วันอังคาร ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / อ่านระหว่างบรรทัด
อ่านระหว่างบรรทัด

อ่านระหว่างบรรทัด

สันติสุข มะโรงศรี
วันจันทร์ ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2567, 02.00 น.
รถไฟความเร็วสูง 3 สนามบิน แก้สัญญาเพื่อไปต่อ หรือเซตซีโร่ เริ่มใหม่?

ดูทั้งหมด

  •  

โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เป็นโครงการที่ล่าช้า ต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลลุงตู่


ถ้าเป็นไปตามแผนกำหนดเดิมเมื่อครั้งประมูลโครงการ ปี 2561 ปัจจุบัน โครงการควรเปิดให้บริการแล้ว

นักลงทุน นักท่องเที่ยว ประชาชน จะสามารถนั่งรถไฟฟ้าความเร็วสูงจากดอนเมือง สุวรรณภูมิ ไปภาคตะวันออก ชลบุรี พัทยา อู่ตะเภา อย่างสะดวกสบายได้แล้ว และการพัฒนาโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องในพื้นที่อีอีซีก็จะได้รับอานิสงส์ไปด้วยเช่นเดียวกัน อาทิ เมืองการบินภาคตะวันออก

แต่ความล่าช้าของโครงการ ปัญหาการส่งมอบพื้นที่ ผนวกกับผลกระทบช่วงโควิด ทำให้โครงการสะดุดหยุดลง เกือบจะแน่นิ่ง เพราะจนถึงวันนี้ ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างโครงสร้างงานโยธารถไฟฟ้าความเร็วสูงเลย

จึงเกิดคำถามว่า โครงการจะไปต่ออย่างไร? จะมีการแก้สัญญาสัมปทานตามข้อเรียกร้องของเอกชนคู่สัญญาหรือไม่? อย่างไร?

1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการอีอีซี แย้มกับสื่อมวลชนว่า สัปดาห์ที่จะถึงนี้ น่าจะมีการนำข้อเสนอแก้ไขสัญญาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินฯ เข้าสู่ที่ประชุม ครม.

2. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยืนยันว่า เพื่อให้โครงการเดินต่อไปได้ โดยไม่มีการเอื้อประโยชน์แก่เอกชนโดยมิชอบแน่นอน

การแก้ไขสัญญา เกิดจากเอกชนและภาครัฐผิดสัญญา จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้โครงการเกิดความล่าช้า รัฐบาลไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ให้กับเอกชนได้ ขณะที่เอกชนก็ไม่สามารถดำเนินการได้ จึงเป็นต่างคนต่างผิดสัญญา จึงต้องพิจารณาใหม่เนื่องจากเป็นหนึ่งในโครงการยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งหากเชื่อม 3 สนามบินจะทำให้ประชาชนเดินทางสะดวก การค้าขายดีขึ้น จึงต้องเดินหน้าโครงการนี้ต่อไป จึงต้องมาพิจารณาร่วมกันในการแก้ไขสัญญา เพื่อไม่ให้รัฐเสียประโยชน์

“ไม่ใช่การเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน สัญญาได้ให้อัยการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว” -นายสุริยะกล่าว

3. จะแก้สัญญาอย่างไร?

ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 4/2567 วันที่ 11 ตุลาคม 2567  นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯเป็นประธานการประชุม

กพอ. ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบหลักการการแก้ไขปัญหาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน โดยการปรับปรุงสัญญาร่วมลงทุนเพื่อผลักดันให้โครงการฯสามารถเดินหน้าต่อไปได้ บนพื้นฐานที่ภาครัฐไม่เสียประโยชน์ และภาคเอกชนไม่ได้ประโยชน์เกินสมควร

โดยจะเสนอการแก้ไขสัญญาต่อ ครม. เพื่อพิจารณาใน 5 ประเด็น ประกอบด้วย

(1) วิธีชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุน (Public Investment Cost : PIC)

จากเดิม เมื่อเอกชนเปิดเดินรถไฟความเร็วสูงฯรัฐจะแบ่งจ่ายเป็นจำนวน 149,650 ล้านบาท

เป็น จ่ายเป็นงวดตามความก้าวหน้าของงานที่ ร.ฟ.ท. ตรวจรับ วงเงินไม่เกิน 120,000 ล้านบาท

โดยเอกชนต้องวางหลักประกันเพิ่มเติมจากสัญญาเดิม รวมเป็นจำนวน 160,000 ล้านบาท เพื่อรับประกันว่าจะก่อสร้างและเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงฯ ได้ภายใน 5 ปี ทั้งนี้ กรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างจะทยอยตกเป็นของภาครัฐ (ร.ฟ.ท.) ทันทีตามงวดของการจ่ายเงิน

(2) กำหนดการชำระค่าสิทธิให้ร่วมลงทุนในโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (ARL)

โดยให้เอกชนแบ่งชำระค่าสิทธิจำนวน 10,671.09 ล้านบาท เป็น 7 งวด เป็นรายปี จำนวนเท่าๆ กัน โดยต้องชำระงวดแรก ณ วันที่ลงนามแก้ไขสัญญา ในการนี้เอกชนจะต้องวางหนังสือค้ำประกันที่ออกโดยธนาคารในมูลค่าเท่ากับค่าสิทธิ ARL รวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเงินอื่นที่ ร.ฟ.ท. ต้องรับภาระ

(3) กำหนดส่วนแบ่งผลประโยชน์ตอบแทน (Revenue Sharing) เพิ่มเติม

หากในอนาคตอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของโครงการฯ ลดลงอย่างมีนัยสําคัญ และเป็นผลให้เอกชนได้ผลประโยชน์ตอบแทน (IRR) เพิ่มขึ้นเกิน 5.52% ร.ฟ.ท.มีสิทธิเรียกให้เอกชนชําระส่วนแบ่งผลประโยชน์เพิ่มได้ ตามจำนวนที่จะตกลงกันต่อไป

(4) การยกเว้นเงื่อนไขการออกหนังสือแจ้งให้เริ่มงาน (Notice to Proceed : NTP)

โดยให้คู่สัญญาจัดทำบันทึกข้อตกลงยกเว้นเงื่อนไข NTP ที่ยังไม่สำเร็จ เพื่อให้ ร.ฟ.ท. สามารถออก NTP ได้ทันทีเมื่อลงนามสัญญาที่แก้ไขตามหลักการทั้งหมดนี้

(5) การป้องกันปัญหาในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสถานะทางการเงินของโครงการฯ

โดยปรับปรุงข้อสัญญาในส่วนของเหตุสุดวิสัยและเหตุผ่อนผัน ให้สอดคล้องกับสัญญาร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชนในโครงการอื่น

4. ถ้าไม่แก้สัญญา?

ถ้าไม่แก้สัญญา โครงการก็คงไปต่อไม่ได้ สุดท้ายผลกระทบก็เกิดแก่เอกชน และประเทศชาติส่วนรวมเป็นลูกโซ่ไปยังโครงการอื่นๆ ในพื้นที่อีอีซีด้วยอย่างแน่นอน

หากยกเลิกสัญญาเดิม แน่นอนว่าจะต้องมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายระหว่างกันยาวนาน ส่วนโครงการก็จะต้องไปเริ่มต้นประมูลกันใหม่ หรืออาจจะเปลี่ยนมาให้ ร.ฟ.ท.ดำเนินโครงการเอง ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ก็ต้องใช้เวลาเริ่มดำเนินโครงการกันใหม่

5. เอื้อโครงการ ไปต่อได้ จริงหรือไม่?

สัญญาสัมปทานโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ประกอบด้วยการก่อสร้างและเดินรถไฟฟ้าความเร็วสูง 3 สนามบิน และการเข้าไปบริหารการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์

แนวทางที่จะแก้สัญญาข้างต้น สรุปหลักการที่สำคัญ คือ

การแก้ไขวิธีชำระเงินที่รัฐร่วมลงทุนในโครงการฯ (PIC) โดยรัฐจะเริ่มลงทุนเร็วขึ้นตามระยะเวลาความแล้วเสร็จของงาน จากสัญญาเดิม เอกชนต้องสร้างเสร็จก่อน เปิดการเดินรถแล้ว รัฐค่อยจ่ายเงินร่วมลงทุน

จะแก้ไขเป็น “สร้างไป-จ่ายไป” โดยเอกชนจะต้องก่อสร้างโครงการแล้วเสร็จในระยะเวลา 5 ปีนับจากวันส่งมอบ NTP และรัฐจะเริ่มจ่ายหลังจากนั้นในปีที่ 6 ของโครงการโดยแบ่งจ่ายตามความคืบหน้าของงาน

เพื่อแลกกับการได้เงื่อนไขนี้ เอกชนต้องวางหลักประกัน (Bank Guarantee) เต็มจำนวนค่าก่อสร้าง (1.6 แสนล้านบาท) เช่นเดียวกับการแก้ไขวิธีการชำระค่าสิทธิโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงก์ (ARL) เอกชนแบ่งชำระ 7 งวด โดยร.ฟ.ท. จะยังคงได้รับค่าสิทธิครบจำนวน 10,671.09 ล้านบาท เอกชนรับภาระดอกเบี้ยค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายทางการเงินส่วนที่เกินทั้งสิ้น

ภาพรวม จึงเป็นการเอื้ออำนวยช่วยเหลือเอกชนคู่สัญญาสัมปทาน ให้ได้รับเงินที่รัฐร่วมลงทุนเร็วขึ้น โดยไม่ต้องรอให้ก่อสร้างงานโยธาเสร็จก่อนตามสัญญาเดิมแต่เอกชนก็มีภาระจะต้องสร้างหลักประกันให้แก่รัฐเพิ่มเติมด้วย โดยวางหลักประกัน (Bank Guarantee)เต็มจำนวนค่าก่อสร้าง เพื่อเร่งการก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็วเช่นกัน

ขณะเดียวกัน เงินที่เอกชนต้องจ่ายแก่รัฐในการเข้าไปบริหารแอร์พอร์ตเรลลิงก์ ก็จ่ายช้าลง เดิมต้องจ่ายก้อนเดียว แต่ก็จะได้ผ่อนจ่ายแทน (ในทางปฏิบัติจริง ขณะนี้ เอกชนคู่สัญญารับโอนแอร์พอร์ตลิงก์ไปบริหารแล้ว ตั้งแต่ตุลาคม 2564 โดยวางเงินมัดจำ 1,067 ล้านบาท ส่วนที่เหลือราวๆ 9 พันกว่าล้านบาท ยังไม่ได้จ่ายตามเอ็มโอยู เพราะรอการแก้ไขสัญญานี่เอง)

ผมเห็นว่า ทั้งหมด เป็นผลประโยชน์แก่เอกชน และเป็นแก้สัญญาที่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขสาระสำคัญทางการเงินของโครงการ ผิดไปจากตอนประมูล (อาจไม่เป็นธรรมต่อเอกชนที่แพ้การประมูลตามเงื่อนไขเดิม) ซึ่งในทางกฎหมายคงต้องรอดูความเห็นของทางอัยการ

อย่างไรก็ตาม แม้ภาครัฐเองจะได้ประโยชน์ คือ ทำให้โครงการเดินต่อไปได้ ซึ่งจะมีผลประโยชน์ต่อเนื่องไปยังโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ อีกมากมายในพื้นที่อีอีซี ตามแผนยุทธศาสตร์

แต่ผมเห็นว่า รัฐบาลควรชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดยิ่งขึ้น ใน 2 ประการข้อสัญญาที่เพิ่มขึ้นมา ซึ่งเป็นผลประโยชน์แก่ภาครัฐ คือ ประเด็นกำหนดส่วนแบ่งผลประโยชน์ตอบแทน (Revenue Sharing) เพิ่มเติม และการป้องกันปัญหาในอนาคตที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสถานะทางการเงินของโครงการฯ

โดยจะต้องชัดเจนว่า รัฐจะได้รับส่วนแบ่งผลประโยชน์อย่างไร และรัฐจะไม่ต้องเข้าไปรับภาระความเสี่ยงทางการเงินของโครงการ หรือ ไม่ต้องร่วมรับภาระหนี้ผลขาดทุน เป็นต้น

รวมถึงเหตุผลความจำเป็นผลกระทบต่อเอกชนในช่วงโควิด ตลอดจนความล่าช้าในการส่งมอบพื้นที่ของภาครัฐเอง มีปัญหาอย่างไร? กรณีแตกต่างจากการแก้สัญญาหลังการประมูลโครงการเพื่อเอื้อประโยชน์แก่เอกชนโดยมิชอบในโครงการอื่นที่เคยถูกพิพากษาลงโทษจำคุกผู้เกี่ยวข้องอย่างไร?

รัฐบาลควรทำให้เกิดความชัดเจนในประเด็นเหล่านี้เสียก่อนด้วย

ถ้ามีความชัดเจนแล้ว ก็ขอสนับสนุนให้เดินหน้าต่อเพราะประเทศชาติเสียเวลา เสียโอกาสมามากแล้ว

สันติสุข มะโรงศรี

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
15:21 น. 'แสตมป์-พรวศิน'ควงคู่'เล้ง-ณัฐพล'ฉลองวันเกิดสุดอบอุ่น แฟนด้อมร่วมยินดี
15:18 น. ‘บัญญัติ’ออกตัว! ไม่ใช่ขาเชียร์‘อภิสิทธิ์’ แต่รับอยู่ในเกณฑ์ได้เปรียบสุด คัมแบ็คกอบกู้‘ประชาธิปัตย์’
15:12 น. 'อสส.ไทย'ร่วมหารือ'อัยการสูงสุด สปป.ลาว'ถึงแนวทางการปฏิบัติงานสองประเทศ
15:10 น. ทส.ขึ้นทะเบียน'ซากดึกดำบรรพ์' หอยขมเหมืองแม่เมาะ จ.ลำปาง เป็นแหล่งที่ 27 ของประเทศ
15:09 น. THX เล่นใหญ่!เปิดตัวโปรเจกต์ใหม่ 'RE:VIBES'แฟนๆ กรี๊ดสนั่นลุ้นเพลงดังยุคทองจะกลับมาแบบไหน!?
ดูทั้งหมด
'เพลง ชนม์ทิดา'ร่ายความในใจ หลังถูกจับตาความสัมพันธ์'เป๊ก เศรณี'
น้ำตาคลอทั้งโซเชียล! 'เกลือ'ตั้งคำถาม'ทำไมทหารพรานต้องใส่ชุดดำ' ได้คำตอบสุดสะเทือนใจ
‘ในหลวง-พระราชินี’ เสด็จฯทอดพระเนตรการแสดงกายกรรมจากจีน
'เป๊ก-เพลง'ไปต่อหรือพอแค่นี้? วงในเมาท์แรงหลังจัดตั้งครม. รู้เรื่อง!
'พุทธ อภิวรรณ'ชวนจับตา!!! คาดมีข่าวใหญ่ คนดังมีลูกศิษย์ทั่วฟ้าเมืองไทย ถูกสอบโยงผู้หญิง-เงินบริจาค
ดูทั้งหมด
ในความต่างระหว่างสีผิว
นักการเมืองปล้นอำนาจประชาชนฉีกทิ้ง รธน.
บุคคลแนวหน้า : 16 กันยายน 2568
เปิดด่านเพื่อ...?
เตโชเบาะสะแก ซำแต
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ชมสด! การออกผลสลากกินแบ่งรัฐบาล ประจำวันที่ 16 กันยายน 2568

ทส.ขึ้นทะเบียน'ซากดึกดำบรรพ์' หอยขมเหมืองแม่เมาะ จ.ลำปาง เป็นแหล่งที่ 27 ของประเทศ

​ปิดประตูตาย‘บุหรี่ไฟฟ้า’ ‘วุฒิสภา’หนุนเข้มแบนนำเข้าเด็ดขาด

'สิริพงศ์'ชี้'อนุทิน'หนักแน่นไม่เปิดด่านแน่ ถ้า'กัมพูชา'ไม่แก้สถานการณ์

‘ทวี’อุบตอบปมอภัยโทษลดโทษ‘ทักษิณ’ 1 ปี เป็นโมฆะหรือไม่ อ้างไม่ขอก้าวล่วงคำพิพากษา

‘อ.ไชยันต์’จี้พรรคการเมือง! เผยให้ชัดจะแก้รัฐธรรมนูญมาตราไหน ก่อนทำประชามติ

  • Breaking News
  • \'แสตมป์-พรวศิน\'ควงคู่\'เล้ง-ณัฐพล\'ฉลองวันเกิดสุดอบอุ่น แฟนด้อมร่วมยินดี 'แสตมป์-พรวศิน'ควงคู่'เล้ง-ณัฐพล'ฉลองวันเกิดสุดอบอุ่น แฟนด้อมร่วมยินดี
  • ‘บัญญัติ’ออกตัว! ไม่ใช่ขาเชียร์‘อภิสิทธิ์’ แต่รับอยู่ในเกณฑ์ได้เปรียบสุด คัมแบ็คกอบกู้‘ประชาธิปัตย์’ ‘บัญญัติ’ออกตัว! ไม่ใช่ขาเชียร์‘อภิสิทธิ์’ แต่รับอยู่ในเกณฑ์ได้เปรียบสุด คัมแบ็คกอบกู้‘ประชาธิปัตย์’
  • \'อสส.ไทย\'ร่วมหารือ\'อัยการสูงสุด สปป.ลาว\'ถึงแนวทางการปฏิบัติงานสองประเทศ 'อสส.ไทย'ร่วมหารือ'อัยการสูงสุด สปป.ลาว'ถึงแนวทางการปฏิบัติงานสองประเทศ
  • ทส.ขึ้นทะเบียน\'ซากดึกดำบรรพ์\' หอยขมเหมืองแม่เมาะ จ.ลำปาง เป็นแหล่งที่ 27 ของประเทศ ทส.ขึ้นทะเบียน'ซากดึกดำบรรพ์' หอยขมเหมืองแม่เมาะ จ.ลำปาง เป็นแหล่งที่ 27 ของประเทศ
  • THX เล่นใหญ่!เปิดตัวโปรเจกต์ใหม่ \'RE:VIBES\'แฟนๆ กรี๊ดสนั่นลุ้นเพลงดังยุคทองจะกลับมาแบบไหน!? THX เล่นใหญ่!เปิดตัวโปรเจกต์ใหม่ 'RE:VIBES'แฟนๆ กรี๊ดสนั่นลุ้นเพลงดังยุคทองจะกลับมาแบบไหน!?
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

‘พ่อขายฝัน อาขายข้าว ลูกสาวขายชาติ  เห็นศัตรูเป็นญาติ เห็นรั้วของชาติเป็นศัตรู’

‘พ่อขายฝัน อาขายข้าว ลูกสาวขายชาติ เห็นศัตรูเป็นญาติ เห็นรั้วของชาติเป็นศัตรู’

15 ก.ย. 2568

นายกฯ อนุทิน  ในสนามทุ่นระเบิดการเมือง

นายกฯ อนุทิน ในสนามทุ่นระเบิดการเมือง

8 ก.ย. 2568

ผ่าทางตันการเมืองไทย  ต้องไม่จำนนใต้ตีนพรรคเซาะกร่อนบ่อนทำลาย

ผ่าทางตันการเมืองไทย ต้องไม่จำนนใต้ตีนพรรคเซาะกร่อนบ่อนทำลาย

1 ก.ย. 2568

ปลดล็อกประเทศ  เปิดทางตั้งรัฐบาลชุดใหม่

ปลดล็อกประเทศ เปิดทางตั้งรัฐบาลชุดใหม่

25 ส.ค. 2568

หนึ่งหมื่นคำแก้ตัว  ไม่สู้ ‘กรรมชี้เจตนา’

หนึ่งหมื่นคำแก้ตัว ไม่สู้ ‘กรรมชี้เจตนา’

18 ส.ค. 2568

กริพเพน กับกองทัพอากาศไทย  ขยี้ใจฮุนเซน

กริพเพน กับกองทัพอากาศไทย ขยี้ใจฮุนเซน

11 ส.ค. 2568

เปลี่ยนรัฐบาล  เปลี่ยนสถานการณ์ประเทศไทย

เปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนสถานการณ์ประเทศไทย

4 ส.ค. 2568

เชื่อกองทัพ ชาติพ้นภัย  หลงเหลี่ยมคนจัญไร ชาติอับปาง

เชื่อกองทัพ ชาติพ้นภัย หลงเหลี่ยมคนจัญไร ชาติอับปาง

28 ก.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved