แม้ว่าปี 2568 (ค.ศ. 2025) นี้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา จะพลาดการรับรางวัลสันติภาพโนเบลไป แต่เจ้าตัวดูท่าว่าจะไม่ยอมแพ้ เพราะรางวัลสันติภาพโนเบลนั้นมีการแจกรางวัลกันทุกปี ดูได้จากการที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังมุ่งงานเสริมสร้างสันติภาพอย่างคึกคัก โดยผลงานล่าสุดก็คือ การยุติสงครามสู้รบระหว่างฝ่ายอิสราเอล กับฝ่ายปาเลสไตน์-ฮามาสด้วยข้อเสนอ 20 ประการซึ่งก็เป็นที่ยอมรับและคาดหวังกันทั่วโลกว่าจะนำไปสู่สันติภาพ และความเจริญก้าวหน้าของภูมิภาคตะวันออกกลาง
ผลงานล่าสุดดังกล่าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถือเป็นผลงานที่ต่อเนื่องจากกรณีต่างๆ ที่อ้างว่าเป็นผลงานของตนในการเล่นบท “ท้าวมาลีวราช” ยุติความขัดแย้งของ 7 คู่กรณีระหว่างกัน ได้แก่ อินเดีย-ปากีสถาน, อิสราเอล-อิหร่าน, เซอร์เบีย-โคโซโว, อาเซอร์ไบจาน-อาร์เมเนีย, อียิปต์-เอธิโอเปีย, รวันดา-คองโกประชาธิปไตย จนมาถึงไทย-กัมพูชา
อย่างไรก็ตาม ประชาคมโลกยังเผชิญกับปัญหาการขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ ระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับจีนเกาะไต้หวัน ระหว่างจีนกับประเทศสมาชิกอาเซียนในเรื่องข้อพิพาทเขตแดนทางทะเลในทะเลจีนตอนใต้ ซึ่งเมื่อประชาคมโลกได้เห็นผลงานดังกล่าว บวกกับการที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยังมีความปรารถนาที่จะได้รับคำจารึกว่าเป็นผู้สร้างสันติภาพโลก ผ่านทางการได้รับการเสนอชื่อเพื่อเข้ารับรางวัลสันติภาพโนเบลอีกต่อไป ชาวโลกก็เลยคาดหวังกันว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะยังขะมักเขม้นในเรื่องการเสริมสร้างสันติภาพต่อไปอย่างไม่ลดละ เนื่องจากอยู่ในวิสัยที่จะดำเนินการได้ เพราะสหรัฐอเมริกาถือเป็นประเทศที่มีแสนยานุภาพทางการทหาร มีความมั่งคั่งและเจริญก้าวหน้ามากที่สุดในโลก และยังมุ่งที่จะพัฒนาความเป็นเลิศทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างไม่ลดละ
และเมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มุ่งมั่นที่จะเป็นบุคคลแห่งสันติภาพแล้ว โลกก็ย่อมมีคำถามตามมาว่า แล้วอีก 2 ผู้ยิ่งใหญ่ของโลก ได้แก่ ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียและประธานาธิบดี สี จิ้นผิง แห่งแผ่นดินใหญ่จีนคอมมิวนิสต์ จะมีทีท่าอย่างไร? และคิดอ่านอย่างไรในเรื่องเสริมสร้างสันติภาพให้กับชาวโลก?
ซึ่ง ณ ที่นี้ก็หมายถึงการที่ประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน จะหันมาร่วมมือกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในเรื่องการยุติสงครามในยูเครน และกลับมาพิจารณาการอยู่ร่วมกันอย่างฉันมิตรของประเทศยุโรปทั้งหมด รวมไปถึงการที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จะเจรจาต่อรองกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อลดความตึงเครียด และการเผชิญหน้าระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับจีนเกาะไต้หวัน ไปจนถึงการร่วมมือ 3 เส้าระหว่างสหรัฐอเมริกา จีน และประชาคมอาเซียน เพื่อแปรสภาพทะเลจีนตอนใต้ให้เป็นเขตแดนสันติภาพและความเจริญก้าวหน้าร่วมกัน
ซึ่งในการนี้ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็คงจะต้องพูดจาโดยตรงทั้งกับประธานาธิบดีปูติน และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ควบคู่ไปกับการที่ชาวโลกก็ต้องร่วมกันออกมาส่งเสียงเรียกร้องและให้กำลังใจกับผู้นำโลกทั้งสามคน
การแก้ไขปัญหาคั่งค้างต่างๆ ดังกล่าวนั้น ก็เป็นที่หวังว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะมีข้อเสนอที่ครอบคลุมและมีช่วงจังหวะขั้นตอนของการดำเนินการสู่สันติภาพและการพัฒนาชีวิตร่วมกันของผู้ที่เกี่ยวข้อง เป็นข้อบัญญัติ 20 ประการ อย่างเช่นในกรณีอิสราเอลกับปาเลสไตน์-ฮามาส
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี