วันเสาร์ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2568
จากที่ผมได้รับเกียรติให้เข้าร่วมเป็นกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ในนามนักวิชาการอิสระที่ไม่สังกัดพรรคการเมืองใด
ผมถือว่าหน้าที่นี้คือโอกาสสำคัญที่จะได้ตรวจสอบการใช้งบประมาณแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ และทรัพยากรของประเทศมีอยู่อย่างจำกัด
สิ่งหนึ่งที่ผมให้ความสนใจเป็นพิเศษคือ “งบก่อสร้าง” เพราะเป็นที่รู้กันดีว่า โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของภาครัฐคือหนึ่งในพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริตมากที่สุดในระบบราชการไทย และยังเป็นงบประมาณก้อนใหญ่ที่กินสัดส่วนมหาศาลในทุกปี
ความน่ากังวลไม่ได้อยู่แค่ตัวเลขที่อาจรั่วไหลจากการคอร์รัปชัน แต่ยังรวมถึงคำถามพื้นฐานที่สุดว่า “โครงการนี้จำเป็นจริงหรือไม่?” เพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราพบว่าหลายโครงการที่ใช้เงินภาษีมหาศาลนั้น ไม่ได้ตอบโจทย์ประชาชนจริงๆ บางแห่งสร้างถนนซ้ำซ้อน บางแห่งสร้างอาคารไว้แต่ไม่มีคนใช้งาน บางแห่งเปิดใช้งานได้ไม่นานก็ชำรุดเสียหาย
เพื่อทำความเข้าใจปัญหานี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ผมจึงขอความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างและการตรวจสอบการทุจริตในภาครัฐ ซึ่งบังเอิญว่าเป็นคนใกล้ตัวที่สุดของผมเอง -พ่อของผม คุณต่อตระกูล ยมนาค
บทสนทนาระหว่างเราสองคนในครั้งนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องเทคนิคการก่อสร้าง แต่ยังเปิดมุมมองให้ผมเข้าใจถึง “สูตรสำเร็จ” ของการทุจริตในวงการก่อสร้างไทยได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งผมขอสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้มาแบ่งปันไว้ ณ ที่นี้ เพื่อให้สังคมไทยเห็นภาพร่วมกันว่า ปัญหาไม่ได้เกิดจากผู้รับเหมาอย่างเดียว แต่คือระบบที่เปิดช่องให้เกิดการแสวงหาประโยชน์จากงบประมาณของประเทศ
รูปแบบการทุจริตในงานก่อสร้างภาครัฐที่พบบ่อย
1.การฮั้วประมูล - ผู้รับเหมาหลายรายตกลงกันล่วงหน้า กำหนดว่ารายใดจะชนะ พร้อมตั้งราคาประมูลที่ไม่สะท้อนการแข่งขันจริง และมักมีเจ้าหน้าที่รัฐบางคนรู้เห็นเป็นใจ
2.การเรียกรับสินบน - เจ้าหน้าที่ภาครัฐเรียกรับเงินหรือผลประโยชน์แลกกับการอนุมัติให้ผ่านการตรวจรับงาน หรือเร่งรัดขั้นตอนการเบิกจ่ายงบประมาณ
3.การล็อกสเปก - การกำหนดรายละเอียดในข้อกำหนดทางเทคนิค (TOR) ให้เฉพาะบางบริษัทที่สามารถเข้าประมูลได้ หรือกำหนดสเปกวัสดุเกินความจำเป็นเพื่อเอื้อรายใดรายหนึ่ง
4.การแก้แบบ/เพิ่มงานโดยไม่จำเป็น -มีการปรับแก้แบบแปลนหรือเพิ่มปริมาณงานโดยไม่มีเหตุผลเชิงวิศวกรรม เพื่อขยายงบประมาณและเปิดช่องให้มีเงินส่วนต่าง
5.การลดคุณภาพวัสดุ - แม้ได้รับงบประมาณเต็มจำนวน แต่ผู้รับเหมาลดคุณภาพวัสดุหรือขั้นตอนการก่อสร้างเพื่อประหยัดต้นทุนแล้วนำส่วนต่างมาเป็นกำไร
6.การทิ้งงาน - รับงานแล้วหยุดก่อสร้างกลางคัน โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้รับเหมาถูกใช้เป็น “นอมินี” ให้บุคคลอื่น และไม่มีความสามารถดำเนินงานจริง
ปัญหาเหล่านี้นำมาซึ่งความเสียหายที่มากกว่าตัวเงิน เพราะส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐานที่สร้างขึ้นไม่มีคุณภาพ ไม่ตอบโจทย์ประชาชน ล่าช้า หรือใช้งานไม่ได้จริง ขณะที่ประชาชนเสียความเชื่อมั่น และธุรกิจที่โปร่งใสจริงๆ ก็หมดโอกาสแข่งขัน
สิ่งที่ผมเรียนรู้จากพ่อครั้งนี้ ทำให้ผมเห็นชัดว่า การตั้งคำถามกับ “ความจำเป็นของโครงการ” และ “ความคุ้มค่าของงบประมาณ” ไม่ใช่การจับผิดอย่างไร้เหตุผล หากแต่คือหัวใจของหน้าที่กรรมาธิการที่ยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
ผมจะนำความรู้และมุมมองเหล่านี้ไปใช้ในการทำงานในกรรมาธิการฯ อย่างรอบคอบ และขออนุญาตเล่าเรื่องนี้ไว้ตรงนี้ เพื่อให้ประชาชนที่ติดตามการทำงานของรัฐ ได้เข้าใจมากขึ้นว่า เบื้องหลัง “งบก่อสร้าง” ที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเทคนิคและตัวเลขนั้น จริงๆ แล้วเกี่ยวพันกับโครงสร้างอำนาจผลประโยชน์ และความโปร่งใสของบ้านเมืองโดยตรง
เพราะทุกบาทของงบประมาณแผ่นดิน ควรถูกใช้เพื่อสร้างถนนให้คนเดิน ไม่ใช่เพื่อสร้างรายได้พิเศษให้ใครบางคนเดินนำหน้าประชาชนตลอดเวลา
รศ.ดร.ต่อตระกูล - รศ.ดร.ต่อภัสสร์ ยมนาค

กำปั้นไทยไร้พ่าย! ลิ่ว 7 รุ่นต่อยซีเกมส์
เลขาวุฒิสภา แจ้ง สว. ยกเลิกประชุมวุฒิสภา 15- 16 ธ.ค.นี้ หลังยุบสภาแล้ว
ดร.จักษ์ ชม อนุทิน ตัดสินใจระดับรัฐบุรุษ ยุบสภาครั้งนี้ เผาพรรคส้มเหลือแต่ขี้เถ้า
กกต. กางแนวทาง ค่าใช้จ่าย สส. ช่วงเลือกตั้ง พรรคการเมืองหาเสียงได้ตั้งแต่วัน ยุบสภา
ปูติน ยกระดับชีวิตพลเมืองรัสเซีย อัตราความยากจนลดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี