วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568
วุฒิสภามีขึ้นครั้งแรกในไทยภายหลังการยึด อำนาจของคณะรัฐประหาร 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญซึ่งคณะรัฐประหารนำมาใช้ในวันที่ 9 พฤศจิกายนปีเดียวกันที่ให้มีสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 100 คน ให้ทำหน้าที่ที่บัญญัติ แทนสภาผู้แทนราษฎรที่ถูกล้มไปพร้อมกับการล้มรัฐบาลและล้มรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2489 ในวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 ได้มีการตั้งสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 100 คนให้ทำหน้าที่นิติบัญญัติไปจนกว่าจะมีผู้แทนราษฎร
สมาชิกวุฒิสภาจำนวน 100 คนนี้ มีอดีตข้าราชการที่มีบรรดาศักดิ์อยู่มีจำนวนถึง 76 นาย นอกนั้นเป็นบุคคลในภาคราชการ และภาคเอกชน วุฒิสภาจึงถูกมองว่ามีบุคคลที่ไปในแนวอนุรักษ์นิยมมาก ที่น่าสังเกตคือทั้งๆ ที่คณะรัฐประหารต้องการล้มอำนาจคณะราษฎร แต่ก็ยังได้ตั้งสมาชิกคณะราษฎรเข้ามาในวุฒิสภาชุดนี้ถึง 5 คน มีพันเอกหลวงชำนาญยุทธศิลป์ นาวาตรีหลวงนิเทศกลกิจ นายบรรจงศรีจรูญ นายเผดิม อังสุวัฒน์ พันเอก พระยาฤทธิอัคเนย์ และ นายเล้ง ศรีสมวงศ์ ข้อสังเกตประการที่ 2 ในวุฒิสภาชุดนี้ไม่มี นายทหารของคณะรัฐประหารได้รับแต่งตั้งเข้ามาเป็นสมาชิกวุฒิสภาเลย น่าจะยังคิดไม่ทัน ต่อมาในวันที่ 24 พฤศจิกายนปีเดียวกันนั้น วุฒิสภาก็ได้เลือกเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศเป็นประธานวุฒิสภาโดยมีพระยาอภิบาลราชไมตรี เป็นรองประธานสภาคนที่ 1 และพลโทพระยาสีหราชเดโชชัย เป็นรองประธานสภาคนที่ 2 วุฒิสภาชุดแรก 100 ท่านนี้ทำหน้าที่ในทางนิติบัญญัติมาจนกระทั่งมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2591 ได้ผู้แทนราษฎรที่ได้รับการเลือกจากประชาชนจำนวน 99 คน จากนั้นอำนาจนิติบัญญัติจึงอยู่ในมือของรัฐสภาที่ประกอบด้วยวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร
จากนั้นเมื่อมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับถาวรออกประกาศใช้ในพ.ศ. 2492 แล้ว รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้บัญญัติให้สมาชิกวุฒิสภาชุดเดิมอยู่ต่อไป โดยให้นับอายุหรือวาระของวุฒิสภาชุดนี้ตั้งแต่วันที่แต่งตั้ง ครั้นอยู่ต่อมาจนครบ 3 ปี จึงมีการจับสลากออกไปจำนวนครึ่งหนึ่งคือ50 คนในวันรุ่งขึ้นก็มีการแต่งตั้งเข้ามาใหม่จำนวน 50 คน จากรายชื่อผู้ได้รับแต่งตั้ง จะเห็นได้ว่าจำนวนกว่าครึ่งนั้นเป็นอดีตสมาชิกวุฒิสภาชุดเก่านั่นเอง ส่วนคนใหม่ที่รับแต่งตั้งเข้ามานั้นก็มีนายทหารบกหน้าใหม่อย่างเช่น พลตรีบัญญัติ เทพหัสดิน ณ อยุธยา และพลตรีน้อม เกตุนุติ ผู้ที่มีความใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรี หลวงพิบูลสงคราม ที่น่าสังเกตเป็นพิเศษคือมีสมาชิกใหม่ชื่อ พลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อยู่ด้วย ท่านคือนายกรัฐมนตรีอยู่ในวันที่คณะรัฐประหารยกกำลังเข้ายึดอำนาจล้มรัฐบาล เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 จนตัวท่านต้องหนีการรัฐประหาร ถึงกับต้องเดินทางออกไปนอกประเทศ วันเวลาผ่านไป 3 ปี คงปรับความเข้าใจกันได้ จึงนอกจากกลับเข้าประเทศได้แล้วยังได้รับการแต่งตั้งให้เข้าสู่วงการเมืองอีกด้วย
วุฒิสภาชุดนี้ได้อยู่สืบมาจน พ.ศ. 2494 ภายหลังเกิดกบฏแมนฮัตตันที่ทหารเรือกลุ่มหนึ่งนำกำลังเข้าจู่โจมจับ จอมพล ป. นายกรัฐมนตรี ไปคุมตัวไว้ในเรือรบหลวงศรีอยุธยาและยื่นคำขาดให้รัฐบาลลาออก จนเกิดการสู้รบกันอย่างหนักระหว่างกองกำลังฝ่ายรัฐบาลกับกองกำลังทหารเรือ ในที่สุดฝ่ายรัฐบาลปราบการกบฏได้ และจอมพล ป. ปลอดภัย กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้เหตุการณ์การกบฏครั้งนี้ทำให้มีสมาชิกวุฒิสภา คือ พระยาศรีธรรมราชได้เสนอเปิดอภิปรายทั่วไปเรื่องการปราบกบฏแมนฮัตตัน ที่อภิปรายกันถึง 4 วัน ทำให้รัฐบาลไม่พอใจ เชื่อว่านี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่รัฐบาลและคณะรัฐประหารที่มีอำนาจในประเทศตัดสินใจยึดอำนาจล้มรัฐบาลของตัวเอง โดยมุ่งหมายล้มรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2492 หวนกลับไปปัดฝุ่นรัฐธรรมนูญ ฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2475 เอามาแก้ไข และประกาศใช้ใหม่ เรียกว่ารัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2475 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2495 เพราะชอบใจว่าฉบับนี้ เปิดทางให้รัฐบาลตั้งสมาชิกสภาผู้แทนประเภทที่ 2 ได้ครึ่งสภาฯและไม่ห้ามข้าราชการประจำดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย
นี่คือที่มาและที่ไปของวุฒิสภาในช่วงแรกที่ปรากฏตัวในวงการไทย
นรนิติ เศรษฐบุตร

อนุทิน ลงนามเปิดจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 บึงกาฬ-บอลิคำไซ เริ่มพรุ่งนี้
พ่อใจสลาย บ้านของขวัญลูก11เดือน ถูกเขมรยิง BM-21 พังทลายในพริบตา
กลิ่นหึ่งโรงพัก! สาวแสบพกไอซ์-ยาบ้า เยี่ยมผัวหน้าห้องขัง หวังให้เสพแก้ลงแดง
กัมพูชายอมถอย! เลิกตื๊อคุยมาเลย์ ยอมมาคุยจันทบุรี ไทยย้ำเงื่อนไขเหล็ก 3 ประการ
จับตาสนามเมืองกรุงพลิก ในวันที่ส้มไม่หวาน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี