วันพุธ ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ความด้อยปัญญาของ“แพทองธาร ชินวัตร”ที่เหมือนเด็กน้อยคนหนึ่งถูกบิดาเข็นขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี เวลานี้กำลังหมิ่นเหม่กับการกระทำที่ผิดกฎหมายในฐานะเป็น“ข้าราชการการเมือง”
“แพทองธาร ชินวัตร”อาจจะลืมว่าเวลานี้มีตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ใช่แค่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หรือเป็นหลานอาของ“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ซึ่งเป็นนักโทษคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวที่หลบหนีออกจากประเทศไทยและมีหมายจับของศาลฯติดตัว จึงให้สัมภาษณ์กับสื่อเมื่อวันที่ 3ธันวาคมที่ผ่านมาเกี่ยวกับยิ่งลักษณ์ว่า มีการติดต่อกับยิ่งลักษณ์และนั่นก็ย่อมเท่ากับว่า“มาดามแพ”รู้ว่านักโทษผู้นี้หลบหนีอยู่ที่ไหน
ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ถาม“แพทองธาร ชินวัตร”กรณีที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตรซึ่งเป็นนักโทษคดีทุจริตโครงการับจำนำข้าวคดีเดียวกับยิ่งลักษณ์ได้รับการพักโทษว่าเป็นการปูทางให้ยิ่งลักษณ์กลับเข้ามาในประเทศไทยหรือไม่
“แพทองธาร ชินวัตร”ตอบแบบเด็กน้อยที่ไม่รู้เรื่องการบริหารราชการแผ่นดินและไม่รู้เรื่องกฎหมาย ตลอดจนกฎเกณฑ์ข้อบังคับต่างๆ ที่เป็นขื่อแปของบ้านเมืองว่า 'ท่านบุญทรงเป็นผู้ต้องขัง ท่านยิ่งลักษณ์ไม่ได้เป็น ไม่น่าจะเกี่ยวกัน'
คำให้สัมภาษณ์ของ“แพทองธาร ชินวัตร”ดังกล่าว อาจจะมองได้สองทางซึ่งทางแรก ถ้าตีความให้เป็นคุณแก่“มาดามแพ” เธอก็พูดถูกต้องและตรงประเด็นเพราะว่านายบุญทรง เตริยาภิรมย์เป็นผู้ต้องขังหรือนักโทษชั้นเยี่ยมที่เข้าหลักเกณฑ์การพักโทษโดยต้องโทษอยู่ในคุกมาแล้วเกินกว่า 2 ใน 3 ของโทษจำคุกที่มีทั้งหมด 10 ปี 8 เดือน ส่วน“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”เป็นนักโทษหลบหนีการติดคุก ที่มีโทษ 5 ปี และถูกศาลฯออกหมายจับ
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ วัย 64 ปี,ที่ไม่ได้เป็นนักโทษหลบหนีโทษเหมือน“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาลงโทษจำคุกครั้งแรกในวันที่ 25 สิงหาคม 2560 เป็นเวลา 42 ปีและต่อมานายบุญทรงได้ยื่นอุทธรณ์คดีต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเพื่อขอลดโทษเนื่องจากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติมแต่อัยการโจทก์ได้ขออุทธรณ์เพิ่มโทษจำเลยเพื่อต่อสู้ด้วยในที่สุดศาลได้พิพากษาแก้โทษจำคุกนายบุญทรงเพิ่มอีกหนึ่งกระทงเป็นเวลา 6 ปีจากโทษเดิม 42 ปี รวมเป็น 48 ปี
ทั้งนี้ ระหว่างที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เป็นนักโทษอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2560เป็นต้นมา ยังได้รับการลดโทษแบบกระหน่ำซัมเมอร์เซลส์สมัยนายสมศักดิ์ เทพสุทินเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ถึง 4 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 จาก 48 ปีเหลือ 36 ปีและครั้งที่ 2 เหลือ 24 ปี ส่วนครั้งที่ 3 และครั้งที่ 4 เฉพาะปี 2564ปีเดียวได้ลดโทษติดกันถึงสองครั้ง คือเหลือ 16 ปี และ 10 ปี 8เดือนตามลำดับ ซึ่งนับจากวันที่ 2 ธันวาคมที่ได้รับการพักโทษก็จะเหลือโทษจำต่อไปอีก 3 ปี 4 เดือน 20 วัน และจะพ้นโทษวันที่ 21 เมษายน 2571
สำหรับคำสัมภาษณ์ของ“แพทองธาร ชินวัตร”ในอีกทางหนึ่งนอกเหนือจากที่กล่าวมานั้นฟังแล้วเหมือนกับมีอะไรลึกลับซับซ้อนซ่อนเงื่อน จากคำพูดที่ว่า“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ผู้เป็นอาไม่ได้เป็นนักโทษหรือผู้ต้องขังและว่าไม่น่าจะเกี่ยวกันนั้น อาจจะถอดรหัสจากคำพูดของเธอได้ว่า บิดาของเธอคือ“ทักษิณ ชินวัตร”กำลังวางแผนหาช่องทางของกฎหมายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพื่อจะให้ยิ่งลักษณ์กลับมาโดยไม่ต้องติดคุกก็เป็นได้ โดยที่เธอลืมคิดจึงเผลอพูดออกมา
แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับ การให้สัมภาษณ์ของ“แพทองธาร ชินวัตร”ในวาระเดียวกันนี้ จากการถามของผู้สื่อข่าวว่า“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ได้ประสานมาหรือไม่ว่าจะกลับไทยเมื่อไหร่อย่างไรซึ่ง“มาดามแพ”ได้ตอบว่า 'ไม่มีค่ะ เหมือนเดิม โทรคุยเฉยๆ ค่ะ'
คำให้สัมภาษณ์ดังกล่าว“แพทองธาร ชินวัตร” ผิดมหันต์เพราะเธอเป็นนายกรัฐมนตรี และด้วยปัญญาที่มีอยู่น้อยนิดจึงไม่รู้ว่าคำพูดนี้ได้มัดคอตนเองซึ่งเข้าข่ายการกระทำที่ผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ในฐานะเป็นผู้นำฝ่ายบริหาร-มีอำนาจหน้าที่สูงสุดในการบังคับบัญชาเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อให้ปฏิบัติงานสอดคล้องกับแนวนโยบาย, ยุทธศาสตร์ชาติ ตลอดถึงหลักกฎหมายต่างๆ ของบ้านเมือง
เพียงแค่ยกรัฐธรรมนูญปี 2560 ฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มาตรา 164 (1)ซึ่งมีข้อบัญญัติเกี่ยวกับหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดินเอาไว้ว่าคณะรัฐมนตรีอันหมายรวมถึงนายกรัฐมนตรี ต้อง“ปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละ เปิดเผยและมีความรอบคอบและระมัดระวังในการดำเนินกิจการต่าง ๆเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชนส่วนรวม”-ข้อนี้ข้อเดียวก็อยู่หมัดแล้ว
บรรรดา“นักร้อง”ทั้งหลายสามารถยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยสั่งให้“แพทองธาร ชินวัตร”พ้นหรือสิ้นสุดจากการเป็นนายกรัฐมนตรีได้เช่นเดียวกับที่นายเศรษฐา ทวีสินเคยโดนมาแล้ว เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4)และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง อันมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (5)
ด้วยเหตุที่นายกรัฐมนตรีที่ชื่อ“แพทองธาร ชินวัตร”ได้ติดต่อกับ“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”นักโทษหลบหนีคดีทุจริตโกงบ้านกินเมืองที่มีโทษติดตัว 5 ปีและถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำสั่งให้ออกหมายจับมาตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2560 จนกระทั่งถึงทุกวันนี้
นอกจากนี้“แพทองธาร ชินวัตร”ก็ยังอาจจะเข้าข่ายความผิดฐานช่วยเหลือผู้กระทำผิด รวมทั้งละเว้นการกระทำหรือกระทำการใดๆ ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่เป็นข้าราชการการเมืองด้วย
และวันเดียวกันกับที่ให้สัมภาษณ์เรื่อง“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”ตามที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น นายกรัฐมนตรีไอแพดผู้นี้ก็ยังอาจจะเข้าข่ายการกระทำที่ผิดระเบียบสำนักนายกฯว่าด้วย“การให้หรือรับของขวัญของเจ้าหน้าที่ของรัฐ”ที่ห้ามให้หรือรับของขวัญมูลค่าเกิน 3 พันบาทโดยครอบคลุมสินทรัพย์ดิจิทัลด้วย จากการที่“มาดามแพ”ซื้อสลากกาชาดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ จำนวน 100 ใบราคา 8 พันบาทมอบให้แก่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
คิดๆ ดูแล้วบิดาของเธอช่างอำมหิตเหลือเกิน ที่“จับ”ลูกสาวซึ่งไร้วุฒิภาวะและอ่อนด้อยทางปัญญา รวมทั้งขาดความรอบรู้ในด้านต่างๆเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน มา“เชิด”เป็นนายกรัฐมนตรี !
รุ่งเรือง ปรีชากุล

'ดร.ส้ม' ลั่นไม่เคยเคลมผลงานใคร ยันลุยดัน กม.คุกคามทางเพศมาตั้งแต่ปี62
มีหนาว! คุกคามทางเพศผ่านโซเชียลมีเดีย มีผลบังคับใช้แล้ววันนี้
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ.ปกครองท้องที่ ฉบับใหม่ กำหนดคุณสมบัติต้องห้าม ผู้ใหญ่บ้าน
สุริยะใส ย้อนเกล็ด เลือกตั้ง ไม่เอาลุง ครั้งนี้ ไม่เอาเทา คงได้ รัฐบาลเทวดา
แฉทุนจีนแย่งอาชีพคนไทย รุกธุรกิจเผาถ่านกะลามะพร้าว ทำผู้ประกอบการไทยเดือดร้อน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี