วันอาทิตย์ ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคม นี้ ถึงวันนั้นคนอเมริกันจะได้ประธานาธิบดี ที่คิดใหญ่ทำใหญ่สมใจอเมริกันชนที่ยังหลงละเมอว่า สหรัฐอเมริกายิ่งใหญ่กว่าใครในโลกนี้
ทั่วโลกจะวุ่นวายขนาดไหนเกินความสามารถของคนธรรมดาจินตนาการได้ อย่างไรก็ตาม คิดว่าประเทศไทยซึ่งไม่เล็กไม่ใหญ่คงได้รับผลกระทบไม่มากนัก โดยภาพรวมประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ น้อยกว่าสมัยประธานาธิบดี โจ ไบเดน
หากมองจากบริบทการเมืองและความมั่นคง เนื่องจากว่าประธานาธิบดีทรัมป์เป็นคนคิดใหญ่ทำใหญ่ ประเทศไทยและพม่าจึงไม่อยู่ในเรดาร์ประธานาธิบดี ทรัมป์การสนับสนุนทั้งยุทธวิธีและปัจจัย ให้คนรุ่นใหม่และพรรคการเมืองที่มีเป้าหมายทำลายทุกสถาบันในประเทศไทย ต้องลดน้อยลงไปกว่าสมัยไบเดน
จากความจริงที่ว่า นโยบายถาวรของวอชิงตัน คือสนับสนุนภาคประชาสังคมเอ็นจีโอ พรรคการเมืองในเครือข่ายตลอดถึงคนรุ่นใหม่ให้สร้างความวุ่นวายทำลายความมั่นคงภายในประเทศเป้าหมาย รวมทั้งสถาบันสูงสุดของไทยที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของไทยทั้งชาติและศูนย์กลางความมั่นคงภายใน ในเวลาเดียวกัน
พรรคการเมืองและคนรุ่นใหม่ ไม่อาจคุกคามสถาบันสูงสุดของไทยได้หากไม่ได้รับการหนุนหลังจากมหาอำนาจตะวันตก หลักฐานในเชิงประจักษ์แสดงให้เห็นแล้วว่า เมื่อแกนนำคนรุ่นใหม่ถูกศาลตัดสินจำคุกในความผิดละเมิดมาตรา 112 นักโทษเหล่านี้ส่วนใหญ่หนีไปอเมริกา บางคนได้รับทุนการศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำ
พรรคการเมืองบางพรรคนอกจากทำลายสถาบันหลักของไทย แล้วยังมุ่งหมายทำลายประเทศพม่าตามนโยบายของวอชิงตัน ที่ต้องการให้เกิดสงครามกลางเมืองในพม่า หลายฝ่ายอาจสงสัยว่า อะไรทำให้คิดว่า คนรุ่นใหม่และพรรคของคนรุ่นใหม่ จะไม่สร้างความวุ่นวาย ในสมัยทรัมป์ เหมือนที่มีพฤติกรรมเลวร้ายในยุค โจ ไบเดน #คำตอบง่าย คือ เล็กๆ ทรัมป์ไม่ ใหญ่ๆ ทรัมป์ทำ
ประสบการณ์ตรงการทำข่าวในประเทศไทย พบว่า รัฐบาลเดโมแครต ไม่ว่าจะเป็นบารัค โอบามา หรือโจ ไบเดน มีนโยบายทำให้เกิดสงครามตัวแทนครั้งใหญ่ในหลายประเทศ ตัวอย่างเช่น สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ทรัมป์พูดตลอดมาว่า หากเขายังเป็นประธานาธิบดีสงครามไร้สาระนี้คงไม่เกิดขึ้น และทรัมป์กล่าวด้วยว่า เขาทำให้สงครามยูเครนยุติลงทันทีที่รับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สอง
กลับมาว่ากันเรื่องในบ้านเราเพื่อความเข้าใจ ก่อนไปเรื่องต่างประเทศ สมัยโอบามา สหรัฐแทรกแซงกิจการภายในของไทย เนื่องจากว่าสหรัฐต้องการใช้อู่ตะเภาเป็นฐานปฏิบัติการต่อต้านจีนโอบามาได้ตกลงเบื้องต้นกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อคนไทยลุกฮือขึ้นต่อต้าน ในเวลานั้นเกิดปรากฏการณ์ม็อบเผชิญหน้ากัน หลายฝ่ายเชื่อว่าสหรัฐสนับสนุนม็อบฝ่ายรัฐบาล แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นไม่มีหลักฐานในเชิงประจักษ์
จนกระทั่งคนเสื้อแดงลุกฮือตามล่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ปี 2552-2553 ในยุคนั้นเสื้อแดงต่อต้านนายอภิสิทธิ์ และบานปลายกลายเป็นต่อต้านสถาบันด้วย ตลอดถึงเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง โดยที่อเมริกันสนับสนุนเสื้อแดงออกหน้า ในขณะเสื้อแดงชุมนุมรุนแรง นางคริสตี้ เคนนีย์ ทูตสหรัฐประจำประเทศไทยไปปรากฏตัวหลังเวทีปราศรัยคนเสื้อแดง ที่สี่แยกราชประสงค์หลายครั้ง นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐแถลงว่า ช่วยจัดตั้งวิทยุชุมชนให้คนเสื้อแดงหลายสถานีในภาคอีสาน เป็นที่รู้กันทั่วไปในเวลานั้นว่า วิทยุชุมชนถูกคนเสื้อแดงใช้เป็นสถานีโจมตีสถาบัน เมื่อใกล้หมดวาระโอบามา แต่งตั้งนางคริสตี้ เป็นที่ปรึกษาประจำกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ
ปี 2017 ประธานาธิบดี ทรัมป์ ไล่คริสตี้ เคนนีย์ และทีมงานออกจากกระทรวงการต่างประเทศ การแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทยลดน้อยลงตั้งแต่นั้นมา ประกอบกับเวลานั้นไทยปกครองแบบรัฏฐาธิปัตย์หลังจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจ
ปี 2563 ทรัมป์ใกล้หมดวาระประธานาธิบดี และมีแนวโน้มว่า โจไบเดน จะชนะเลือกตั้ง ดีปสเตท (Deep State) หรือ รัฐพันลึกในสหรัฐฟื้นคืนชีพขึ้นมา สั่งการให้นักวิชาการล้มเจ้าเจ้าหน้าที่แอบอยู่ตามซอกมุมมหาวิทยาลัยของไทย ปลุกระดมคนรุ่นใหม่ให้ออกมาท้าทายสถาบันสูงสุดของไทย
ในห้วงเวลาสามปีคนรุ่นใหม่กับพรรคการเมืองที่ได้รับการหนุนหลังจากสหรัฐอเมริกา เซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันสูงสุดของไทยร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ และเมื่อแกนนำคนรุ่นใหม่ถูกศาลตัดสินจำคุกฐานละเมิดมาตรา 112 พร้อมๆ กับ สส.พรรคส้มบางคน สส.ได้รับการประกันตัวในขั้นอุทธรณ์ ส่วนแกนนำคนรุ่นใหม่หนีไปซุกในอเมริกา นิวซีแลนด์และแคนาดา
นี่คือเหตุผลที่ทำให้มั่นใจว่า สี่ปีข้างหน้า ในยุคทรัมป์ การแทรกแซงทางการเมืองและความมั่นคงภายในของประเทศไทยต้องลดลง เนื่องจากว่า ทรัมป์คิดใหญ่ทำใหญ่ ประเทศไทย และพม่า จึงไม่อยู่ในเรดาร์ ทรัมป์ประธานาธิบดีในปี 2017 ประกาศสร้างกำแพงบนชายแดนเม็กซิโกเพื่อป้องกันคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย ทำได้ไม่ได้ก็คิดใหญ่ไว้ก่อน
ก่อนเข้ารับตำแหน่งสมัยที่สอง ทรัมป์ประกาศจะยึดครองกรีนแลนด์ ต้องการแคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา ยึดคลองปานามา จะเปลี่ยนชื่อ อ่าวเม็กซิโก เป็น อ่าวอเมริกา นั่นเป็นเรื่องที่ทรัมป์ประกาศก่อนหน้ารับตำแหน่ง ส่วนระหว่างการหาเสียงทรัมป์กล่าวว่า เขาจะทำให้สงครามยูเครนยุติลงทันที ด้านสงครามอิสราเอล-ฮามาสที่ยืดเยื้อมาสามปีมีคนตายไปแล้วกว่า 48,000 คน ตัวประกันที่ฮามาสจับตัวตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2564 ปัจจุบันคาดว่ายังอยู่ในกาซาประมาณ 100 คน ทรัมป์ลั่นวาจาว่า “นรกจะแตกหากไม่ปล่อยตัวประกันถึงวันที่เขารับตำแหน่งเป็นทางการ
ส่วนประเทศมีฐานทัพสหรัฐ ถือว่าได้รับการคุ้มครองจากกองทัพสหรัฐไม่ว่าจะญี่ปุ่น ไต้หวัน และเกาหลีใต้ ต้องเสียค่าคุ้มครองให้สหรัฐอเมริกาเพิ่มเป็นห้าเท่าตัว มาตรการเพิ่มค่าคุ้มครองเพิ่มของทรัมป์ สร้างความกังวลทั่วไป และดูเหมือนว่าเกาหลีใต้วุ่นวายกว่าใครที่ต้องจ่าย 5,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี จากที่เคยจ่ายแค่ 982 ล้านต่อปีนั้นเป็นสาเหตุความวุ่นวายในแง่ความมั่นคง
ทางด้านเศรษฐกิจทรัมป์ใช้นโยบายกีดกันการค้าขู่ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าแก่ประเทศที่ได้ดุลการค้าอเมริกา 20 ถึง 60% โดยเฉพาะประเทศจีน
ทางด้านการเมืองทรัมป์เพิ่มการแซงชั่น อิหร่าน และเกาหลีเหนือ ให้หนักหน่วงขึ้นไป แต่ในเวลาเดียวกันทรัมป์กลับเข้าใจรัสเซียที่ไม่ต้องการให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต ที่เหมือนกับนำอาวุธศัตรูมาวางหน้าประตูบ้าน ทรัมป์เดินเกมการเมืองไม่เหมือนใครเขาส่งเทียบเชิญประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มาร่วมพิธีรับตำแหน่งประธานาธิบดี แต่ไม่เชิญประธานมนตรีกลุ่มประเทศอียูมาร่วมงาน ด้านนายกฯอิสราเอลเบนจามิน เนทันยาฮู ยกเลิกไปร่วมพิธีนาทีสุดท้ายหลังทรัมป์พูดว่า“เนทันยาฮูลากอเมริกาเข้าสู่สงครามตลอดกาล”
ทั้งหมดคือการคิดใหญ่ทำใหญ่ จนเรียกได้ว่า ทรัมป์แทบไม่มีเวลาหายใจในสี่ปีข้างหน้า นี้ยังไม่รวมปัญหาไฟบรรลัยกัลป์ล้างผลาญโดยไม่ทันตั้งตัวตลอดเวลาแปดวันไฟป่าในลอสแองเจลิสเผาผลาญไปแล้ว 70,000 ไร่ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 ศพ 16 คน ยังสูญหาย อาคารกว่า 60,000 หลังถูกทำลาย ประเมินค่าความเสียหาย 1.8 ล้านล้านบาท ประชาชนกว่า 100,000 ต้องอพยพหนีตายไร้ที่อาศัย
ชาวอเมริกันนิยามว่า ที่นี่เป็นเหมือนนรกบนดิน เขาพยายามที่จะดับเพลิงเพื่อปกป้องที่อยู่อาศัยของพวกเขา แต่น้ำที่ใช้ดับเพลิงมีแรงดันที่ต่ำและมีจำนวนจำกัด ขณะเขียนบทความนี้ มีรายงานเพิ่มเติมการเกิดพายุไฟหรือ “ไฟร์นาดอส” ในลอสแองเจลิส
“ไฟร์นาดอส” เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากความร้อนจากไฟป่าที่รุนแรง ทำให้เกิดกลุ่มลมร้อนที่ลอยตัวขึ้นผสมกับเปลวไฟ เถ้าถ่าน และเศษซากต่างๆ จากการถูกเผาไหม้ ที่มีความสูงหลายร้อยฟุตที่เคลื่อนตัวแบบไม่อาจคาดเดาได้ เนื่องจากมีกระแสลมที่รุนแรงทำให้ยากลำบากต่อการควบคุมเพลิง
คนอเมริกันกระแหนะกระแหนกันเองว่า สหรัฐส่งเครื่องบินนับร้อยๆ ลำไปให้อิสราเอลฆ่าพลเรือนในตะวันออกกลาง แต่ไม่มีปัญญาหาเครื่องบินบรรทุกน้ำดับไฟในบ้านตัวเอง ต้องใช้เครื่องบินจากแคนาดาและเม็กซิโกช่วยดับไฟก็ดับไม่ได้ รัฐโอเรกอนส่งรถดับเพลิง60 คัน ไปช่วยดับไฟ ถูกกักไว้ที่ซาคราเมนโตไปต่อไม่ได้รถดับเพลิงไม่ผ่านการตรวจควันดำ เน็ตซิติเซ็นแชร์ข้อความเป็นไวรัลว่า “เมืองลอสแองเจลิสส่งเงินจากผู้เสียภาษีไปให้อิสราเอล 50 ล้านดอลลาร์ในขณะที่ตัดงบประมาณแผนกดับเพลิง 17 ล้านดอลลาร์”
นโยบายทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่ กดดันให้ทรัมป์คิดใหญ่ทำใหญ่ ที่หลายนโยบายยากจะนำไปใช้ในทางปฏิบัติ และไฟบรรลัยกัลป์ผลาญเมืองซ้ำเติมเข้าไปอีก ทำให้ทรัมป์วุ่นอยู่กับเรื่องคิดใหญ่ทำใหญ่ ประเทศไทยกับพม่าจึงไม่อยู่ในเรดาร์ที่ทรัมป์ต้องมาโฟกัส
ประเทศไทยอาจมีผลกระทบทางเศรษฐกิจเพราะไทยเป็นหนึ่งใน 12 ประเทศที่ได้ดุลการค้าอเมริกา แต่ก็มั่นใจว่าในยุคประธานาธิบดีทรัมป์ จะไม่เกิดความวุ่นวายจากคนรุ่นใหม่และพรรคการเมืองรับใช้อเมริกา
สุทิน วรรณบวร

ด่วน! ‘ทหารช่างนย.’เหยียบทุ่นระเบิด‘บ้านหนองรี’ ขณะเสริมความมั่นคงพื้นที่
‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’ เสด็จฯบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ ‘สมเด็จพระพันปีหลวง’
ยิปซีพยากรณ์ดวงรายวัน ประจำวันอาทิตย์ 21 ธันวาคม 2568
ไขกระจ่าง! ‘ทภ.2’เปิด 10 คำตอบเคลียร์ชัดๆความหมาย‘สิ้นสภาพเป็นภัยคุกคาม’
‘เพื่อไทย’เปิด 10 หลักคิด‘เศรษฐกิจ’ ก่อนทยอยเปิดนโยบายสู้ศึกเลือกตั้ง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี