ได้ยิน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์เรื่องการติดตามจับกุมพล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี และจำเลยคดีตากใบอีก 6 คนที่หลบหนี ซึ่งจะหมดอายุความ 20 ปีในวันที่ 25 ตุลาคมอีกสองวันข้างหน้านี้แล้ว เหมือนได้ฟังคนสิ้นคิดพูด

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นามว่า”ทวี สอดส่อง”ผู้นี้ ซึ่งเติบโตในชีวิตราชการประจำจนกระทั่งผันชีวิตเข้ามาสู่เส้นทางการเมือง และมีอำนาจวาสนาเป็นถึงรัฐมนตรีในทุกวันนี้ได้ หากดูปูมหลังก็จะรู้ว่า พ.ต.อ.ทวี“มีวันนี้”เพราะนายใหญ่ที่ชื่อ“ทักษิณ ชินวัตร”สนับสนุนอุ้มชูมาตั้งแต่ครั้งเป็นตำรวจกองปราบปราม

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เข้าไปเกี่ยวข้องกับ“ทักษิณ ชินวัตร” ตั้งแต่เป็นตำรวจกองปราบปราม โดยเป็นทีม“มือปราบ”ของ  ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย และอดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทยคนแรก สมัยที่ ร.ต.อ.ปุระชัย-เจ้าของฉายา“มือปราบสายเดี่ยว”เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในปี 2544 ยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทยที่มี“ทักษิณ ชินวัตร”เป็นนายกรัฐมนตรี

จากนั้นในปี 2547 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ก็ได้โอนย้ายข้ามฟากจากตำแหน่งรองผู้บังคับการกองปราบปรามไปเป็นรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จนกระทั่งขึ้นสู่ตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ก่อนจะได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในปี 2554 สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และหลังจากนั้นได้ลาออกจากราชการเข้ามาสู่แวดวงการเมืองในปี 2561 โดยร่วมก่อตั้งพรรคประชาชาติกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้า“กลุ่มวาดะห์”ในเวลานั้น

ถ้าใครสังเกต  จะเห็นว่าเวลาที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ให้สัมภาษณ์ในเรื่องที่จะต้องเลี่ยงเพราะพูดไปก็จะเข้าตัว ก็มักจะกล่าวเฉไฉแถเถือกไปแบบน้ำขุ่นๆ พร้อมกับทำตากะหลับกะเหลือกกลอกไปกลอกมา ไม่ยอมมองหน้าผู้สื่อข่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ ภาพนี้เห็นตั้งแต่ในช่วงที่อดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร เป็น“นักโทษเทวดาชั้น 14” เมื่อถูกสื่อถามเรื่องทักษิณครั้งใด พ.ต.อ.ทวีจะออกอาการ เพราะมีอำนาจดลบันดาลและเกี่ยวข้องโดยตรงในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

สำหรับเรื่องการติดตามจับกุมจำเลย“คดีตากใบ”ก็เช่นกัน ผู้สื่อข่าวถามเรื่องโคแต่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ตอบเรื่องกระบือ ซึ่งถ้อยความที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมเมื่อวานนี้ นอกจากจะเป็นเรื่องที่ พ.ต.อ.เคยให้สัมภาษณ์มาแล้วเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมสัปดาห์ก่อนเหมือนเปิดแผ่นเสียงตกร่องแล้ว ก็ยังสะท้อนให้เห็นว่า“ไร้น้ำยา” สิ้นเกียรติภูมิและสิ้นศักดิ์ศรีของคนที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

ผู้สื่อข่าวถามว่า “คดีตากใบที่กำลังจะหมดอายุความในอีกไม่กี่วัน หมดหวังที่จะนำคนผิดมาลงโทษแล้วใช่หรือไม่”, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง กลอกตากะหลับกะเหลือกเช่นเคยก่อนจะตอบว่า “เรื่องนี้ทางฝ่ายตำรวจและหน่วยงานความมั่นคงพยายามที่จะทำอย่างเต็มที่ ก็หวังว่าอาจจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้”

แค่คำตอบแรกของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ผู้มี“ใจภักดิ์”กับอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร อย่างมิแปรเปลี่ยนแม้จะอยู่คนละพรรคการเมืองก็ตาม ฟังแล้วก็หมดรูปหมดท่า และทำให้รู้สึกสิ้นหวังกับกระบวนการยุติธรรมของประเทศนี้ภายใต้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มี“คุณหนูอุ๊งอิ๊งค์”เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะตัวนายกรัฐมนตรีเวลานี้ใครก็เห็นอยู่แล้วว่าไร้สติปัญญาและขาดความรู้ความสามารถ จนถูกเรียกขานว่าเป็น“นายกฯไอแพด” พ.ต.อ.ทวี ที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ยังเป็นไปกับเขาอีกหนึ่งคน ถึงขนาดต้องพึ่งพา“ปาฏิหาริย์”มาช่วย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมผู้ซึ่งต้องรอ“ปาฏิหาริย์”มาเป็น“ตัวช่วย” ได้อ้างตัวเลขเก่าแบบท่องบทซ้ำเหมือนแผ่นเสียงตกร่องจากการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ว่า “ถ้าดูจากคนที่หลบหนีตอนนี้มีประมาณ 1,789 หมาย แต่ถ้าเป็นตัวคนจะเท่า 1,067 หมาย คือมีหมายที่ซ้ำกัน 722 หมาย และคนที่ถูกหมายจับส่วนใหญ่ไม่ใช่ข้าราชการ เป็นบุคคลที่เขาคิดว่าเขาต้องหลบหนี บางส่วนอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และในเรื่องนี้มีที่ขาดอายุความ 140 ราย”

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติที่มีฐานเสียงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี สส.ระบบเขตที่จังหวัดยะลา, นราธิวาส และปัตตานี รวมทั้งหมดถึง 7 คน ได้สรุปเรื่องการติดตามจับกุมตัวจำเลยคดีตากใบที่หลบหนีว่า “ฉะนั้น การที่จะพิจารณาเรื่องใดต้องพิจารณาให้รอบด้าน สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้ทุกหน่วยต้องทำให้เต็มที่ ในช่วงสองสามวันนี้ ทุกคนต้องทำงานกันแบบหามรุ่งหามค่ำ แม้ว่าคนที่หนีไปจะมีการออกหมายจากตำรวจสากล ไปอยู่ประเทศไหนก็ให้เอาตัวมาให้ได้”

ถึงวันนี้ คงพูดได้คำเดียวว่า อีก 2 วันที่คดีตากใบจะหมดอายุความ ก็น่าจะต้องเชื่อตามที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง พูด คือ รอให้“ปาฏิหาริย์”เกิดขึ้น ส่วนเรื่องการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.)เพื่อชะลอหรือยืดเวลาไม่ให้คดีตากใบต้องหมดอายุความ 20 ปีในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ ก็คงต้องรอ“อภินิหาร”ที่เป็น“ซุปเปอร์ปาฏิหาริย์”อีกเช่นกัน จึงจะทำสำเร็จและมีผลบังคับใช้ได้ทันภายในเวลา 2 วันนี้

หากเป็นชาวพุทธทั่วไปก็คงต้องร้องอุทานออกมาแบบในหนังว่า“อมิตตพุทธ” และถ้าเป็น“คนไทยมุสลิม”ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตทั้งหมด 85 ศพจาก“โศกนาฏกรรมตากใบ”เมื่อ 20 ปีก่อน ก็คงมีหนทางเดียวเท่านั้น

คือ-ทำ“ละหมาดฮายัต”เพื่อขอพรให้“อัลลอฮ์”ประทานให้ได้ดังประสงค์ !

รุ่งเรือง ปรีชากุล