สามารถกระทำได้โดยใครก็ได้เช่นนั้นหรือ ตราประจำมหาวิทยาลัยคือสิ่งที่บ่งบอกเอกลักษณ์ของมหาวิทยาลัย ดังนั้น การจะเปลี่ยนแปลงตรามหาวิทยาลัย ไม่ควรจะเกิดขึ้นโดยง่ายขอย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ดีขึ้น พัฒนาขึ้นเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำ แต่ไม่ใช่เปลี่ยนแล้วลดคุณค่า ลดความน่าเชื่อถือ หรือลดเอกลักษณ์ดั่งเดิมของมหาวิทยาลัยลงไป

คนบางคนบอกว่าจะไปเอาอะไรหนักหนากับตรามหาวิทยาลัย เพราะมันก็คือสิ่งสมมุติ ก็ต้องบอกว่าหากคิดว่าตรามหาวิทยาลัยไม่สำคัญ ก็ต้องถามต่อไปว่าแล้วต้องไปให้ความสำคัญกับตรามหาวิทยาลัยเพื่ออะไร เมื่อคิดว่าไม่สำคัญก็ไม่ต้องมี แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยที่พระเจ้าแผ่นดินทรงสถาปนา และตราพระเกี้ยวก็คือตราประจำพระองค์ของรัชกาลที่ 5 หากผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทั้งยุคของบัณฑิต และยุคของวิเลิศ ภูริวัชร จะบอกว่าตราพระเกี้ยวไม่ใช่เรื่องสำคัญของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ต้องบอกให้ชัด แล้วต้องประกาศให้ชัดเจนว่าเปลี่ยนแปลงตราพระเกี้ยวได้ รวมถึงประกาศให้เรียกชื่อมหาวิทยาลัย
แบบสั้นๆ ได้ว่า Chula ไม่ใช่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือจุฬาฯ หรือ Chulalongkorn University หรือ CU

เรื่องตราพระเกี้ยวแบบ minimalism กับชื่อ Chula นั้น ผู้เขียนและนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกลุ่มหนึ่งตั้งคำถามในเรื่องนี้มาตั้งแต่สมัยบัณฑิต เอื้ออาภรณ์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดี และยังคงตั้งคำถามมาจนถึงยุคของวิเลิศ ภูริวัชร ดำรงตำแหน่งอธิการบดี คำถามหลักๆ ที่ถามทั้งโดยผ่านสื่อมวลชน และผ่านการส่งจดหมายโดยตรงถึงอธิการบดีของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คือ ตกลงผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะประกาศให้ชัดเจนหรือไม่ว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีตราสัญลักษณ์แบบใดกันแน่ เพราะตราพระเกี้ยวที่ประทับบนใบปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็เป็นแบบหนึ่ง ส่วนตราพระเกี้ยวบนป้ายประกาศต่างๆ และบนหนังสือบัณฑิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็เป็นอีกแบบหนึ่ง ถามย้ำว่าผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะใช้ตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยแบบใดกันแน่ ส่วนคำถามที่ถามมาโดยตลอดคือ ตกลงจะใช้ชื่อ Chulalongkorn University หรือ Chula ถามย้ำว่าผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแน่ใจหรือว่า Chula คือ Chulalongkorn University และขอถามเรื่องนี้ไปยัง สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ในฐานะนายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วย และต้องการทราบคำตอบจากสุรเกียรติ์ว่า Chula คือ Chulalongkorn University กระนั้นหรือ

ส่วนประเด็น rebrand จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้น ก็ต้องตั้งคำถามว่ามีความจำเป็นอะไรกับการrebrand และต้องถามว่า rebrand เพื่ออะไร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ของตัวเองไปขายสินค้าอะไรนอกเหนือจากการสอนหนังสือ และทำวิจัย รวมถึงการทำงานวิชาการ กระนั้นหรือ

หากคิดว่าต้อง rebrand จริงๆ ก็ต้องถามว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไม่ดีตรงไหน มีข้อบกพร่องตรงไป การ rebrand จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะทำให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีความสามารถทางวิชาการดีขึ้นเด่นขึ้นจนสามารถก้าวไปเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ใน 5ของโลกได้หรือ อันที่จริงต้องบอกว่าหวังสูงเกินไป เอาแค่ให้ติดอันดับ 1 ใน 50 ของมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกก็พอแล้ว

ชื่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไม่มีเรื่องเสื่อมเสียใดๆ แต่ความเสื่อมเสียในสถาบันการศึกษาแห่งนี้มาจากพฤติกรรมของบุคลากรบางคนและผู้บริหารบางรายของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การลดชื่อยาวๆ ลงมาเหลือชื่อสั้นๆ เป็นเรื่องของภาษาปาก เป็นเรื่องปกติที่คนทั่วไปกระทำกันมานานแล้ว แต่ไม่จำเป็นต้องลดชื่อเต็มในเวลาเขียนอย่างเป็นทางการลงมาเหลือเพียงคำสั้นๆ เพราะมันไม่ได้ทำให้ความน่าเชื่อถือทางวิชาการของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้น

การเปลี่ยนแปลงตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยทำได้ ในกรณีที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดเท่านั้น ขอย้ำว่าไม่มีใครที่เขามีความคิดในเชิงบวกเปลี่ยนแปลงตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยไปตามเรื่องตามราวแบบลมเพลมพัดเพราะมันคือการลดทอนความน่าเชื่อถือของตัวเอง

หากผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอึดอัดลำบากใจกับตราพระเกี้ยวแบบดั้งเดิมจนทำงานไม่ได้ ก็น่าจะขอบพระบรมราชานุญาตเลิกใช้ตราพระเกี้ยวให้เป็นกิจลักษณะ และหากคิดว่าชื่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยาวไป ยากไป ก็น่าจะขอพระบรมราชานุญาตเปลี่ยนชื่อมหาวิทยาลัย ก็น่าจะได้กระมัง

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
11:56 น. 'โรม'ไม่ชัวร์! ร่วมม็อบ28มิ.ย. ข้องใจ'ภท.'เร่งเปิดซักฟอกรัฐบาล ทำยืดเยื้อยุบสภาฯ ไม่ได้
11:41 น. ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันพุธ 25 มิถุนายน 2568
11:38 น. 'เที่ยวไทยคนละครึ่ง'วุ่น! เว็บล่ม 'ททท.'เลื่อนเปิดระบบให้ประชาชน ลงทะเบียน1ก.ค.นี้
11:38 น. ทุบเปรี้ยง! ‘หมอเดชา’เชื่อมี 2 เหตุผล เร่งรีบนำ‘กัญชา’กลับไปเป็นยาเสพติด
11:33 น. ปรับ'ลียง'ตกชั้น!พาเลซ-โคนมร่วมอลเวง!!!!
ดูทั้งหมด
'ญี่ปุ่น'อัปเกรดพันธมิตร! เตรียมส่ง'ยุทโธปกรณ์'เสริมเขี้ยวเล็บไทย-7ชาติ
วินาทีตัดสินใจของ'พีระพันธุ์' คือจุดเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย
กัมพูชาราคาน้ำมันพุ่ง เริ่มขาดแคลน 'พนักงานบ่อนปอยเปต'โอดบ่อนเตรียมปิดสิ้นเดือนนี้
ดาวเทียมเปิดภาพช็อก! 3โรงงานนิวเคลียร์'อิหร่าน'พินาศ หลังโดนสหรัฐฯถล่มเจาะลึกใต้ดิน
'เจนี่'ละทางโลก! โกนหัวบวชสามเณรีแล้ว 'พระสังฆราชศรีลังกา'พระราชทานบาตร-จีวร
ดูทั้งหมด
‘93 ปี’ประชาธิปไตยเบ่งบาน‘ไล่แพทองธาร’
รอพิกุลทองร่วงจากปาก ‘พีระพันธุ์
การทูตขายชาติแบบแพทองธาร
เผด็จการไม่ยั่งยืนและประชาธิปไตย แก้ไขปรับปรุงตัวเองไปได้ตลอด
ประเทศไทยยกเว้นภาษีกำไรคริปโต 5 ปี หนุนการลงทุนดันประเทศสู่ศูนย์กลางการเงินดิจิทัลอาเซียน
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'โรม'ไม่ชัวร์! ร่วมม็อบ28มิ.ย. ข้องใจ'ภท.'เร่งเปิดซักฟอกรัฐบาล ทำยืดเยื้อยุบสภาฯ ไม่ได้

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันพุธ 25 มิถุนายน 2568

นักวิชาการลงชื่อ‘ถวายฎีกา’ ขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยแก้ไขปัญหาวิกฤติชาติบ้านเมือง

'เที่ยวไทยคนละครึ่ง'วุ่น! เว็บล่ม 'ททท.'เลื่อนเปิดระบบให้ประชาชน ลงทะเบียน1ก.ค.นี้

เชื้อเพลิงฟอสซิล vs พลังงานสะอาด อะไรคือความสมดุลด้านพลังงาน

แฉรัฐบาลงัดสารพัด‘วิชามาร’สกัดกั้นมวลชนร่วมชุมนุม‘ม็อบ 28 มิ.ย.’

  • Breaking News
  • \'โรม\'ไม่ชัวร์! ร่วมม็อบ28มิ.ย. ข้องใจ\'ภท.\'เร่งเปิดซักฟอกรัฐบาล ทำยืดเยื้อยุบสภาฯ ไม่ได้ 'โรม'ไม่ชัวร์! ร่วมม็อบ28มิ.ย. ข้องใจ'ภท.'เร่งเปิดซักฟอกรัฐบาล ทำยืดเยื้อยุบสภาฯ ไม่ได้
  • ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันพุธ 25 มิถุนายน 2568 ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันพุธ 25 มิถุนายน 2568
  • \'เที่ยวไทยคนละครึ่ง\'วุ่น! เว็บล่ม \'ททท.\'เลื่อนเปิดระบบให้ประชาชน ลงทะเบียน1ก.ค.นี้ 'เที่ยวไทยคนละครึ่ง'วุ่น! เว็บล่ม 'ททท.'เลื่อนเปิดระบบให้ประชาชน ลงทะเบียน1ก.ค.นี้
  • ทุบเปรี้ยง! ‘หมอเดชา’เชื่อมี 2 เหตุผล เร่งรีบนำ‘กัญชา’กลับไปเป็นยาเสพติด ทุบเปรี้ยง! ‘หมอเดชา’เชื่อมี 2 เหตุผล เร่งรีบนำ‘กัญชา’กลับไปเป็นยาเสพติด
  • ปรับ\'ลียง\'ตกชั้น!พาเลซ-โคนมร่วมอลเวง!!!! ปรับ'ลียง'ตกชั้น!พาเลซ-โคนมร่วมอลเวง!!!!
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

อยู่เพื่อทำลายประเทศไทย

อยู่เพื่อทำลายประเทศไทย

22 มิ.ย. 2568

แพทองธาร : ความเจริญ-ความวิบัติของประเทศไทย

แพทองธาร : ความเจริญ-ความวิบัติของประเทศไทย

15 มิ.ย. 2568

อย่ารักชาติแบบศาสตราจารย์ไร้สาระบางจำพวก

อย่ารักชาติแบบศาสตราจารย์ไร้สาระบางจำพวก

8 มิ.ย. 2568

งบประมาณฯ ผลาญชาติ???

งบประมาณฯ ผลาญชาติ???

1 มิ.ย. 2568

แพทองธารไปอังกฤษ ไปพบยิ่งลักษณ์???

แพทองธารไปอังกฤษ ไปพบยิ่งลักษณ์???

25 พ.ค. 2568

ทิดแย้ม ไร่ขิง ปัญหาบนยอดภูเขาน้ำแข็ง

ทิดแย้ม ไร่ขิง ปัญหาบนยอดภูเขาน้ำแข็ง

18 พ.ค. 2568

บ่อนกาสิโน-แพทองธาร ชินวัตร : ภาพลักษณ์ไทย

บ่อนกาสิโน-แพทองธาร ชินวัตร : ภาพลักษณ์ไทย

11 พ.ค. 2568

ปากแจ๋ว ปากพล่อย อ้างวิชาการบังหน้า

ปากแจ๋ว ปากพล่อย อ้างวิชาการบังหน้า

4 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved