องค์การอนามัยโลก(2010)ระบุว่า การไม่ออกกำลังกายเป็นความเสี่ยงอันดับที่ 4 ของการเสียชีวิตของชาวโลก รองจากโรคความดันโลหิตสูง 13%, การสูบบุหรี่ 9% น้ำตาลในเลือดสูง 6%, ขาดการออกกำลังกาย 6% และน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน 6%
อัตราการไม่ออกกำลังกายในทุกประเทศกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคที่ไม่ติดต่อ (NCDs หรือ non communicable diseases หรือโรคที่เกิดจากพฤติกรรม) ซึ่งนำไปสู่การมีสุขภาพที่ไม่ดี
สำหรับประเทศไทยในกลุ่มผู้สูงอายุ (จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี พ.ศ.2560) มีเพียง 26.5% ของผู้สูงอายุไทยเท่านั้นที่ออกกำลังกายเป็นประจำ และ 67.7% เท่านั้นที่กินผัก ผลไม้เป็นประจำ
ปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดทั่วร่างกายโดยเฉพาะหัวใจและสมองตีบและอุดตัน มีอยู่ 10 ประการ คือ 1) กรรมพันธุ์ 2) เพศชาย 3) อายุ 4) สูบบุหรี่ 5) ไขมันในเลือดสูง 6) ความดันโลหิตสูง 7) ความอ้วน 8) เบาหวาน 9) ไม่ออกกำลังกาย 10) อุปนิสัย ซึ่งส่วนใหญ่ของ 10 ข้อนี้เกิดจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
WHO (2010) ยังรายงานว่าการไม่ออกกำลังกายเป็นสาเหตุที่สำคัญของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและอุดตันถึง 30% ของโรคเบาหวาน 27% และของโรคมะเร็งเต้านมและมะเร็งลำไส้ใหญ่ 21-25% การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ สมอง ตีบและอุดตัน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคซึมเศร้า ฯลฯ
มีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า การออกกำลังกายในผู้สูงอายุเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย พบว่าผู้สูงอายุที่ออกกำลังกายมีอัตราการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ ความดันโลหิต อัมพาต เบาหวาน มะเร็งลำไส้ใหญ่ เต้านม น้อยกว่าผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย รวมทั้งมีหัวใจ ปอด ระบบหมุนเวียนโลหิต กล้ามเนื้อที่แข็งแรงกว่า รวมทั้งร่างกายมีสัดส่วนกล้ามเนื้อที่ไม่ค่อยมีไขมัน กระดูกที่แข็งแรงกว่าและสมรรถภาพร่างกายดีกว่า มีโอกาสหกล้มน้อยกว่า และมีความจำที่ดีกว่า
องค์การอนามัยโลกในปี ค.ศ.2012 รายงานว่า NCDs เป็นสาเหตุการตายถึง 38 ล้านคน (68%) จากการเสียชีวิตทั้งหมด 56 ล้านคนในโลก 3/4 (28 ล้านคน) ของการเสียชีวิตจาก NCDs และส่วนใหญ่ของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร (82%) เกิดในประเทศที่มีรายได้ต่ำ-ปานกลาง (ทำให้เศรษฐกิจยิ่งแย่) 17.5 ล้านคนตายจากโรคหลอดเลือดหัวใจ สมอง (46% ของโรคไม่ติดต่อทั้งหมด) โดย 7.4 ล้านคน จากโรคหลอดเลือดหัวใจ และ 6.7 ล้านคนจากการอุดตันของหลอดเลือดสมอง, 9.4 ล้านคนตายจากโรคความดันโลหิตสูง,ตายจากบุหรี่ 6 ล้านคน (600,000 คนจากการอยู่ใกล้คนอื่นที่สูบบุหรี่ถึงแม้ตนเองไม่สูบ, 5.9%(3.3 ล้านคน) ของการเสียชีวิตทั้งโลกมาจากแอลกอฮอล์, 3.2 ล้านคน ตายจากการออกกำลังกายน้อยไป (< 150 นาที/สัปดาห์), 1.7 ล้านคน ที่ตายจากโรคหลอดเลือด (หัวใจและสมอง)ตายเพราะกินเกลือมากไป ควรกินเพียง 2 กรัม Sodium (Na) ต่อวัน (5 กรัมเกลือแกงหรือหนึ่งช้อนชา หรือน้ำปลา 3 ช้อนชา) แต่กินถึง 10 กรัม
สำหรับประเทศไทย (WHO) โรคที่ไม่ติดต่อ(NCDs)เป็นสาเหตุการตายอันดับที่ 1 มีผู้ป่วยเป็นโรค NCDs ถึง 14 ล้านคน ตายจากโรค NCDs ปีละ 300,000 คนและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตายก่อนอายุ 60 ปี
การออกกำลังกายจะสามารถยับยั้งหรือชะลอความเสื่อมตามธรรมชาติของร่างกายได้บ้าง
การออกกำลังกายในผู้สูงอายุ ควรออกกำลังกายต่อเนื่องมาตั้งแต่เด็ก และควรออกกำลังกาย 4 ประเภท คือ 1) แบบแอโรบิก (aerobic หรือ endurance ให้หัวใจ ปอด ระบบหมุนเวียนโลหิตแข็งแรง) 2) สร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (resistance หรือ strength training) 3) ความยืดหยุ่น (flexibility exercise) 4) การทรงตัว (balance exercise)
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี