วันเสาร์ ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคมเมื่อวานนี้..นักการเมืองที่อ้างว่ามาจากการเลือกตั้งของประชาชน..ทั้ง สส. 500 จำพวก..และ สว.200 คน..ได้ประชุมสุมหัวเพื่อจะฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560..ที่ประชาชน 16.82 ล้านเสียงเป็นผู้สถาปนา..จากการลงประชามติเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2559..หรือคิดเป็นร้อยละ 61.35..ของผู้ออกมาใช้สิทธิทั้งหมด 29,740,677 คน
ที่ต้องการจะฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญปี 2560..ฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน..ซึ่งเป็นรัฐธรรมฉบับ“ปราบโกงนักการเมือง”..แล้วยกร่างรัฐธรรมฉบับใหม่นั้น..เจตนารมณ์ที่แท้จริงก็เพื่อผลประโยชน์ของนักการเมืองเท่านั้น..ประชาชนก็คือข้ออ้างที่ถูกนักการเมืองใช้แอบอ้างบังหน้าอยู่ตลอดเวลา
โดยเฉพาะข้ออ้างที่ว่า..รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นมรดกของคณะรัฐประหาร คสช.เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557..เพื่อต้องการสืบทอดอำนาจ..ซึ่งในประเด็นนี้..หากพูดกันแบบชาวบ้าน..ก็ต้องถามกลับว่า..สส. 500 คน..ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งจากระบบเขต..และระบบบัญชีรายชื่อ..ที่นั่งชูคอกันอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรเวลานี้..และกำลังรุมทึ้งเพื่อจะฉีกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทิ้งนั้น..เป็นผู้สืบทอดอำนาจของ คสช.ใช่หรือไม่..เพราะทุกคนล้วนมาจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้
และที่ต้องถามจี้ก็คือ..สส.ของพรรรคประชาชนที่ได้รับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566..ในนามพรรคก้าวไกลจำนวน 151 คน..และพรรคเพื่อไทย 141 คน..ซึ่งมีจำนวนมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวน สส.ทั้งหมด..เป็นผู้สืบทอดอำนาจของ คสช.ใช่หรือไม่..และถ้าตอบว่าไม่ใช่..ก็ย่อมแสดงให้เห็นว่า..รัฐธรรมนูญฉบับนี้มิอาจสนองเจตนารมณ์ของ คสช.ที่ต้องการสืบทอดอำนาจตามที่กล่าวอ้าง
อีกประการหนึ่งที่สำคัญ..ถ้ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นมรดกของ คสช. ก็ต้องถามต่อว่า..ทำไมพรรครวมไทยสร้างชาติที่เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา..อดีตหัวหน้าคณะ คสช. เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี..จึงได้คะแนนเสียงจากระบบบัญชีรายชื่อเพียงแค่ 4.7 ล้านเสียง..เมื่อเทียบกับพรรคก้าวไกลหรือพรรคประชาชนที่ได้ 14.4 ล้านเสียง..และพรรคเพื่อไทยที่ได้ 10.9 ล้านเสียง
นอกจากนั้น..เมื่อรวมคะแนนเสียงจากระบบบัญชีรายชื่อของพรรครวมไทยสร้างชาติ..กับพรรคการเมืองขั้วเดิมของกลุ่ม“3 ป.”อีก 2 พรรค..คือ..พรรคพลังประชารัฐ..และพรรคภูมิใจไทย..เมื่อรวมกันแล้วก็ยังน้อยกว่าพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย..ซึ่งเป็น 2 พรรคการเมืองที่กระเหี้ยนกระหือรือที่จะฉีกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทิ้ง..โดยพรรคพลังประชารัฐได้ 5.3 แสนเสียง..และพรรคภูมิใจไทยได้ 1.1 ล้านเสียง..เมื่อรวมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ..เพิ่งจะได้แค่ 6.4 ล้านเสียงเท่านั้น
สรุปก็คือ..รัฐธรรมนูญฉบับนี้..ทั้งไม่ใช่เป็นโซ่ตรวน..และเป็นกรงขังประชาธิปไตย..ตามที่ สส.พรรคประชาชนดาหน้ากันขึ้นมากล่าวอ้างในที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 14 ตุลาคมเมื่อวานนี้..หากแต่เป็นโซ่ตรวนและกรงขัง“นักการเมืองขี้โกง”..ที่ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์..และเป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม..เพื่อไม่ให้ออกมาเดินเพ่นพ่านและเข้าสู่อำนาจได้อย่างสะดวกง่ายดายมากกว่า
หาก สส.ทั้งจากพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยที่เป็นตัวตั้งตัวตี..ในการที่จะฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญฉบับนี้..มีความสุจริตใจที่จะแก้ไขปรับปรุงรัฐธรรมนูญให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชนมากยิ่งขึ้น..ไม่ใช่เพื่อสิทธิประโยชน์ของนักการเมืองและพรรคการเมือง..ซึ่งถ้าเห็นว่ามาตราใดของรัฐธรรมนูญบับนี้มีจุดอ่อนข้อบกพร่อง..สมาชิกรัฐสภา..ทั้ง สส. และ สว.ก็สามารถเสนอขอแก้ไขเป็นรายมาตราได้อยู่แล้ว..ไม่จำเป็นต้องยกร่างขึ้นมาใหม่ทั้งฉบับ
สำคัญที่สุด..เมื่อพิจารณาจากร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมมาตรา 156 และเพิ่มหมวด 15/1..เพื่อเปิดทางให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้ง 3 ฉบับ..คือฉบับของนายพริษฐ์ วัชรสินธุ..กับคณะ สส.พรรคประชาชน, ฉบับของนายชูศักดิ์ ศิรินิล..กับคณะ สส.พรรคเพื่อไทย..และฉบับที่เสนอโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล..กับคณะ สส.พรรคภูมิใจไทย..และพรรคร่วมรัฐบาล ..ต่อที่ประชุมสมาชิกรัฐสภา..โดยจะมีการลงมติรับหลักการในวาระแรกวันที่ 15 ตุลาคมวันนี้นั้น..อาจจะละเมิดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมาว่า..“รัฐสภาไม่อาจให้ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญได้โดยตรง”
เพราะร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ฉบับนี้..อันจะนำไปสู่การฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560..ได้กำหนดให้การยกร่างรัฐธรรมนูญ..จัดทำโดยบุคคลซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชน..ทั้งในรูปแบบคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ..และ สสร.
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม..ด่านสุดท้ายคือประชาชน..ที่จะต้องออกเสียงลงประชามติว่า..จะยอมให้“โจรการเมือง”ฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือไม่..และมิหนำซ้ำยังจะใช้เงินภาษีอากรของชาวบ้านอีกนับหมื่นล้านบาทมาล้างผลาญเพื่อการนี้อีกด้วย
บรรทัดนี้คงต้องถามใจประชาชน 16.82 ล้านเสียง..ซึ่งเป็นผู้สถาปนารัฐธรรมนูญฉบับนี้..ว่าจะยอม“สส.500”จำพวกหรือไม่ ?!
รุ่งเรือง ปรีชากุล

เริ่มคลี่คลาย! ป่าโมกยังมีน้ำท่วมบางจุด รถใหญ่สัญจรได้
บุกจับ 'นิสิต สินธุไพร' พ่ออดีตรัฐมนตรี หลังหลบหนีคดีล้มอาเซียนซัมมิต
น้ำมาอีกระลอก! ปทุมธานีเจอเจ้าพระยาท่วมซ้ำหลังเขื่อนปล่อยน้ำเพิ่ม
จนท.พิทักษ์ป่าภูเขียวถูก'กระทิงป่า'ขวิดเจ็บสาหัส ขณะลาดตระเวนกลางป่าลึก
'นักวิชาการอิสระ'แนะ ต้องแยกแยะ ชี้ไม่ใช่ติ่ง 'อนุทิน' แต่ยอมรับว่าเขาทำงานจริง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี