เด็กก็คือเด็ก เด็กก็คิดและทำแบบเด็ก ผู้ใหญ่ที่ฉลาดและมีสติจะต้องไม่ลดตัวไปต่อล้อต่อเถียงกับเด็ก แต่ต้องให้สติเด็ก และต้องทำให้เด็กรู้ว่า พฤติกรรมเช่นไรเป็นสิ่งใดถูกต้องและเหมาะสม และพฤติกรรมเช่นใดที่ถ่อยสถุล ไม่เหมาะไม่ควรที่มนุษย์จะพึงปฏิบัติ
ข่าวเรื่องเด็กชายคนหนึ่งอุตส่าห์สอบเข้าไปเรียนในคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนได้ แต่ทว่ากลับมีพฤติกรรมที่สังคมวิจารณ์ว่า ขอบทำตัวอยากเด่นอยากดัง และต้องการผลักดันตัวเองให้กลายเป็นข่าว คือประเด็นที่คนบางกลุ่มสังคมไทยกำลังเฝ้าติดตาม แต่คนอีกจำนวนมากก็บอกว่า ไร้สาระ ไม่มีความสำคัญอันใดที่ควรค่ากับการติดตามแม้แต่น้อย
เพราะชื่อของสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาแห่งแรกของประเทศไทย “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” เป็นที่รู้จักของคน
ในสังคมเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นเด็กคนดังกล่าวก็จึงสามารถโหนกระแสเพื่อให้ตนเองกลายเป็นข่าวได้โดยไม่ยาก
วิธีการทำให้กลายเป็นข่าวของเด็กพรรค์อย่างว่าคือ ต้องทำตัวให้แปลกแยกให้มากที่สุดจากหมู่คณะ เพราะการทำตัวแปลกแยกจากหมู่คณะเป็นเรื่องง่ายที่สุดสำหรับพวกสร้างภาพเพื่อให้ตนเองกลายเป็นคนดัง
มีคำถามว่า เหตุใดเด็กอยากดังคนดังกล่าวจึงต้องพยายามสร้างเรื่องขึ้นมา คำตอบชัดเจนคือ เพื่อลบปมด้อยในชีวิตของตน
เพราะฉะนั้นเด็กที่ต้องการลบปมด้อย จึงจำเป็นต้องสร้างปมเขื่องขึ้นมา เพื่อทำให้ตนเองกลายเป็นคนเด่นที่ถูกสังคมกล่าวถึงให้มากที่สุด โดยไม่สนใจว่าจะเป็นการถูกกล่าวถึงในแง่ดีหรือร้าย
ถามต่อไปว่า ทำไมเด็กคนดังกล่าวจึงต้องการสร้างภาพว่าตนเองไม่เห็นด้วย และจงใจขัดขวางพิธีกรรมของนิสิตใหม่แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ เบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สองรัชกาล
คำตอบของคนรู้ทันพฤติกรรมประหลาดของเด็กรายนี้คือ เพราะอยากดัง เนื่องจากไม่สามารถทำตัวให้เป็นคนพิเศษหรือคนดังของสังคมได้ด้วยหนทางอื่นที่สร้างสรรค์มากไปกว่านี้
อันที่จริงแล้วสังคมในจุฬาฯ มีความหลากหลายสูงมาก คนแต่ละกลุ่มในจุฬาฯ มีความเป็นตัวของตัวเองสูงจนเกินจะบรรยายได้ ซึ่งความหลากหลายในจุฬาฯ มีมายาวนานหลายทศวรรษ แต่ก็ไม่มีใครคิดจะสร้างภาพโดยอาศัยความหลากหลายตามแบบฉบับของตน เพื่อให้ตนเองกลายเป็นข่าว เพราะคนในจุฬาฯ รู้ดีว่าพฤติกรรมสร้างข่าวให้ตนเองเป็นความน่ารังเกียจ จนเข้าขั้นว่าดูแล้วน่าทุเรศ น่าสมเพช และน่าขยะแขยง
ขอกลับไปที่ประเด็นพิธีกรรมต่างๆ นานาของจุฬาฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่คนซึ่งไม่เคยศึกษาอย่างแท้จริงอาจจะเข้าใจเอาเองว่าเป็นการบีบบังคับให้ต้องกระทำ
ผู้เขียนขอยืนยันในฐานะคนที่เคยอยู่ในจุฬาฯ มาระยะหนึ่ง และก็ยังกลับเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับจุฬาฯ เป็นระยะๆ ขอยืนยันว่า ไม่มีใครบังคับให้คนในจุฬาฯ ต้องเข้าร่วมพิธีกรรมใดๆ ได้ ถ้าหากเขาผู้นั้นปฏิเสธ
สรุปคือ เมื่อไม่เห็นด้วยและไม่ต้องการร่วมกิจกรรมก็ไม่ต้องไปร่วม พูดแบบสั้นๆ ตรงประเด็นคือ ถ้าไม่อยากไปร่วมพิธีก็ไม่ต้องเสนอหน้าเข้าไป ส่วนจะไปตายโหงตายห่าที่ไป ก็เป็นเรื่องของมึง (ขออนุญาตอ้างอิงคำพูดของอาจารย์เก่ารายหนึ่งในคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ที่บอกกับผู้เขียน เพราะคงจะรำคาญที่ผู้เขียนเซ้าซี้ถามเป็นประจำเมื่อครั้งยังเป็นนิสิตที่ค่อนข้างจะอยากดังด้วยการทำตัวขวางโลกว่า ทำไมจุฬาฯ ต้องมีพิธีกรรมอย่างโน้น อย่างนี้ อย่างนั้น)
ผู้เขียนยืนยันได้อย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า ไม่มีใครบังคับใครให้เข้าร่วมพิธีกรรมใดๆ ในจุฬาฯ ได้ ถ้าไม่อยากไปก็ไม่ต้องสาระแนเสนอหน้าเข้าไป ส่วนจะไปตายโหงหรือตายห่าที่ไหนก็เรื่องของปัจเจกบุคคล ถ้าคิดว่ารำคาญหรือรับไม่ได้กับกิจกรรมหรือพิธีกรรมในจุฬาฯ ก็ไม่ต้องเข้าไปดู ไม่ต้องเข้าไปเห็น แต่ไม่ต้องเสือกไปขัดขวางความคิด ความเชื่อของคนอื่นเขา ถ้าเขาไม่ได้ทำพิธีใดๆ บนกบาลของเอ็ง หรือบนกบาลของโคตรพ่อโคตรแม่ของเอ็ง
จุฬาฯ ไม่เคยบังคับว่านิสิตใหม่ต้องเข้าพิธีรับน้อง ลอดซุ้มจามจุรี หรือรับพวงมาลัยจามจุรี ไม่บังคับแม้กระทั่งการไปถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในวันปิยมหาราช ไม่บังคับแม้กระทั่งคนที่เรียนจบแต่ไม่ต้องการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร แต่ถ้าหากใครจะเข้าร่วมพิธีกรรมใดๆ ในจุฬาฯ ก็ต้องทำตัวให้กลมกลืนกับผู้อื่นที่เข้าร่วมพิธี อย่ามาทำเป็นแกะดำในฝูงแกะขาว แต่ถ้าหากคิดและมั่นใจว่าตนเองไม่สามารถทนรับพิธีการของจุฬาฯ ได้ ก็ขอให้เรียนให้จบๆ ไปเสียโดยเร็ว หรือถ้าหากทนรับไม่ได้อีกต่อไป แล้วคิดว่าตนเองจะขาดใจตาย แล้วจะทำให้โคตรเหง้าเหล่ากอสมาชิกของผู้ที่รับพิธีกรรมของจุฬาฯ ไม่ได้ต้องล้มหายตายจากไปด้วย ก็ลาออกไปจากจุฬาฯ เสียในบัดดล อย่าทนเรียนต่อไปในจุฬาฯ ให้มันอึดอัดคับข้องใจต่อไปเลย ไม่ต้องเรียนจบจากจุฬาฯ ก็ไม่ตายหรอก เพราะยังมีที่เรียนอีกมากมายให้เลือกได้ตามความพอใจ จงไปเลือกที่เรียนที่เข้ากับอัธยาศัยของตนเถิด
มีคำถามจากคนที่ชอบอกชอบใจกับพิธีหมอบกราบในยุคปัจจุบันนี้ว่า การหมอบกราบคนที่เขาอยากจะกราบอยากจะไหว้มันหนักกบาลใคร แล้วหนักอย่างไร มิทราบ เขาไปเอามือของคนอื่นมากราบแทนหรืออย่างไร แล้วเขาไปบังคับให้ใครต้องกราบกระนั้นหรือ
การที่ใครคนใดคนหนึ่งเข้าไปแทรกแซงการกระทำโดยความสมัครใจของผู้อื่น ถือเป็นการกระทำที่เหมาะสมกระนั้นหรือ
มีคำถามมากมายจากคนที่อยากจะหมอบกราบเพื่อถวายความเคารพ ณ เบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สองรัชกาลในจุฬาฯ ว่า “เอ็งมีสิทธิ์อะไรไปบอกว่าการหมอบกราบไม่ใช่เรื่องถูกต้องดีงาม ถ้าคนอื่นเขาต้องการและสมัครใจจะกราบพ่อกราบแม่ปู่ย่าตายายหรือกราบใครก็ตาม เอ็งไปเสือกอะไรกับเขา ถ้าที่บ้านเอ็ง พ่อแม่ปู่ยาตายายของเอ็งไม่สั่งไม่สอนให้กราบไหว้ก็เรื่องของบ้านเอ็ง แต่อยากไปจุ้นจ้านเจ้ากี้เจ้าการกับกิจของผู้อื่น”
ส่วนที่มีผู้ถามว่า ทำไมผู้บริหารจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยชุดปัจจุบันจึงไม่ลงโทษเด็กอยากดังที่ก่อเหตุขัดขวางพิธีกรรม
ในครั้งนี้ ก็ต้องตอบว่า ขอให้รอดูก่อนว่าผู้บริหารมีความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด
ส่วนที่มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ว่า สุดท้ายเรื่องนี้ก็คงจะเงียบไปโดยไม่มีข้อสรุปใดๆ ก็ต้องบอกว่าอย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ โปรดให้เวลาเขาสะสางปัญญานี้ในเวลาอันเหมาะสม อย่าไปก้าวก่ายการตัดสินใจทำงานของเขา
ส่วนที่มีนิสิตเก่าบางกลุ่มบอกว่าต้องเดินขบวนประท้วงพฤติกรรมอยากดังของเด็ก และเพื่อประท้วงการที่ผู้บริหารจุฬาฯ ชุดนี้ปล่อยปละละเลยให้เด็กอยากดังละเมิดพิธีการของจุฬาฯ ผู้เขียนก็ขออนุญาตเสนอว่า อย่าทำเลย เพราะจะเท่ากับการเอาไม้สั้นไปรันขี้ ซึ่งเป็นการเสียมากกว่าได้ แล้วจะยิ่งทำให้เด็กอยากดังรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่ามากเกินความเป็นจริง เพราะแค่การทำพฤติกรรมประหลาด แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นคนที่สังคมกล่าวถึงอย่างอึงมี่
โบราณสอนไว้ว่า ขี้มันเหม็น ถ้ายิ่งเราเอาไม้สั้นไปรันมันหรือไปเขี่ยไปคุ้ยมัน ขี้หรือของสกปรกก็จะกระเด็นถูกมือเรา แล้วก็จะเท่ากับช่วยขยายให้กลิ่นขี้ที่เหม็นแพร่กระจายออกไป
เพราะฉะนั้น ทางที่ดีที่สุดคือ อย่าไปอยู่ใกล้ขี้ อย่าเอาจมูกไปดมมัน จงปล่อยให้ขี้กองนั้นแห้งไปเอง แล้วสุดท้ายขี้ก็จะไม่มีอิทธิพลใดต่อตัวของเรา แต่ถ้าเรายังไปยุ่งวุ่นวายกับขี้ตลอดเวลา เราก็อาจจะไม่ต่างไปจากมัน
จงปล่อยให้คนอยากดังแสดงความบ้า ไร้สาระไปสักพัก เมื่อมันรู้ว่าไม่มีใครสนใจความบ้าของมัน มันจะเลิกบ้าไปเอง
เฉลิมชัย ยอดมาลัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี