วันพฤหัสบดี ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 ได้มีการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นทั่วสหรัฐอเมริกา อันได้แก่ ตำแหน่งผู้ว่าการมลรัฐ และตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมือง ซึ่งในภาพรวม ฝ่ายพรรคเดโมแครตได้ประสบความสำเร็จในการเอาชัยชนะเหนือผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน อันเป็นการสะท้อนว่าพรรคเดโมแครตเริ่มตีตื้นขึ้นมาในเวทีการเมืองของสหรัฐฯ เสริมสร้างความคาดหวังว่า ในการเลือกตั้งทั่วไปในระดับชาติ คือในระดับผู้แทนราษฎรและระดับวุฒิสมาชิกในช่วงปี 2569 ฝ่ายพรรคเดโมแครตคงจะกลับมาเป็นเสียงข้างมากในทั้งสองสภา นั่นคือ สภาสูง (วุฒิสภา) และสภาล่าง (สภาผู้แทนราษฎร)
ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ได้สะท้อนให้เห็นว่า ความขลัง และความนิยมของประธานาธิบดี โดนัลด์ทรัมป์ แห่งพรรครีพับลิกัน ดูจะเริ่มเสื่อมคลายลง อันสืบเนื่องมาจากวิธีการวางตัว และการพูดจาแบบไม่เกรงกลัว หรือเกรงอกเกรงใจต่อผู้ใด อีกทั้งความคิดอ่านว่าชาวอเมริกันผิวขาวและนับถือศาสนาคริสต์จะต้องอยู่เหนือชาวอเมริกันผิวสีอื่นๆ และต่างศาสนานั้น ได้รับการต่อต้านเพิ่มมากขึ้น แม้กระทั่งในแวดวงชาวอเมริกันผิวขาวเองก็ยังเริ่มเหนื่อยหน่ายกับลัทธิกีดกัน และการเผชิญหน้า
คอการเมืองทั้งใน และนอกสหรัฐอเมริกา ต่างมีความคิดเห็นว่า ผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ดังกล่าวนั้น นับเป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อของการเมืองสหรัฐฯ และการเปลี่ยนแปลงในเรื่องความคิดอ่านของสังคมอเมริกัน รวมทั้งทิศทางนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ เพราะนครนิวยอร์ก คือเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ และเป็นเมืองที่มีฉายาว่า เป็นเมืองแห่งผู้ที่เข้ามาตั้งรกรากถิ่นฐานในสหรัฐอเมริกาจากต่างแดน
ชัยชนะอย่างท่วมท้นของ นายโซห์ราน มัมดานีเหนืออดีตนักการเมืองที่คร่ำหวอดอย่าง นายมาริโอโควโม อดีตผู้ว่าการมลรัฐนิวยอร์ก เป็นเสน่ห์ของการเมืองสหรัฐฯ ที่อะไรก็เกิดขึ้นได้ โดย นายโซห์ราน มัมดานี เป็นเพียงนักการเมืองหน้าใหม่ มีอายุแค่ 35 ปี แถมยังเป็นคนอเมริกันที่ครอบครัวมีเชื้อสายอินเดีย ที่ไปตั้งรกรากอยู่ที่ประเทศอูกันดา ก่อนจะอพยพมาอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา อีกทั้งนายโซห์ราน มัมดานี ยังเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งระหว่างการรณรงค์หาเสียงก็ได้ประกาศตัวเองว่า เป็นพวกสังคมนิยม (Socialist)ยืนอยู่ตรงกันข้ามกับฝ่ายทุนนิยม (Capitalist) ที่มีประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นหัวเรือใหญ่
จัดได้ว่าศึกเลือกตั้งที่นครนิวยอร์กครั้งนี้เป็นศึกล้มช้าง และศึกอุดมการณ์ระหว่างลัทธิสังคมนิยม กับลัทธิทุนนิยม โดยนครนิวยอร์กถือเป็นศูนย์กลางการเงินของสหรัฐฯ และของโลก เพราะมี The Wall Street เป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ และแสดงอิทธิพลของระบอบทุนนิยม ซึ่งแต่ไหนแต่ไร ชาวยิวอเมริกันมีบทบาทเป็นสำคัญ แต่นายโซห์ราน มัมดานี กลับสามารถฟันฝ่าแรงต้านทาน และอิทธิพลของกลุ่มทุนต่างๆ ได้ ด้วยการเสนอนโยบาย และมาตรการแบบสังคมนิยมที่ฝ่ายภาครัฐจะต้องเข้ามามีบทบาทในการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนพลเมือง โดยเฉพาะผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ที่ตกหล่นอยู่ด้านหลัง ผ่านการเสนอที่ว่า คณะผู้บริหารนครนิวยอร์กภายใต้การนำพาของเขา จะอำนวยให้มีการเรียนหนังสือฟรีขึ้นรถประจำทางฟรี ได้รับการรักษาพยาบาลฟรี และจะมีการบริการทางด้านที่อยู่อาศัยที่มีราคาเหมาะสม รับภาระกันได้ โดยจะเป็นการบริหารราชการแบบสังคมนิยม นั่นคือภาครัฐมีบทบาทต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน มิได้ปล่อยให้เป็นไปตามระบบตลาดเสรีของลัทธิทุนนิยม ที่แต่ละคนจะต้องช่วยตนเองแบบตามมีตามเกิด และเห็นว่าภาครัฐไม่มีหน้าที่จะต้องเข้าไปพยุงช่วยเหลือแต่อย่างใด
ในขณะเดียวกัน นายโซห์ราน มัมดานี ก็ได้ประกาศว่าจะจัดเก็บภาษีรายได้เพิ่มขึ้นจากผู้มีอันจะกิน เพื่อนำเอารายได้มาพัฒนาคุณภาพชีวิต พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและเสริมสร้างความทัดเทียม พร้อมกับประกาศท้าทายประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ว่า อุดมการณ์ และแนวคิดสังคมนิยมพร้อมที่จะเผชิญหน้า และต่อกรกับความเป็นนักทุนนิยมของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็สวนกลับทันทีด้วยการประกาศว่า จะตัดลดงบประมาณช่วยเหลือนครนิวยอร์ก แถมกล่าวหาอีกด้วยว่า นายบันดินี คือพวกคอมมิวนิสต์ ซึ่งนายโซห์ราน มัมดานี ก็ตอบโต้ว่า จะปล่อยให้สังคมอเมริกันอยู่ต่อไปภายใต้อิทธิพล และการนำพาของพวกอภิสิทธิ์ชนจำนวนน้อยนิดต่อไปไม่ได้
อีกแล้ว นัยคือคนยากคนจน คนด้อยโอกาส จะต้องมีซุ่มมีเสียง มีศักดิ์ศรี และมีความทัดเทียมมากขึ้น
ในช่วงประมาณ 100 กว่าปีที่ผ่านมา คำว่า “สังคมนิยม” (Socialism) เป็นเสมือนปีศาจร้ายในแวดวงการเมืองประชาธิปไตยอเมริกัน และในแวดวงทุนนิยมของสหรัฐอเมริกา โดยถูกจำกัดจำเขี่ย ถูกตีกรอบ ถูกทำลายล้างมาโดยตลอด
แต่เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา แนวคิดสังคมนิยมได้ปักธงที่นครนิวยอร์กได้แล้ว และมีทีท่าว่าจะได้รับการตอบสนองจากชาวอเมริกันมากขึ้นในแผ่นดินอเมริกา
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com

สาวไทยดับคาปอยเปต แม่ร่ำไห้! บริษัทขู่เผาศพทิ้ง หากเป็นข่าวใหญ่
'กองบิน 5'แถลงข่าวเตรียมจัดงาน'สดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484'ประจำปี 2568
ทบ.ซัด'เขมร'แถลงบิดเบือน ย้ำไทยโต้กลับเพื่อป้องกันตนเอง
'นิพิฏฐ์'แนะ'สว.สำรอง' เลือกฟ้อง กกต.บางคน เหตุมีอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกาเป็น กกต.ด้วย เสี่ยงทำคดีสะดุด
เขมรมีหนาว! เสริมเขี้ยวเล็บทบ.ส่งมอบอาวุธวิจัย 'จรวดหลายลำกล้องDTI-1G'

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี