วันพุธ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568
วันก่อน เว็บไซต์สถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทยเผยแพร่แถลงการณ์ของนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ว่า ผมขอประกาศนโยบายการจำกัดการออกวีซ่าใหม่ที่จะมีผลกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างชาติในปัจจุบันหรือในอดีตที่รับผิดชอบหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการบังคับส่งกลับชาวอุยกูร์ หรือสมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์หรือศาสนาอื่นที่มีปัญหาการคุ้มครองไปยังจีน เรามุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับความพยายามของจีนในการกดดันรัฐบาลต่างๆ ให้ส่งชาวอุยกูร์และกลุ่มอื่นๆกลับไปยังจีน ซึ่งพวกเขาจะถูกทรมานและถูกบังคับให้หายตัว
ผมจะดำเนินการนโยบายนี้ทันทีโดยการดำเนินการขั้นตอนเพื่อกำหนดข้อจำกัดในการออกวีซ่าสำหรับเจ้าหน้าที่ในปัจจุบันและในอดีตจากรัฐบาลไทยที่รับผิดชอบหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการบังคับส่งกลับชาวอุยกูร์ 40 คน จากประเทศไทยเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์
ในแง่ของการกระทำฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติที่จีนได้กระทำต่อชาวอุยกูร์อย่างยาวนาน เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกไม่บังคับส่งชาวอุยกูร์และกลุ่มอื่นๆ กลับไปยังจีน
นโยบายการจำกัดวีซ่านี้อยู่ภายใต้มาตรา 212 (a)(3)(C) ของกฎหมายการเข้าเมืองและสัญชาติ ซึ่งอนุญาตให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการจำกัดวีซ่าสำหรับเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างชาติในปัจจุบันหรือในอดีตที่รับผิดชอบหรือมีส่วนเกี่ยวข้องในการส่งชาวอุยกูร์หรือสมาชิกกลุ่มชาติพันธุ์หรือศาสนาอื่นที่มีปัญหาการคุ้มครองกลับไปยังจีน บุคคลในครอบครัวบางคนของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำเหล่านี้อาจถูกบังคับให้ตกอยู่ภายใต้ข้อจำกัดเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
ด้านกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผย คำชี้แจงต่อการประกาศนโยบายของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา คว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ไทยที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการส่งชาวอุยกูร์กลับจีน โดยชี้แจง 2 ข้อดังนี้
1. รัฐบาลไทยรับทราบนโยบายของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ประกาศเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฝ่ายไทยได้รับคำยืนยันจากรัฐบาลจีนเกี่ยวกับการให้ความปลอดภัยชาวอุยกูร์ และจะติดตามความเป็นอยู่ของกลุ่มบุคคลดังกล่าวต่อไป โดยไทยได้แถลงทำความเข้าใจกับประเทศที่มีความห่วงกังวลในเรื่องนี้ไปแล้วในหลายโอกาส ทั้งนี้ ไทยได้ดำเนินการตามหลักมนุษยธรรมที่ได้ยึดมั่นมาโดยตลอด ซึ่งรวมถึงการดูแลผู้หนีภัยจากเหตุการณ์ในประเทศต่างๆ มายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ และไทยยังคงจะดำเนินการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเหล่านี้ต่อไป
2. ไทยให้ความสำคัญกับความเป็นพันธมิตรทางสนธิสัญญากับสหรัฐฯ ที่มีความใกล้ชิดกันมายาวนาน ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน และมีผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญร่วมกัน ทั้งในระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค
ในประเด็นดังกล่าวนักวิชาการ วิชาเกินอาจารย์ นักวิชาการหลายคน แสดงความเห็นคล้อยตามท่าทีของสหรัฐอมริกา และห่วงว่าทางสหรัฐอเมริกาจะคว่ำบาตรไทยมากกว่าเดิม
ทั้งนี้เราเห็นว่ากระทรวงการต่างประเทศดำเนินการชี้แจงถูกต้องแล้ว แม้จะเบาไปสักนิด และไม่จำเป็นต้องไปสนใจรัฐสภายุโรปที่ประฌามไทยไปก่อนหน้านี้ รวมถึงท่าทีของสหรัฐล่าสุด เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยเห็นมีอะไรที่คว่ำบาตรอย่างจริงจัง นอกจากคำขู่ไปตามฤดูกาลไม่มีราคาค่างวดแต่ประการใด

ตอกหน้าฝรั่งดูแคลน! ประภาส เปิดอภินิหารคำว่า แล้ว พิสูจน์ความลึกซึ้งที่เหนือกว่า Tense
(คลิป) สื่อเขมร รายงานจริงครั้งแรก! ไทย ใช้ F-16 ทิ้งบอมปอยเปตพังท่องเที่ยวกัมพูชา
ปราชญ์ สามสี สดุดี จ่าเริง วีรบุรุษเนิน 350 ผู้ปกป้องแผ่นดินด้วยชีวิต
ทรัมป์ กร้าว ต้องการ กรีนแลนด์ เพื่อความมั่นคงของ สหรัฐฯ
เขมรกล่าวหาไทย ทิ้งระเบิด พ่นควันพิษ เป็น อาชญากรรมสิ่งแวดล้อม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี