สงครามยูเครน-รัสเซีย ลากยาวมานานกว่า 4 ปีแล้วและยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงในระยะเวลาอันใกล้ กลายเป็นสงครามที่ยืดเยื้อ โดยผู้ที่รับเคราะห์กรรมเป็นอย่างมากก็คือ ฝ่ายยูเครน แต่ผู้ที่รับเคราะห์กรรมร่วมด้วย (แต่ไม่มากเท่า) ก็คือ ชาวรัสเซีย ขณะที่ชาวโลกก็ได้รับผลกระทบจากราคาเชื้อเพลิงน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ที่มีความอ่อนไหวหรือไม่เพียงพอเป็นระยะๆ และโอกาสที่จะทำมาค้าขายก็เกิดความไม่คล่องตัวและมีความถดถอย เพราะกำลังซื้อและการลงทุนจากฝ่ายยุโรปก็ชะงักงัน หรือลดน้อยลง
อีกทั้งการเสียโอกาสที่จะขยายการทำมาค้าขายกับฝ่ายรัสเซีย ก็ต้องเผชิญกับการคว่ำบาตรของฝ่ายยุโรปตะวันตก นำโดยฝ่ายสหรัฐอเมริกา จัดได้ว่าเป็นความเสียหายกันโดยถ้วนหน้าชาวโลกรวมทั้งชาวยูเครนและรัสเซียก็เฝ้ารอสันติภาพ และการกลับคืนสู่สภาวะปกติ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายยูเครนเป็นสำคัญว่า จะยังดันทุรังต่อไปหรือไม่ และฝ่ายประเทศที่สนับสนุนยูเครนจะยังดึงดันที่จะใช้ยูเครนเป็นเครื่องมือกลไกในการบ่อนทำลายฝ่ายรัสเซียอีกไปได้นานเท่าใด ขณะที่ประเด็นปัญหาภายในของฝ่ายตนเองก็มีมากมายและทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ทางด้านการสู้รบ ฝ่ายผู้เชี่ยวชาญชำนาญการทางด้านการสงคราม และบรรดาผู้นำทางการเมืองต่างๆ ก็เริ่มตระหนักแล้วว่า ฝ่ายยูเครนที่แม้จะยังได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายสหรัฐฯ และยุโรปตะวันตกยังไงก็ไม่มีพละกำลังเพียงพอที่จะไปตีกลับ และเอาชนะฝ่ายรัสเซียได้อย่างเบ็ดเสร็จ ด้วยว่าพละกำลังทหารของฝ่ายยูเครนด้อยกว่าฝ่ายรัสเซีย ทั้งกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์ และการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ อีกทั้งฝ่ายรัสเซียก็ยังสามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง มิได้อ่อนเปลี้ยจากการสูญเสียกำลังทหาร หรือสูญเสียจากการถูกคว่ำบาตรต่างๆ นานา
ในขณะเดียวกัน ฝ่ายรัสเซียกลับยังสามารถค่อยๆ รุกคืบเข้าไปในดินแดนของยูเครนจากด้านตะวันออกไปสู่ด้านตะวันตกมากยิ่งขึ้น แบบค่อยเป็นค่อยไป หรือเป็นการค่อยๆ เขมือบฝ่ายยูเครนนั่นเอง
การนี้ก็ขึ้นอยู่กับทางฝ่ายผู้นำยูเครนว่า จะตระหนักและยอมรับซึ่งความเป็นจริงได้แล้วหรือยัง ในทำนองไม่ให้เสียหายไปมากกว่านี้ (จากที่เสียหายมามากโขแล้ว) โดยเลือกหันกลับไปสู่โต๊ะเจรจาเพื่อการหยุดยิง และการเจรจาสันติภาพ
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกาก็มีความประสงค์ที่จะเป็นผู้สร้างสันติภาพ และเสนอให้มีการหยุดยิงระหว่างฝ่ายยูเครน กับฝ่ายรัสเซีย แต่เรื่องก็ยังค้างคาอยู่จนถึงทุกวันนี้ ซึ่งประเด็นปัญหามิใช่แค่เรื่องหยุดยิงเท่านั้น แต่จะต้องมีการพินิจพิจารณาเรื่องอื่นๆ เป็นองค์รวมด้วย ซึ่งเป็นความต้องการของฝ่ายรัสเซีย ที่ขณะนี้อำนาจต่อรองมีสูงกว่าฝ่ายยูเครนดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น
เรื่องจึงอยู่ที่ว่า ฝ่ายยูเครนและกลุ่มประเทศตะวันตกที่สนับสนุนอยู่ จะยอมรับเงื่อนไขของฝ่ายรัสเซีย ในการประกันความมั่นคงปลอดภัยของฝ่ายรัสเซีย ที่ขึ้นอยู่กับการที่ฝ่ายยูเครนจะต้องเลิกความคิดอ่านใดๆ ที่จะเข้าเป็นสมาชิกทั้งองค์การนาโต และสหภาพยุโรป
และโดยคู่ขนานกันไป ก็จะมีการประกันความมั่นคงปลอดภัยของฝ่ายยูเครน หลังจากที่จะมีสถานะเป็นประเทศเป็นกลาง ไม่เข้าร่วมในองค์กรพันธมิตรร่วมมือทางด้านความมั่นคงทางด้านการทหารใดๆ ทั้งสิ้นโดยผู้ประกันความมั่นคงยูเครนและเป็นกลาง ก็จะเป็นทั้งฝ่ายสหรัฐฯ และฝ่ายรัสเซีย
แต่ที่น่าจะเป็นปัญหาที่สุดก็คือการที่ทั่วโลกจะต้องยอมรับว่า พื้นที่ของยูเครนเดิม ที่ฝ่ายรัสเซียได้ยึดครองไปแล้วประมาณ 20% ของทั้งประเทศยูเครนนั้น จะถูกแปลงไปเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียโดยปริยาย ด้วยเหตุผลว่าพลเมืองยูเครนในพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่ต่างมีเชื้อสายรัสเซีย และพื้นที่ดังกล่าวเป็นเสมือนพื้นที่กันชน (Bubble zone) ให้กับความมั่นคงปลอดภัยของรัสเซีย และเป็นสะพานเชื่อมโยงการกลับมาสู่ความสัมพันธ์ในระดับปกติระหว่างยูเครนกับรัสเซีย
หากเริ่มต้นเช่นนี้ได้ ทั้งฝ่ายรัสเซีย และฝ่ายตะวันตกนำโดยสหรัฐอเมริกา ก็จะสามารถเปิดการเจรจาเรื่องการเป็นมิตรคู่ค้า หรือมิตรสหายต่อกันและกัน(Partnership) ในอนาคต ซึ่งจะนำไปสู่การยกเลิกการคว่ำบาตรต่างๆ ของฝ่ายตะวันตกต่อรัสเซีย และเปิดโอกาสที่โลกจะได้จัดซื้อเชื้อเพลิงน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียในราคามิตรภาพอีกครั้ง ทั้งหมดนี้เป็นส่วนสำคัญของการฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาอุตสาหกรรมทั้งโลกในอนาคต
ยูเครนนั้นได้ถูกรัสเซียต้อนเข้ามุมอับ โดยมีฝ่ายสหรัฐอเมริกา และยุโรปตะวันตกเป็นผู้ทำให้เกิดสถานการณ์ดังกล่าวขึ้น จากการเดินเกมเปิดรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโต ซึ่งเมื่อเวลาที่ยูเครนไปไม่รอด ฝ่ายสหรัฐฯ และยุโรปตะวันตก ก็ไม่คิดจะเอาทหารของตนไปร่วมตายกับทหารของยูเครนอย่างที่เห็นกัน
ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ทุกฝ่ายต่างเสียหายกันไปมากแล้ว ซึ่งมันไม่มีความจำเป็นที่จะสูญเสียยิ่งขึ้นต่อไปอีก ฝ่ายยูเครน และประเทศผู้สนับสนุนจะต้องตระหนักในวลี “เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย” ไว้ให้ดี
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี