วันเสาร์ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เขียนให้คิด
เขียนให้คิด

เขียนให้คิด

เฉลิมชัย ยอดมาลัย
วันอาทิตย์ ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2567, 02.00 น.
พระเกี้ยวองค์ไหนคือตราสัญลักษณ์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ดูทั้งหมด

  •  

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย เป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ 26 มีนาคม 2459 และเป็นมหาวิทยาลัยที่มีรากเหง้ามาจากโรงเรียนสำหรับฝึกหัดวิชาข้าราชการฝ่ายพลเรือน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งขึ้น เมื่อ พ.ศ. 2442 โดยแรกเริ่มอยู่ในเขตพระบรมมหาราชวัง โดยต่อมา 1 เมษายน 2445 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนมหาดเล็ก

ตราสัญลักษณ์ประจำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคือพระเกี้ยว ซึ่งมีประวัติว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ กำหนดให้พระเกี้ยว
เป็นพิจิตรเรขาประจำรัชกาลของพระองค์ ครั้นเมื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งโรงเรียนสำหรับฝึกหัดข้าราชการฝ่ายพลเรือน ต่อมาคือโรงเรียนมหาดเล็ก
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้อัญเชิญพระเกี้ยวเป็นเครื่องหมายหน้าหมวกของนักเรียน และมีพระบรมราชานุญาตให้ใช้ตราพระเกี้ยวเป็นเครื่องหมายของโรงเรียน ครั้นต่อมาเมื่อสถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็ได้อัญเชิญพระเกี้ยวเป็นตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยมาตั้งแต่ต้นจนปัจจุบัน


พระเกี้ยว ตราสัญลักษณ์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีความเป็นมาตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ดังนี้ 

ปี 2459 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยใช้สัญลักษณ์พระเกี้ยวอยู่บนเบาะรอง เป็นเครื่องหมายประจำมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นรูปแบบตามที่โรงเรียนสำหรับฝึกหัดข้าราชการฝ่ายพลเรือนเคยใช้มาก่อนแล้ว เพราะตราพระเกี้ยวเป็นตราพระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ 5 มูลเหตุที่รัชกาลที่ 5 ทรงใช้ตราพระเกี้ยวเป็นพระราชลัญจกรประจำพระองค์ เพราะว่าพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชบิดาในรัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระเกี้ยวแด่รัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งยังทรงดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ เพื่อทรงใช้ในพระราชพิธีโสกันต์ เมื่อพ.ศ. 2408 ซึ่งพระเกี้ยวก็คือ จุลมงกุฎ ดังนั้น รัชกาลที่ 5จึงทรงใช้ตราพระเกี้ยว หรือจุลมงกุฎเป็นพระราชลัญจกรประจำพระองค์ และทรงใช้พระราชลัญจกรพระเกี้ยวประทับกำกับพระปรมาภิไธย

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีพระราชบัญญัติของมหาวิทยาลัยที่ว่าด้วยเครื่องหมายราชการ พ.ศ. 2482 ระบุให้ ตราพระเกี้ยววางบนหมอน เป็นเครื่องหมายราชการของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (หมายเหตุในครั้งนั้นยังสะกดคำว่า จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย)

ในอดีตนั้น พบว่าหน่วยงานต่างๆ ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยใช้ตราสัญลักษณ์พระเกี้ยวต่างกันไปตามแต่จะสรรคิดสรรค์สร้าง โดยเฉพาะในแต่ละคณะวิชา จนทำให้เกิดความสับสนว่าตกลงแล้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะใช้ตราสัญลักษณ์ใดกันแน่ เพราะตรามหาวิทยาลัยไม่มีเอกภาพ จนกระทั่งในปี 2531 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีมติให้ใช้ตราพระเกี้ยวที่เขียนแบบโดย ภิญโญ สุวรรณคีรี จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เป็นตราประจำมหาวิทยาลัยเพียงแบบเดียวเหมือนกันทั้งมหาวิทยาลัย เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพของการใช้ตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็ใช้ตราพระเกี้ยวที่เป็นเอกลักษณ์มาโดยตลอด จนมาถึงยุคบัญฑิต เอื้ออาภรณ์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ได้มีผู้บริหารรายหนึ่งของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเสนอแนวคิด rebrand จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งทุกคนในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยระบุชื่อคนคนนั้นได้ตรงกันคือ

เอกก์ ภทรธนกุล จากภาควิชาการตลาดคณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี 

การ rebrand จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโดยเอกก์คือการเปลี่ยนตราสัญลักษณ์พระเกี้ยวแบบเดิมเป็นแบบ minimalism คือการลดความวิจิตรบรรจงของตราพระเกี้ยวเดิมลงให้เหลือแบบง่ายๆ ที่ดูแล้วก็พอจะเข้าใจได้ว่าคือพระเกี้ยว แต่สำหรับคนจำนวนหนึ่งก็วิพากษ์ว่าไม่ใช่พระเกี้ยวแต่มันคือสถูป ก็แล้วแต่จะวิจารณ์กันไปเพราะเป็นสิทธิที่สามารถวิจารณ์ได้ แต่คำถามสำคัญอยู่ที่การเปลี่ยนแปลงตราประจำมหาวิทยาลัย สามารถกระทำได้โดยใครก็ได้เช่นนั้นหรือ ตราประจำมหาวิทยาลัยคือสิ่งที่บ่งบอกเอกลักษณ์ของมหาวิทยาลัย ดังนั้น การจะเปลี่ยนแปลงตรามหาวิทยาลัย ไม่ควรจะเกิดขึ้นโดยง่ายขอย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ดีขึ้น พัฒนาขึ้นเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องทำ แต่ไม่ใช่เปลี่ยนแล้วลดคุณค่า ลดความน่าเชื่อถือ หรือลดเอกลักษณ์ดั่งเดิมของมหาวิทยาลัยลงไป

คนบางคนบอกว่าจะไปเอาอะไรหนักหนากับตรามหาวิทยาลัย เพราะมันก็คือสิ่งสมมุติ ก็ต้องบอกว่าหากคิดว่าตรามหาวิทยาลัยไม่สำคัญ ก็ต้องถามต่อไปว่าแล้วต้องไปให้ความสำคัญกับตรามหาวิทยาลัยเพื่ออะไร เมื่อคิดว่าไม่สำคัญก็ไม่ต้องมี แต่ปัญหาอยู่ตรงที่ว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยที่พระเจ้าแผ่นดินทรงสถาปนา และตราพระเกี้ยวก็คือตราประจำพระองค์ของรัชกาลที่ 5 หากผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทั้งยุคของบัณฑิต และยุคของวิเลิศ ภูริวัชร จะบอกว่าตราพระเกี้ยวไม่ใช่เรื่องสำคัญของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ต้องบอกให้ชัด แล้วต้องประกาศให้ชัดเจนว่าเปลี่ยนแปลงตราพระเกี้ยวได้ รวมถึงประกาศให้เรียกชื่อมหาวิทยาลัย
แบบสั้นๆ ได้ว่า Chula ไม่ใช่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือจุฬาฯ หรือ Chulalongkorn University หรือ CU

เรื่องตราพระเกี้ยวแบบ minimalism กับชื่อ Chula นั้น ผู้เขียนและนิสิตเก่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกลุ่มหนึ่งตั้งคำถามในเรื่องนี้มาตั้งแต่สมัยบัณฑิต เอื้ออาภรณ์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดี และยังคงตั้งคำถามมาจนถึงยุคของวิเลิศ ภูริวัชร ดำรงตำแหน่งอธิการบดี คำถามหลักๆ ที่ถามทั้งโดยผ่านสื่อมวลชน และผ่านการส่งจดหมายโดยตรงถึงอธิการบดีของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คือ ตกลงผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะประกาศให้ชัดเจนหรือไม่ว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีตราสัญลักษณ์แบบใดกันแน่ เพราะตราพระเกี้ยวที่ประทับบนใบปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็เป็นแบบหนึ่ง ส่วนตราพระเกี้ยวบนป้ายประกาศต่างๆ และบนหนังสือบัณฑิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็เป็นอีกแบบหนึ่ง ถามย้ำว่าผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะใช้ตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยแบบใดกันแน่ ส่วนคำถามที่ถามมาโดยตลอดคือ ตกลงจะใช้ชื่อ Chulalongkorn University หรือ Chula ถามย้ำว่าผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแน่ใจหรือว่า Chula คือ Chulalongkorn University และขอถามเรื่องนี้ไปยัง สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ในฐานะนายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วย และต้องการทราบคำตอบจากสุรเกียรติ์ว่า Chula คือ Chulalongkorn University กระนั้นหรือ

ส่วนประเด็น rebrand จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้น ก็ต้องตั้งคำถามว่ามีความจำเป็นอะไรกับการrebrand และต้องถามว่า rebrand เพื่ออะไร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ของตัวเองไปขายสินค้าอะไรนอกเหนือจากการสอนหนังสือ และทำวิจัย รวมถึงการทำงานวิชาการ กระนั้นหรือ

หากคิดว่าต้อง rebrand จริงๆ ก็ต้องถามว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไม่ดีตรงไหน มีข้อบกพร่องตรงไป การ rebrand จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะทำให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีความสามารถทางวิชาการดีขึ้นเด่นขึ้นจนสามารถก้าวไปเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ใน 5ของโลกได้หรือ อันที่จริงต้องบอกว่าหวังสูงเกินไป เอาแค่ให้ติดอันดับ 1 ใน 50 ของมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกก็พอแล้ว

ชื่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไม่มีเรื่องเสื่อมเสียใดๆ แต่ความเสื่อมเสียในสถาบันการศึกษาแห่งนี้มาจากพฤติกรรมของบุคลากรบางคนและผู้บริหารบางรายของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การลดชื่อยาวๆ ลงมาเหลือชื่อสั้นๆ เป็นเรื่องของภาษาปาก เป็นเรื่องปกติที่คนทั่วไปกระทำกันมานานแล้ว แต่ไม่จำเป็นต้องลดชื่อเต็มในเวลาเขียนอย่างเป็นทางการลงมาเหลือเพียงคำสั้นๆ เพราะมันไม่ได้ทำให้ความน่าเชื่อถือทางวิชาการของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้น

การเปลี่ยนแปลงตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยทำได้ ในกรณีที่จำเป็นอย่างยิ่งยวดเท่านั้น ขอย้ำว่าไม่มีใครที่เขามีความคิดในเชิงบวกเปลี่ยนแปลงตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยไปตามเรื่องตามราวแบบลมเพลมพัดเพราะมันคือการลดทอนความน่าเชื่อถือของตัวเอง

หากผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอึดอัดลำบากใจกับตราพระเกี้ยวแบบดั้งเดิมจนทำงานไม่ได้ ก็น่าจะขอบพระบรมราชานุญาตเลิกใช้ตราพระเกี้ยวให้เป็นกิจลักษณะ และหากคิดว่าชื่อจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยาวไป ยากไป ก็น่าจะขอพระบรมราชานุญาตเปลี่ยนชื่อมหาวิทยาลัย ก็น่าจะได้กระมัง

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
11:16 น. 'เด็จพี่'ชูคอ! เชียร์'กกต.-ดีเอสไอ-ปปง.' เช็กบิลต้นตอ ฮั้วเลือก สว.
11:15 น. ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน'ประจำวันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2568
11:15 น. งานชุมนุมสายมูคึกคักจัดกลางสวนสาธารณะคุกเก่าลุ้นเลขธูปผู้ว่าฯหลังเคยเข้ามา2งวดซ้อน
11:08 น. เตือน! สัปดาห์เดียวป่วยโควิด พุ่ง 8,000 ราย ระบาดหนักกว่าไข้หวัดใหญ่ 2 เท่า
10:58 น. 'เอกนัฏ'ส่ง สุดซอย ปูพรมกวาดล้าง ปิดตาย โรงงานเหล็กผี IF จัดโทษหนัก เช็คบิล ขรก.มีเอี่ยว
ดูทั้งหมด
ภาพอบอุ่นใจความรักที่งดงามของ 'กษัตริย์จิกมี-สมเด็จพระราชินี-เจ้าชาย-พระธิดา' ในยามค่ำคืนของทะเลทรายโกบี
(คลิป) 'ฐปณีย์' เละคาบ้าน! ด้อยค่าคนไม่เห็นด้วย 'เมียจ่าปืน' ออกโรงตอกกลับไม่ใช่ IO
หยามเกียรติธงชาติไทย! ทนายแจ้งเอาผิด โพสต์เฟสบุ๊คดูหมิ่น'ธงคือผ้าเช็ดเท้า'
‘ลาออก’ไปเถอะ! ฉะ‘นายกฯ’มีสติปัญญาแค่นี้ แผ่นเสียงตกร่องชู‘กาสิโน’แก้เศรษฐกิจ
'แก้ว อภิรดี'ควงลูกสาวเปิดสถานะหัวใจ เผยเตรียมสละโสดก่อนอายุ 35
ดูทั้งหมด
แวดวงการเงิน : 10 พฤษภาคม 2568
หุ้นเด่น : 10 พฤษภาคม 2568
จีนแนะอเมริกาแสวงจิตวิญญาณอเมริกันแทนเป็นอันธพาลโลก
เตรียมหาช่องทางธรรมชาติไว้หนีคดี
บุคคลแนวหน้า : 10 พฤษภาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'เด็จพี่'ชูคอ! เชียร์'กกต.-ดีเอสไอ-ปปง.' เช็กบิลต้นตอ ฮั้วเลือก สว.

ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน'ประจำวันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2568

งานชุมนุมสายมูคึกคักจัดกลางสวนสาธารณะคุกเก่าลุ้นเลขธูปผู้ว่าฯหลังเคยเข้ามา2งวดซ้อน

'เอกนัฏ'ส่ง สุดซอย ปูพรมกวาดล้าง ปิดตาย โรงงานเหล็กผี IF จัดโทษหนัก เช็คบิล ขรก.มีเอี่ยว

เข้าใกล้จุดแตกหัก! 'อินเดีย'ยิงขีปนาวุธถล่ม'ปากีสถาน' ก่อนเจอปืนใหญ่โต้กลับดับแล้ว48ศพ

ด่วน!เปิดชื่อ 55 สว. เรียกรับทราบข้อหาปม'คดีฮั้ว' แบ่งเป็น 3 ลอต

  • Breaking News
  • \'เด็จพี่\'ชูคอ!  เชียร์\'กกต.-ดีเอสไอ-ปปง.\' เช็กบิลต้นตอ ฮั้วเลือก สว. 'เด็จพี่'ชูคอ! เชียร์'กกต.-ดีเอสไอ-ปปง.' เช็กบิลต้นตอ ฮั้วเลือก สว.
  • ยิปซีพยากรณ์\'ดวงรายวัน\'ประจำวันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2568 ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน'ประจำวันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2568
  • งานชุมนุมสายมูคึกคักจัดกลางสวนสาธารณะคุกเก่าลุ้นเลขธูปผู้ว่าฯหลังเคยเข้ามา2งวดซ้อน งานชุมนุมสายมูคึกคักจัดกลางสวนสาธารณะคุกเก่าลุ้นเลขธูปผู้ว่าฯหลังเคยเข้ามา2งวดซ้อน
  • เตือน! สัปดาห์เดียวป่วยโควิด พุ่ง 8,000 ราย ระบาดหนักกว่าไข้หวัดใหญ่ 2 เท่า เตือน! สัปดาห์เดียวป่วยโควิด พุ่ง 8,000 ราย ระบาดหนักกว่าไข้หวัดใหญ่ 2 เท่า
  • \'เอกนัฏ\'ส่ง สุดซอย ปูพรมกวาดล้าง ปิดตาย โรงงานเหล็กผี IF จัดโทษหนัก เช็คบิล ขรก.มีเอี่ยว 'เอกนัฏ'ส่ง สุดซอย ปูพรมกวาดล้าง ปิดตาย โรงงานเหล็กผี IF จัดโทษหนัก เช็คบิล ขรก.มีเอี่ยว
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ปากแจ๋ว ปากพล่อย อ้างวิชาการบังหน้า

ปากแจ๋ว ปากพล่อย อ้างวิชาการบังหน้า

4 พ.ค. 2568

ประเทศวิบัติ เพราะนักการเมืองโง่มีอำนาจรัฐ

ประเทศวิบัติ เพราะนักการเมืองโง่มีอำนาจรัฐ

27 เม.ย. 2568

อันวาร์, มิน อ่อง หล่าย, ทักษิณ และแพทองธาร

อันวาร์, มิน อ่อง หล่าย, ทักษิณ และแพทองธาร

20 เม.ย. 2568

แพทองธารไม่เห็นปัญหา reciprocal tariff

แพทองธารไม่เห็นปัญหา reciprocal tariff

13 เม.ย. 2568

แก้ปัญหา US tariff ด้วยสติปัญญาของแพทองธาร!!!

แก้ปัญหา US tariff ด้วยสติปัญญาของแพทองธาร!!!

6 เม.ย. 2568

แผ่นดินไหว ภัยพิบัติที่รัฐบาลไทยไม่เคยเตรียมตัว

แผ่นดินไหว ภัยพิบัติที่รัฐบาลไทยไม่เคยเตรียมตัว

30 มี.ค. 2568

ดูเตอร์เต-ทักษิณ ความเหมือนที่ต่างกันกับสงครามปราบยาเสพติด

ดูเตอร์เต-ทักษิณ ความเหมือนที่ต่างกันกับสงครามปราบยาเสพติด

23 มี.ค. 2568

ทักษิณ ชินวัตร กลัวถูกซักฟอกกลางสภา แต่อยากมีอำนาจการเมือง

ทักษิณ ชินวัตร กลัวถูกซักฟอกกลางสภา แต่อยากมีอำนาจการเมือง

16 มี.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved