วันอังคาร ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ประเทศไทยในยุค“ทักษิณ ชินวัตร-คิด” และ“รัฐบาลเพื่อไทย-ทำ”โดยมี“แพทองโพย”เป็น“นายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด”ให้บิดา“ชักใย”นั้น นอกจากประชาชนจะไม่“มีกิน-มีใช้”แล้วประเทศชาติบ้านเมืองก็ยัง“ไร้เกียรติ-ไร้ศักดิ์ศรี”อีกด้วย
เพราะการที่สหรัฐอเมริกาขอเลื่อนการเจรจาเรื่อง“มาตรการภาษี”ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่จะมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นหัวหน้า“คณะทีมไทยแลนด์” จากที่จะมีการประชุมเจรจาในวันที่ 23เมษายนคือวันนี้ออกไปโดยไม่มีกำหนดนั้น ชัดเจนที่สุดว่าสหรัฐฯไม่เห็น“หัวไทย”อยู่ในสายตาจะเรียกว่าเป็นการหมิ่นหยามศักดิ์ศรีกันก็ไม่ผิดนัก
ย้อนกลับไปดู-วันที่ 17 เมษายน 2568“มาดามแพทองโพย”ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลชนิดที่ยิ้มแก้มบานในช่วงเวลาเดียวกันกับที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานอาเซียนพบปะเจรจาอย่างลับๆ ล่อๆ กับอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีตัวจริงของไทยและ“มิน อ่อง หล่าย” ผู้นำรัฐทหารเมียนมา ที่โรงแรมโรสวูดของ“ตระกูลชินวัตร”ว่าสหรัฐฯได้ตอบรับการเจรจากับประเทศไทย โดยได้คิวในการเข้าพบอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 เมษายน 2568
“มาดามแพทองโพย”เปิดเผยในวันนั้นว่า การเจรจาครั้งนี้ เป็นการเจรจาในระดับรัฐมนตรีโดยฝ่ายไทยจะนำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร พร้อมทั้งบอกว่า “มั่นใจว่าข้อเจรจาที่เราเตรียมการไว้จะเป็นข้อเสนอที่ดีที่จะมีการพูดคุยกับทางสหรัฐฯให้ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ในลักษณะของ Win Winร่วมกัน”
ปรากกฎว่า ถัดมาอีกสี่วัน คือวันที่ 21 เมษายน 2568 ในช่วงหัวค่ำเมื่อสองวันก่อนมีข่าวเปิดเผยว่าสหรัฐอเมริกาขอเลื่อนการเจรจากับ“ทีมไทยแลนด์”ออกไปโดยไม่มีกำหนดถามว่านี่หรือที่บอกว่าเป็นมิตรประเทศกัน และ“มาดามแพทองโพย”เองก็ยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวตอนให้สัมภาษณ์เรื่องสหรัฐฯตอบรับเจรจาว่า“ทางทีมไทยแลนด์มีข้อเจรจาต่อรองกับสหรัฐฯ ค่อนข้างแข็งแรงพอสมควร โดยมั่นใจผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นประโยชน์กับทั้งสองประเทศ เพราะเชื่อมั่นว่า สหรัฐฯ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับไทยมายาวนานการพูดคุยจึงน่าจะเกิดผลที่ดีกลับมา”
การตบหน้าของสหรัฐฯที่เลื่อนการเจรจาออกไปโดยไม่มีกำหนดจึงไม่ใช่การแสดงออกของมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์อันดีกับไทยมายาวนานเช่นที่“มาดามแพทองโพย”พูด และก็ไม่ใช่อย่างที่“ทักษิณ ชินวัตร”ผู้เป็นบิดาคุยโม้โอ้อวดที่จังหวัดเชียงใหม่ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาว่า“ได้มีการพูดคุยกับคนรอบๆ ตัวโดนัลด์ ทรัมป์ หลายคน ซึ่งคิดว่าก็อยู่ในภาวะที่พูดคุยกันได้”
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 22 เมษายนเมื่อวานนี้“มาดามแพทองโพย”ได้แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี กรณีที่สหรัฐฯเลื่อนการเจรจาโดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีหน้าเดิมของพรรคเพื่อไทยมายืนเป็นพระอันดับเสริมบารมี“คุณหนูนายน้อย” เป็นการแถลงด้วยการอ่านไอแพดแบบพูดคำย้ำคำในลักษณะที่ไม่มั่นใจตนเองและใช้ภาษาไทยคำฝรั่งคำ ถึงสาเหตุที่สหรัฐฯเลื่อนการเจรจาว่า “มีสาระสำคัญที่สหรัฐฯรีเควส (request :ข้อเรียกร้อง)กลับมา ให้เราทบทวนในเรื่องที่จะไปเจรจา และจะมีการนัดหมายกันใหม่อีกครั้ง”
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายประเทศมีภาพปรากฏว่าเข้าไปเจรจากับสหรัฐฯแล้ว-ไทยช้าเกินไปหรือไม่,“มาดามแพทองโพย”ตอบว่า “เราไม่ได้ช้าเกินไป เรามีเวลา 90 วันที่สหรัฐฯยกเว้นการขึ้นภาษีและได้คุยกับทีมงานที่เป็น Working Team อย่างไม่เป็นทางการ ว่าเรื่องไหนที่จะมีการหารือกัน เช่นบางเรื่องภาษีของสินค้าสหรัฐฯที่นำเข้ามาขายในไทยเสียภาษีแพงเกินไป เราดูว่าจะปรับให้สมเหตุสมผลเช่นเดียวกับหลายๆ ประเทศ เรามีเวลาที่จะปรับ พูดจริงๆ ว่าทีมทำงานละเอียดพอสมควรยืนยันว่าไม่ช้าเกินไป” ส่วนถ้ามีการนัดหมายใหม่อีกครั้ง จะเดินทางไปเจรจาด้วยตนเองหรือไม่นั้น“มาดามแพทองโพย”ตอบว่า“เดี๋ยวดูระดับการเจรจากันก่อน แต่ตัวดิฉันพร้อมอยู่แล้วที่จะไปพูดคุยเจรจา
และมีอีกหลายประเด็นที่ผู้สื่อข่าวยิงคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ คำตอบที่ได้จาก“มาดามแพทองโพย” ก็คือ “อ๋อเดี๋ยวท่านรัฐมนตรีพิชัย (ชุณหวชิร) จะเป็นคนแถลงในรายละเอียดค่ะ”หรือไม่ก็ตอบในลักษณะ“ถามม้าตอบช้าง” หรือ“ถามวัวตอบกระบือ”
เช่นว่า-ผู้สื่อข่าวถามว่าหนักใจกับภาวะเศรษฐกิจของไทยตอนนี้หรือไม่, “มาดามแพทองโพย”ตอบว่า“เศรษฐกิจทั่วโลกฝืดเคืองพร้อมๆ กัน เราต้องค่อยๆ จัดการอย่างรอบคอบ ต้องมีการพูดอย่างต่อเนื่องด้วย”,ผู้สื่อข่าวถามว่าลำบากใจไหม, “มาดามแพทองโพย”ตอบว่า “คิดว่าทีมทุกคนยังทำงานอยู่ ไม่ได้ทิ้งไปไหนยังอัพเดตอยู่ นอกจากนี้ยังมีคนนอก ครม. นักวิชาการต่างๆ ที่เราปรึกษาในหลายๆ ทางมีความเห็นจากหลายภาคส่วน คิดว่าทำดีที่สุดในสถานการณ์นี้”
อีกคำถามหนึ่ง-สหรัฐฯขึ้นภาษีจะส่งผลกระทบนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยเกี่ยวกับการแจกเงิน“ดิจิทัล 1หมื่นบาท”หรือไม่, “มาดามแพทองโพย”ตอบว่า “ตอนนี้ทุกอย่างยังเหมือนเดิมในส่วนที่เราปรับปรุงได้เราจะทำได้แค่ไหน แต่แน่นอนว่าเราต้องดูผู้ประกอบการและเกษตรกรของเราด้วยว่าที่ส่งออกไปจะเป็นอย่างไรและการนำเข้าสินค้าจำเป็นของสหรัฐฯเราจะเพิ่มได้ไหม เพื่อให้เกิด WIN WIN ทั้งสองฝ่ายพยายามจะรักษาผลประโยชน์ของเกษตรกร และผู้ประกอบการให้ได้มากที่สุด”
เฮ้อ ! ประเทศไทยยุค“WIN WIN”ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยโดยการนำของ“มาดามแพทองโพย”ที่มีแต่ทำให้คนไทย“ไม่มีกิน-ไม่มีใช้-ไม่มีเกียรติ-ไม่มีศักดิ์ศรี”
รุ่งเรือง ปรีชากุล

อภิสิทธิ์-สกลธี ลุยหาเสียง ถนนเจริญกรุง-สีลม ขอโอกาสคนกรุงเทพฯ ให้พรรคประชาธิปัตย์กลับมาแก้ไขปัญหา
นายกฯเรียก ‘สีหศักดิ์-บิ๊กเล็ก’ กำชับเฝ้าชายแดนช่วงปีใหม่ หลังพ้นเฝ้าระวัง หยุดยิง 72 ชม.
บอสณวัฒน์ โดดร่วมวงทุบ โดม ปกรณ์ ลัม โพสต์แซ่บคนแรกเจิมมาตรา397
ชูวิทย์ ตบหน้า ปวิน หลังโพสต์พาดพิง ส่งลูกสาวซบภูมิใจไทย ชี้เข้าใจผิด ยันคนละ ชูวิทย์
สีหศักดิ์ บรรยายสรุปคณะทูต เผยปล่อย 18 ทหารเขมร ขึ้นอยู่กับฝ่ายความมั่นคง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี