ปัญหาการขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาในปัจจุบันนี้มีต้นเหตุมาจากการขัดแย้งระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร กับสมเด็จฮุนเซน และเมื่อทั้งสองคนต่างเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่เหนือผู้นำประเทศของเขา ความขัดแย้งส่วนตัวนั้นก็เลยเข้ามาเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา และมิตรไมตรีอันดีงามระหว่างชาวไทยกับชาวกัมพูชา โดยปริยาย
แต่เดิมมา ประชาชนทั้งสองประเทศนั้นเสมือนญาติพี่น้องกัน ไปมาหาสู่กันมาตลอดประวัติศาสตร์ และมีขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกันผสมผสานกัน แลกเปลี่ยนไป-มาระหว่างกัน จัดได้ว่ามีรากเหง้าเดียวกัน จากอารยธรรมฮินดูพุทธ ชาวไทยและชาวกัมพูชามิได้มีเรื่องราวกัน มิได้เป็นต้นเหตุของปัญหาความขัดแย้งในปัจจุบันนี้ แต่กลับต้องมาเป็นผู้รับผลกรรมผลกระทบจากสองบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ดังกล่าว ความขัดแย้งจะคลี่คลายและยุติลงได้ก็ต่อเมื่อสองผู้ยิ่งใหญ่หมดอำนาจวาสนาในเวทีการเมืองของไทยและกัมพูชา
ในระหว่างนี้ชาวไทย และชาวกัมพูชาก็ต้องออกมาเรียกร้องให้สองผู้นำทั้งสองยุติการดึงเอาประเทศและประชาชนพลเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง และในขณะเดียวกันก็ต้องเรียกร้องให้ฝ่ายกองทัพต่างทำหน้าที่ปกป้องความมั่นคงปลอดภัยตลอดแนวชายแดนไทยและกัมพูชา เช่น การละเว้นการเผชิญหน้ากัน และร่วมกันดูแลความมั่นคงปลอดภัยตลอดแนวชายแดนให้มากที่สุดเท่าที่จะกระทำได้ดูๆ แล้วฝ่ายกองทัพกัมพูชาเองก็คงจะไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะกระทำการใดๆ ในเชิงสร้างสรรค์ด้วยอำนาจและสติปัญญาของตนเอง เพราะตกอยู่ในอาณัติของสมเด็จฮุนเซน ซึ่งตรงกันข้ามกับทางฝ่ายกองทัพไทย ที่มีภาระหน้าที่อันชอบธรรม และถูกกฎหมาย รวมทั้งไม่ตกอยู่ในอาณัติของนายทักษิณ ชินวัตร และฝ่ายการเมือง
ในการนี้ฝ่ายกองทัพไทยก็จะต้องมีการปฏิบัติการต่างๆ ที่จะให้ความมั่นอกมั่นใจ และเสริมสร้างกำลังใจให้กับชาวไทย เช่น
1.การจัดวางแนวกำลังตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างพร้อมเพรียง เพื่อป้องกันมิให้การรุกล้ำใดๆ โดยฝ่ายกองทัพกัมพูชา จะเจตนาหรือไม่จะต้องไม่เกิดขึ้น
2.ฝ่ายกองทัพต้องดำเนินการต่างๆ ที่จะต้องป้องกันความมั่นคงปลอดภัยและความถูกต้องชอบธรรมให้กับดินแดนไทย เช่น
2.1 การขจัดการคงอยู่ของบ่อนการพนัน ศูนย์หลอกลวงสังคมผ่านทางระบบการสื่อสารสมัยใหม่ (Call Center) ด้วยการปิดกั้นการจ่ายไฟฟ้า การยกเลิกเสาสื่อสารคมนาคม การขนส่งวัสดุก่อสร้าง และเครื่องมือเครื่องใช้ทางอิเล็กทรอนิกส์จากฝั่งไทยไปสู่ฝั่งกัมพูชา
2.2 การตรวจเข้มการเคลื่อนไหวของชาวไทย และชาวต่างชาติ จากฝั่งไทยไปสู่ฝั่งกัมพูชา เพื่อไปเล่นการพนันและการถูกหลอกลวงให้ไปเป็นแรงงานทาสในศูนย์ Call Center ต่างๆ ซึ่งวิธีการหนึ่งก็คือ การตรวจสอบเอกสารเดินทาง เอกสารการเสียภาษีรายได้ และการชี้แจงจุดประสงค์ของการจะเดินทางข้ามเขตแดน ทั้งนี้ ต้องแยกแยะระหว่าง“นักท่องเที่ยว” จากชาวบ้านตาสีตาสาที่ทำมาหากินตลอดแนวชายแดน รวมทั้งการตรวจตรารถบรรทุกสินค้าต่างๆ ว่าเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการยังชีพของชาวกัมพูชา และมิใช่สินค้าที่จะไปเกี่ยวข้องกับบ่อนการพนันและศูนย์ Call Center
2.3 ในขณะเดียวกัน ฝ่ายกองทัพก็ต้องดำเนินการค้นหากับระเบิด โดยร่วมมือกับองค์การสหประชาชาติ และมูลนิธิภาคประชาสังคม ที่เกี่ยวข้องกับการเก็บทุ่นระเบิด
ทั้งนี้การที่ผู้นำทั้งสองประเทศขัดแย้งกันดังกล่าว การดำเนินการเจรจาปักปันเขตแดนทั้งบนบกและในทะเล ภายใต้กรอบ MOU 43 และ MOU 44 ตามลำดับ ก็ต้องระงับไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าบรรยากาศจะดีขึ้น
ส่วนเรื่องที่ฝ่ายกัมพูชาจะไปเต้นแร้งเต้นกาในเวทีระหว่างประเทศ ฝ่ายไทยก็ไม่ต้องไปเต้นตาม เพราะเป็นเรื่องไร้สาระ ไม่สมเหตุสมผล ฝ่ายไทยโดยกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมก็มีหน้าที่ร่วมกันในการชี้แจงข้อเท็จจริง เช่น การที่ทั้งสองประเทศมีกรอบและเวทีการเจรจากันอยู่แล้ว ไม่มีสาเหตุใดที่จะไปรบกวนเวทีและองค์การระหว่างประเทศ แต่ที่การเจรจาชะงักงันก็เพราะมีสาเหตุมาจากการขัดแย้งกันระหว่างสองผู้นำประเทศ อีกทั้งผู้นำฝ่ายกัมพูชาไร้สติ มีพฤติกรรมชวนตีชวนต่อย ซึ่งชาวโลกก็ทราบกันดี เพียงแต่ฝ่ายไทยจะต้องแสดงท่าที และอธิบายความด้วยวุฒิภาวะที่สูงส่ง
ในขณะเดียวกัน ปวงชนชาวไทยเมื่อรับทราบแล้วว่า ที่มาของประเด็นปัญหาเป็นอย่างไรดังกล่าว ก็ต้องไม่ไปคล้อยตามกับกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองที่จะเร้าอารมณ์ของความคลั่งชาติ เพราะชาวไทยและชาวกัมพูชามิได้มีปัญหากัน ประเทศไทยโดยองค์รวมก็อยากเสริมสร้างมิตรภาพและมิตรไมตรีกับฝ่ายกัมพูชา ไม่เกี่ยวข้องและไม่เป็นเครื่องมือกลไกให้กับนายทักษิณ ชินวัตร และสมเด็จฮุนเซน
ชาวไทย และชาวกัมพูชาต้องมารับเคราะห์กรรมและแบกภาระเพราะ ผู้ยิ่งใหญ่ของทั้งสองประเทศคือนายทักษิณ ชินวัตร และสมเด็จฮุนเซน เป็นตัวปัญหาก็ต้องรอการเปลี่ยนแปลงซึ่งจะมาได้จากพลังประชาชน และจากกฎหมายบ้านเมืองพร้อมกับแรงกดดันจากเพื่อนสมาชิกประชาคมอาเซียน และเพื่อนจากสมาชิกองค์การสหประชาชาติ ก็คงไม่นานเกินรอ ทั้งสองผู้ยิ่งใหญ่อายุอานามก็มากโขอยู่แล้ว ไม่สามารถทวนสังขารอยู่ได้ และไม่สามารถต้านทานหลักธรรมได้
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี